พบผลลัพธ์ทั้งหมด 243 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกล้างสัญญาประกันชีวิตเนื่องจากผู้เอาประกันภัยปกปิดข้อมูลสุขภาพที่เป็นสาระสำคัญ
หน้าที่เปิดเผยข้อความจริงของผู้เอาประกันภัย มิได้สิ้นสุดลงเพียงในชั้นยื่นคำเสนอขอเอาประกันภัยโดยกรอกคำตอบในแบบคำขอนั้นเท่านั้น แต่ยังคงมีอยู่ตลอดเวลาในระหว่างนั้นเรื่อยไปจนถึงเวลาที่ผู้รับประกันภัยสนองตอบรับจนเกิดเป็นสัญญาขึ้นแล้วระหว่างคู่กรณี ฉะนั้น ในกรณีประกันชีวิต แม้ผู้เอาประกันภัยจะได้กรอกแบบคำขอเอาประกันชีวิตแล้ว โดยเฉพาะในข้อถามที่ 7 ว่า ตนไม่เคยเป็นโรคกระเพาะอักเสบ โรคตับอักเสบ ฯลฯ ยื่นส่งแก่บริษัทประกันภัยไปแล้วก็ตาม ถ้าภายหลังนั้นผู้เอาประกันภัยเกิดป่วยต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลด้วยโรคกระเพาะอาหารและโรคตับแข็งซึ่งเป็นผลให้ข้อความจริงซึ่งได้แถลงไปแล้วแต่แรกนั้นคลาดเคลื่อนไม่ตรงต่อความเป็นจริง และผู้เอาประกันภัยย่อมทราบว่ายังอยู่ในระหว่างเวลาที่บริษัทยังพิจารณาคำขอ และยังมิได้ออกกรมธรรม์ตอบรับมา ทั้งข้อถามต่างๆ ในแบบคำขอนั้น ผู้เอาประกันภัยเองก็ได้ทราบและรับรองไว้ว่าเป็นข้อความจริงอันเป็นมูลฐานและสารสำคัญแห่งการออกกรมธรรม์ของฝ่ายผู้รับประกันภัยดังนี้ ย่อมมีผลให้สัญญาไม่สมบูรณ์เป็นโมฆียะ ผู้รับประกันภัยมีสิทธิบอกล้างและคืนแต่ค่าไถ่ถอนกรมธรรม์ให้แก่ทายาทของผู้เอาประกันภัยเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2667/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชี แม้ข้อเท็จจริงต่างจากที่ฟ้องก็ไม่ถึงขนาดเป็นสาระสำคัญ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คจำนวนเงินสูงกว่าที่มีในบัญชีแต่ทางพิจารณากลับได้ความว่า จำเลยไม่มีเงินในบัญชีเลยนั้น ข้อแตกต่างดังกล่าวนี้หาใช่ข้อสาระสำคัญในคดีไม่ ที่จำเลยปฏิเสธและนำสืบว่าได้ออกเช็คเพื่อเป็นประกัน เห็นได้ชัดว่าจำเลยไม่ได้หลงข้อต่อสู้ จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2311/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลียนแบบเครื่องหมายการค้า: การพิจารณาความแตกต่างของรูปและคำรวมถึงสาระสำคัญของเครื่องหมาย
เครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วมใช้ตัวหนังสือว่า LEVI'Sมีช่องผ่ากลางตัวหนังสือนั้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ภายในรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายังมีตัวหนังสืออีก 4 คำบรรจุอยู่ส่วนเครื่องหมายที่จำเลยใช้มีตัวหนังสือว่า LEVIE ไม่มีช่องผ่ากลางตัวหนังสือดังกล่าวเครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วมมีรูปคล้ายสี่เหลี่ยมคางหมู มีหยักด้านล่างเป็นเส้นโค้งสองอันติดกัน กับมีหยักเป็นเหลี่ยมที่มุมบนทั้งสองมุมแต่เครื่องหมายที่จำเลยใช้ทั้งแบบ ก. และ ข. เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ส่วนแบบ ค. มีรูปสี่เหลี่ยมมุมบนทั้งสองข้างไม่หยัก ด้านล่างยังอยู่ภายในกรอบของรูปสี่เหลี่ยมอีกอันหนึ่ง และเครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วมยังมีตัวหนังสืออื่นๆ ตลอดจนลวดลายผิดกับเครื่องหมายที่จำเลยใช้ทั้งสิ้น เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่าแตกต่างกันมาก ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยได้เลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วมเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นเครื่องหมายของโจทก์ร่วม
เครื่องหมายการค้าที่โจทก์ร่วมจดทะเบียนไว้เป็นรูปและคำแม้เฉพาะคำในเครื่องหมายที่จำเลยใช้ก็มีตัวอักษรและลักษณะแตกต่างกับคำในเครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วม ดังนี้ จะถือเอาคำ (LEVI'S) เป็นสารสำคัญแต่ประการเดียวหาได้ไม่
เครื่องหมายการค้าที่โจทก์ร่วมจดทะเบียนไว้เป็นรูปและคำแม้เฉพาะคำในเครื่องหมายที่จำเลยใช้ก็มีตัวอักษรและลักษณะแตกต่างกับคำในเครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วม ดังนี้ จะถือเอาคำ (LEVI'S) เป็นสารสำคัญแต่ประการเดียวหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันเวลาเกิดเหตุในฟ้องไม่เป็นสาระสำคัญ หากจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ ฟ้องยังใช้ได้
วันเวลาเกิดเหตุในคำฟ้องเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง หาใช่ข้อสารสำคัญไม่ ฉะนั้น แม้ทางพิจารณาจะฟังว่าเหตุเกิดคนละวันกับที่ระบุมาในฟ้อง และจำเลยก็มิได้หลงข้อต่อสู้ ย่อมเป็นฟ้องที่ใช้ได้ (เทียบฎีกาที่ 926/2510 ในที่ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันเวลาเกิดเหตุในฟ้อง ไม่ใช่สาระสำคัญ หากจำเลยไม่หลงต่อสู้ ศาลยังสามารถลงโทษได้
วันเวลาเกิดเหตุในคำฟ้องเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง หาใช่ข้อสารสำคัญไม่ ฉะนั้น แม้ทางพิจารณาจะฟังว่าเหตุเกิดคนละวันกับที่ระบุมาในฟ้องและจำเลยก็มิได้หลงข้อต่อสู้ย่อมเป็นฟ้องที่ใช้ได้ (เทียบฎีกาที่ 926/2510 ในที่ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันเวลาเกิดเหตุในฟ้อง ไม่ใช่สาระสำคัญ หากจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ ฟ้องยังใช้ได้
วันเวลาเกิดเหตุในคำฟ้องเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง หาใช่ข้อสารสำคัญไม่. ฉะนั้น แม้ทางพิจารณาจะฟังว่าเหตุเกิดคนละวันกับที่ระบุมาในฟ้อง. และจำเลยก็มิได้หลงข้อต่อสู้. ย่อมเป็นฟ้องที่ใช้ได้ (เทียบฎีกาที่ 926/2510 ในที่ประชุมใหญ่).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าต่อ: การตกลงอัตราค่าเช่าใหม่เป็นสาระสำคัญ, 'หรือ' บ่งชี้การตกลงร่วมกัน
โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาเช่าต่อกัน.มีข้อความว่า'ผู้ให้เช่าจะยอมให้ผู้เช่าเช่าสถานที่ต่อไปอีกคราวหนึ่งมีกำหนด 10 ปี ในอัตราค่าเช่าอย่างเดิมหรืออัตราค่าเช่าอื่นใดสุดแต่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะตกลงกัน' นั้นหมายความว่าการที่โจทก์จะยอมให้จำเลยเช่าต่อไป 10 ปีนั้น อัตราค่าเช่าจะเป็นอย่างเดิมก็ดี หรืออย่างอื่นใดก็ดีโจทก์จำเลยจะต้องตกลงซึ่งกันและกันเสียก่อนซึ่งเป็นสารสำคัญของการเช่าตามกฎหมาย และเป็นเจตนาของคู่สัญญาด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันเวลาในคำฟ้องไม่ใช่สาระสำคัญ หากจำเลยให้การรับสารภาพและพฤติกรรมตามฟ้องเป็นความผิด
ฟ้องว่าเหตุเกิดวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2510 แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเหตุเกิดวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2510 ข้อเท็จจริงจึงต่างกับฟ้อง แต่วันเวลาในคำฟ้องไม่เป็นสารสำคัญของคำฟ้อง เป็นแต่เพียงรายละเอียดเพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหาเท่านั้น และทั้งจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ เพราะจำเลยให้การรับสารภาพ หากทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามสารสำคัญของคำฟ้องแล้ว ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยได้ (อ้างฎีกาที่ 926/2510).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันเวลาในคำฟ้องไม่เป็นสาระสำคัญ หากพิสูจน์ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามสาระสำคัญของคำฟ้อง ศาลลงโทษได้
ฟ้องว่าเหตุเกิดวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2510 แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเหตุเกิดวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2510ข้อเท็จจริงจึงต่างกับฟ้องแต่วันเวลาในคำฟ้องไม่เป็นสารสำคัญของคำฟ้องเป็นแต่เพียงรายละเอียดเพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหาเท่านั้นและทั้งจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้เพราะจำเลยให้การรับสารภาพหากทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามสารสำคัญของคำฟ้องแล้วศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยได้(อ้างฎีกาที่ 926/2510)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันเวลาในฟ้องไม่เป็นสาระสำคัญ หากพิสูจน์ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามสาระสำคัญของฟ้อง ศาลลงโทษได้
ฟ้องว่าเหตุเกิดวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2510 แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเหตุเกิดวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2510.ข้อเท็จจริงจึงต่างกับฟ้อง. แต่วันเวลาในคำฟ้องไม่เป็นสารสำคัญของคำฟ้อง. เป็นแต่เพียงรายละเอียดเพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหาเท่านั้น. และทั้งจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้.เพราะจำเลยให้การรับสารภาพ. หากทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามสารสำคัญของคำฟ้องแล้ว. ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยได้.(อ้างฎีกาที่ 926/2510).