คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หลักประกัน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 183 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1021/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนหลักประกันเมื่อคดีถึงที่สุด แม้มีการอุทธรณ์ระหว่างดำเนินคดี
คดีอาญา เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วต้องคืนหลักประกันแก่ผู้ที่ควรรับไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักประกันจากคดีอื่นยังไม่ถือเป็นเหตุรอนสิทธิหรือเสื่อมราคา
การที่จำเลยทำสัญญาประกันต่อศาลโดยนำหลักประกันที่เคยประกันในคดีเรื่องอื่นมาแล้วและยังมีผลบังคับอยู่เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าหลักประกันนั้นมีภาระผูกพันอันจะทำให้เป็นเหตุรอนสิทธิหรือเสื่อมราคา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์หลังกู้เงินและมอบที่นาเป็นหลักประกัน หากผู้กู้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนด สิทธิครอบครองจะเปลี่ยนเป็นของเจ้าหนี้
พฤตติการณ์ที่ถือว่าเป็นการครอบครองปรปักษ์กู้เงินกันแล้วมอบที่นามือเปล่าให้ทำต่างดอกเบี้ยโดยสัญญากันว่าเมื่อถึงกำหนด 2 ปีผู้กู้ไม่มาเอานาไปก็ยอมมอบนาให้แก่ผู้ให้กู้ครั้นครบกำหนด 2 ปีผู้กู้ก็ไม่ชำระเงิน ผู้ให้กู้จึงครอบครองที่นาต่อมานับแต่วันครบกำหนดเกิน 1 ปีแล้วดังนี้ผู้กู้จะเอาที่นาคืนมิได้ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.84 (1) ,183 ประเด็น เอกสารซึ่งคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายรับรองความเท็จจริงไว้แล้ว แม้ในชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบถึงปีที่ลงไว้ในเอกสารนั้นผิดไปก็ดี ก็ไม่เรียกว่าโจทก์สืบผิดประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้เงินโดยมีที่นาเป็นหลักประกันชั่วคราว ไม่ถือเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้กู้มีสิทธิเรียกคืนเมื่อครบกำหนด
กู้เงินกันโดยมอบที่นาให้ทำเป็นการหัดลดเงินกู้ ที่นารายนั้นไม่ตกเป็นทรัพย์สินของผู้ให้กู้ และเมื่อผู้ให้กู้ตายผู้กู้ฟ้องเรียกที่นาคืนจากผู้รับมฤดกของผู้ให้กู้ เมื่อเกิน 1 ปีปับแต่วันที่ผู้ให้กู้ตายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2478

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางทรัพย์เป็นหลักประกันการพนัน มิใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการพนัน มีความผิดฐานลักทรัพย์
เล่นพะนันกันโดยเอาทรัพย์อย่างอื่นออกวางตีราคาแทนเงินเพื่อให้เจ้ามือเชื่อถือยอมให้แทง มิใช่นำออกวางเพื่อเป็นสินพะนัน เมื่อแพ้พะนันผู้ชนะรวมเอาทรัพย์นั้นไปโดยทุจริตมีความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 805/2472

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหนี้มีประกันไม่ต้องระบุหลักประกันของผู้อื่นในฟ้องล้มละลาย ศาลฎีกาไม่ผูกพันข้อเท็จจริงศาลอุทธรณ์หากไม่มีพยาน
เจ้าหนี้มีประกันไม่จำต้องระบุหลักประกันของคนอื่นในฟ้อง วิธีพิจารณาแพ่ง ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงโดยไม่มีพะยานหรือเหตุผล ศาลฎีกาไม่จำต้องถือตาม พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ ปัญหากฎหมาย ฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10605/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ จำเลยต้องตรวจสอบหลักประกันก่อนรับโอน หากรับโอนแล้วมีผลผูกพันต้องชำระหนี้
โจทก์ในฐานะผู้โอนกับจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้รับโอน ตกลงทำสัญญาโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของผู้โอนรวมตลอดถึงสิทธิอื่นใดเหนือทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันการชำระหนี้สำหรับสินทรัพย์ด้อยคุณภาพนั้นตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ระบุไว้ใน พ.ร.ก.บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ.2544 และสัญญานี้ และสิทธิหรือภาระผูกพันอื่นใดที่ผู้โอนมีต่อลูกหนี้ โจทก์โอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพรายบริษัท อ. มีหลักประกันเป็นสิทธิการเช่าอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ให้แก่จำเลยที่ 1 โดยโฉนดอันเป็นที่ตั้งอาคารพาณิชย์ที่เช่าไม่ปรากฏชื่อบริษัท อ. ในฐานะผู้เช่า แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า สิทธิการเช่าอาคารซึ่งเป็นหลักประกันสินทรัพย์ด้อยคุณภาพรายนี้ บริษัท อ. ซึ่งเป็นลูกหนี้สินทรัพย์ด้อยคุณภาพเช่าอาคารจาก ส. มีการทำหนังสือสัญญาเช่าช่วงและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่ง ส. ทำหนังสือยินยอมอนุญาตให้มอบสิทธิการเช่าอาคารเป็นหลักประกันการชำระหนี้แก่โจทก์ โดยตกลงยินยอมโอนสิทธิการเช่าให้แก่โจทก์หรือบุคคลที่โจทก์กำหนด และจะไม่โอนสิทธิการเช่าให้แก่บุคคลอื่นเว้นแต่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ โดย ส. เช่าอาคารดังกล่าวจาก ช. โดยมีข้อตกลงให้เช่าช่วงได้ มีการทำหนังสือสัญญาเช่าและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ส่วน ช. เช่าที่ดินที่ตั้งอาคารดังกล่าวเพื่อสร้างอาคารจาก ศ. โดยผู้ให้เช่าที่ดินตกลงให้เช่าช่วงอาคารได้แต่ไม่ให้เช่าช่วงที่ดิน มีการทำหนังสือสัญญาเช่าและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จากสัญญาเช่าและข้อตกลงต่าง ๆ ข้างต้น สิทธิการเช่ารายนี้อาจจำหน่ายหรือโอนได้ แต่ต้องเป็นไปเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ ดังนั้น สิทธิการเช่ารายนี้เมื่ออาจจำหน่ายหรือโอนได้ย่อมมีราคา จึงเป็นทรัพย์สินที่ไม่มีรูปร่างที่อาจนำไปจำหน่ายหรือโอนได้ ซึ่งลูกหนี้ให้ไว้แก่โจทก์เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ของตนตามสัญญาให้สินเชื่อตามคำจำกัดความ "ทรัพย์สินที่เป็นหลักประกัน" แล้ว สินทรัพย์ด้อยคุณภาพรายนี้จึงมีลักษณะตาม พ.ร.ก.บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ.2544 มาตรา 31 (1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8310/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า: ความรับผิดเกิดขึ้นเมื่อวางหลักประกันฯ ไม่ใช่เมื่อชำระภาษี
ตาม ป.รัษฎากร มาตรา 78/2 ไม่ได้ให้สิทธิแก่ผู้ประกอบการที่วางหลักประกันโดยได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนไว้เป็นพิเศษ ความรับผิดของโจทก์สำหรับสินค้าเครื่องจักรที่ไม่ได้รับอนุมัติให้ยกเว้นภาษีอากรจึงมีฐานะเช่นเดียวกับผู้นำเข้าที่วางหลักประกันอากรขาเข้าอื่น กล่าวคือ ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในส่วนนี้เกิดขึ้นเมื่อโจทก์วางหลักประกันอากรขาเข้า เมื่อโจทก์ยังไม่ได้ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มในเวลาที่โจทก์วางหลักประกันอากรขาเข้า โจทก์คงนำเงินไปชำระค่าภาษีอากรภายในกำหนดเวลา 30 วัน นับแต่ได้รับแจ้งการประเมิน จึงยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้ชำระค่าภาษีอากรครบถ้วนในกำหนดเวลาตามมาตรา 78/2 โจทก์จึงต้องรับผิดชำระเบี้ยปรับตามมาตรา 89 (3) และรับผิดชำระเงินเพิ่มตามมาตรา 89/1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8301/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้ากรณีวางหลักประกันและการชำระภาษีล่าช้า
ตาม ป.รัษฎากร มาตรา 78/2 ไม่ได้ให้สิทธิแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับบัตรส่งเสริมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนในกรณีนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าเป็นการเฉพาะ ความรับผิดของโจทก์สำหรับสินค้าเครื่องจักรที่ไม่ได้รับอนุมัติให้ยกเว้นภาษีอากรจึงมีฐานะเช่นเดียวกับผู้นำเข้าที่วางหลักประกันอากรขาเข้าอื่น กล่าวคือ ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในส่วนนี้เกิดขึ้นเมื่อโจทก์วางหลักประกันอากรขาเข้า แม้โจทก์จะนำเงินไปชำระค่าภาษีอากรภายในกำหนดเวลา 30 วัน นับแต่ได้รับแจ้งการประเมินก็ตาม ก็ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้ชำระค่าภาษีอากรครบถ้วนในกำหนดเวลาตามมาตรา 78/2 โจทก์จึงต้องรับผิดชำระเบี้ยปรับตาม ป.รัษฎากร มาตรา 89 (3) และรับผิดชำระเงินเพิ่มตาม ป.รัษฎากร มาตรา 89/1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8300/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้รับการยกเว้นอากร ความรับผิดเกิดขึ้นเมื่อวางหลักประกัน
ตาม ป.รัษฎากร มาตรา 78/2 ไม่ได้ให้สิทธิแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับบัตรส่งเสริมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนในกรณีนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าเป็นกรณีพิเศษ ความรับผิดของโจทก์สำหรับสินค้าเครื่องจักรที่ไม่ได้รับอนุมัติให้ยกเว้นภาษีอากรจึงมีฐานะเช่นเดียวกับผู้นำเข้าที่วางหลักประกันอากรขาเข้าอื่น กล่าวคือ ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในส่วนนี้เกิดขึ้นเมื่อโจทก์วางหลักประกันอากรขาเข้า แม้ขณะโจทก์นำเข้าสินค้า เครื่องจักรบางรายการยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน โดยโจทก์วางหนังสือค้ำประกันของธนาคารเป็นหลักประกันการชำระภาษีอากรเพื่อโจทก์จะได้นำสินค้าพิพาทออกจากอารักขาของกรมศุลกากรและต่อมาสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้อนุมัติยกเว้นอากรขาเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้าบางส่วนและบางส่วนให้ชำระอากร หลังจากนั้นโจทก์นำเงินไปชำระค่าภาษีอากรภายในกำหนดเวลา 30 วัน นับแต่ได้รับแจ้งการประเมินก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ยังไม่ได้ชำระค่าภาษีมูลค่าเพิ่มในเวลาที่โจทก์วางหลักประกันอากรขาเข้า จึงยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้ชำระค่าภาษีอากรครบถ้วนในกำหนดเวลาตามมาตรา 78/2 อันจะเป็นเหตุทำให้ไม่ต้องเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่มสำหรับภาษีมูลค่าเพิ่ม โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่จำเลย
of 19