คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยานพาหนะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 202 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2529/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบยานพาหนะในความผิดวิ่งราวทรัพย์: ต้องใช้ในการกระทำความผิดโดยตรงเท่านั้น
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336ทวิ หาได้บัญญัติให้ถือว่ายานพาหนะดังกล่าวในมาตรานี้เป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดด้วยไม่ แต่เป็นเพียงบทบัญญัติถึงเหตุที่จะทำให้ผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษหนักขึ้นเท่านั้น ส่วนปัญหาที่ว่ายานพาหนะใดเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดซึ่งศาลมีอำนาจสั่งริบตามมาตรา 33(1) นั้น ต้องพิจารณาดูตามพฤติการณ์ของการกระทำแต่ละเรื่องไป ว่าผู้กระทำผิดได้ใช้ยานพาหนะนั้นในการกระทำความผิดหรือไม่
จำเลยวิ่งราวสร้อยคอโดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้าแล้วพาหนีไปโดยใช้รถจักรยานสองล้อเป็นพาหนะ รถดังกล่าวเป็นเพียงยานพาหนะที่จำเลยใช้ภายหลังการวิ่งราวทรัพย์หาใช่ใช้ในการวิ่งราวทรัพย์ไม่ จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ศาลมีอำนาจสั่งริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต และการใช้ยานพาหนะเป็นอุปกรณ์ในการกระทำผิด ทำให้ต้องริบรถยนต์
ไม้ของกลางเป็นไม้หวงห้ามที่ยังไม่ได้แปรรูปและไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงประทับไว้ จำเลยรู้อยู่แล้วว่ามีผู้ตัดฟันโดยไม่ชอบ ยังนำมาไว้ในความครอบครองของจำเลย อันเป็นความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำความผิดตามมาตรา11, 69, 70, 73แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 เมื่อจำเลยมีไม้หวงห้ามดังกล่าวไว้โดยมิได้รับอนุญาต ด้วยการใช้รถยนต์ของกลางบรรทุกไม้ดังกล่าวมา อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 69ย่อมเป็นการใช้รถยนต์ของกลางเป็นอุปกรณ์เพื่อให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามมาตรา 69 และมาตรา 74 ทวิ โดยตรงอยู่แล้ว จึงต้องริบรถยนต์ของกลาง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต และการใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิด ทำให้ต้องริบยานพาหนะ
ไม้ของกลางเป็นไม้หวงห้ามที่ยังไม่ได้แปรรูปและไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงประทับไว้ จำเลยรู้อยู่แล้วว่ามีผู้ตัดฟันโดยไม่ชอบ ยังนำมาไว้ในความครอบครองของจำเลยอันเป็นความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำความผิดตามมาตรา11,69,70,73 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 เมื่อจำเลยมีไม้หวงห้ามดังกล่าวไว้โดยมิได้รับอนุญาต ด้วยการใช้รถยนต์ของกลางบรรทุกไม้ดังกล่าวมา อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 69 ย่อมเป็นการใช้รถยนต์ของกลางเป็นอุปกรณ์เพื่อให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามมาตรา 69 และมาตรา 74 ทวิ โดยตรงอยู่แล้ว จึงต้องริบรถยนต์ของกลาง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1881/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสุกรออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านศุลกากร และการริบยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำผิด
เรือยนต์ชนิดเพลาใบจักรที่ใช้บรรทุกสุกรที่มีชีวิตอันเป็นของที่ไม่ต้องเสียภาษีออกนอกราชอาณาจักร โดยมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง ซึ่งเป็นความผิดอย่างหนึ่งตามมาตรา 27แห่งพระราชบัญญัติศุลกากรฯ นั้น ไม่ใช่ยานพาหนะที่ใช้ในการย้าย ถอน ซ่อนเร้น หรือขนของที่ยังมิได้เสียภาษี หรือที่ต้องจำกัดหรือต้องห้าม ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากรฯ ว่าให้ริบเสียสิ้น จึงริบเรือยนต์พร้อมเครื่องจักรของกลางไม่ได้
สิ่งของที่นำเข้าหรือออกนอกราชอาณาจักร จะต้องเสียภาษีศุลกากรหรือไม่นั้น จะต้องกำหนดไว้ในกฎหมายจึงเป็นเรื่องที่ศาลต้องรู้เอง
หน้าที่พิสูจน์ที่ตกอยู่แก่จำเลยตามมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากรฯนั้น เป็นเรื่องการฟ้องร้องเกี่ยวด้วยของที่ยึด เพราะหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากรหรือเป็นของที่พึงริบ หรือเพื่อเอาค่าปรับตามพระราชบัญญัตินี้ หากจำเลยมีข้อโต้เถียงว่าเสียภาษีศุลกากรถูกต้องแล้ว หรือนำเข้าหรือนำออกเป็นการชอบด้วยกฎหมาย ต่างกับกรณีของจำเลยคดีนี้ที่ปฏิเสธว่ามิได้นำสุกรออกนอกราชอาณาจักร แต่เป็นการขนหรือบรรทุกในประเทศลาว ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถ ผู้ขับขี่มีหน้าที่ต้องระมัดระวังเมื่อเห็นยานพาหนะขับขี่ผิดปกติ
จำเลยขับรถประจำทางมาตามถนนได้เห็นรถยนต์บรรทุกคันหนึ่งกำลังแล่นสวนทางมาในระยะห่างไปไม่น้อยกว่า 50 เมตร ในลักษณะผิดธรรมดา โดยแล่นกินทางตรงข้ามเข้ามาด้วยความเร็วสูงและส่ายไปมา เช่นนี้จำเลยควรมีหน้าที่หยุดรถหรือชลอรถแอบเข้าข้างทาง แต่กลับคงขับรถต่อไป และเพิ่งจะห้ามล้อเมื่อใกล้กันในระยะเพียง 7-8 เมตร และหักรถไปทางขวาเป็นเหตุให้รถชนกับรถบรรทุกนั้นจนมีผู้ตายและบาดเจ็บถือว่าเป็นการกระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์และอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้เพียงพอไม่ จำเลยจึงมีความผิดฐานประมาททำให้คนตายและบาดเจ็บ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ กรณีมีไม้แปรรูปไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต
จำเลยมีไม้หวงห้ามแปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตและจำเลยใช้รถยวนต์บรรทุกไม้นั้นมาจนถูกจับ รถยนต์ที่ใช้บรรทุกไม้นั้นจึงเป็นยานพาหนะที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิด คือ การมีไม้แปรรูปไว้ อันต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 74 ทวิ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1741/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้เริ่มก่อการบริษัทที่ยังไม่ได้จดทะเบียนต่อความเสียหายที่เกิดจากยานพาหนะ
บรรยายฟ้องว่า บริษัทจำกัดทำละเมิด ต่อมาภายหลังปรากฏว่าบริษัทนั้นยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล โจทก์ก็ขอให้ศาลเรียกผู้เริ่มก่อการและเป็นหุ้นส่วนในบริษัทนั้นเข้ามาเป็นจำเลยรับผิดต่อโจทก์เป็นส่วนตัว ในฐานะผู้เริ่มก่อการและผู้ถือหุ้นได้ ไม่ทำให้คำฟ้องเคลือบคลุมประการใด เพราะคำฟ้องยังใช้ได้อยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172
บริษัทที่ยังมิได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลนั้น หากทำให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นในนามบริษัทขึ้น ผู้เริ่มก่อการก็ต้องรับผิดเป็นส่วนตัวอยู่จนกว่าที่ประชุมตั้งบริษัทจะได้มีอนุม้ติและได้จดทะเบียนบริษัทแล้ว
จดทะเบียนเป็นผู้เริ่มก่อการและเป็นผู้ถือหุ้นในหนังสือบริคณห์สนธิแล้ว หากจะเปลี่ยนแปลงก็ต้องจดทะเบียน ณ หอทะเบียนแห่งเดียวกันนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1016 วรรค 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1574/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบยานพาหนะ (เกวียนและโค) ที่ใช้ในการกระทำผิดตัดไม้ทำลายป่า แม้เจ้าของยานพาหนะจะไม่ได้ถูกลงโทษในความผิดนั้นโดยตรง
เมื่อปรากฏว่า เกวียนและโคของกลางใช้บรรทุกไม้ท่อนซึ่งตัดโดยผิดกฎหมายแล้วชักลากออกจากป่าเพื่อจะเอาไม้นั้น จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 เป็นเจ้าของเกวียนหรือผู้ใช้เกวียนนั้นได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ได้ช่วยขนไม้นี้ออกจากป่า แม้จะเป็นการใช้เพื่อประโยชน์ของจำเลยที่ 1 ก็ตาม แต่เมื่อการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ ฯ แล้วเกวียนและโคเหล่านั้นย่อมนับได้ว่าเป็นยานพาหนะซึ่งบุคคลได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิดตามมาตรา 11 จึงเป็นยานพาหนะที่เข้าข่ายต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 18 แม้ถึงว่าจำเลยที่ 2 ถึงที่ 8 จะมิได้ถูกลงโทษในความผิดตามมาตรา 11 ด้วยก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 967/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยานพาหนะนำส่งยาเสพติด ไม่ใช่ทรัพย์สินที่ต้องริบ
รถยนต์ที่ใช้เป็นยานพาหนะนำพาฝิ่นไป ไม่เกี่ยวกับการมีฝิ่นไว้ในครอบครอง จึงไม่เป็นของที่ต้องริบตาม พ.ร.บ. ฝิ่น พ.ศ. 2472 มาตรา 69

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 967/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยานพาหนะที่ใช้ขนส่งยาเสพติด ไม่ใช่ของที่ต้องริบ หากไม่เกี่ยวข้องกับการครอบครอง
รถยนต์ที่ใช้เป็นยานพาหนะนำพาฝิ่นไป ไม่เกี่ยวกับการมีฝิ่นไว้ในครอบครอง จึงไม่เป็นของที่ต้องริบตาม พระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ.2472 มาตรา 69
of 21