พบผลลัพธ์ทั้งหมด 278 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบปล้นทรัพย์แล้วมีผู้เสียชีวิต โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าจำเลยเกี่ยวข้องกับการฆ่าโดยตรงจึงจะผิดตาม ม.289(7)
จำเลยสมคบกับพวกทำการปล้นทรัพย์. เมื่อปล้นทรัพย์แล้วระหว่างที่พาเอาทรัพย์หนีไปและเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นจากการจับกุมและปกปิดการกระทำของพวกตน. พวกของจำเลยคนใดคนหนึ่งซึ่งไม่ปรากฏจากข้อเท็จจริงแน่ชัดว่าเป็นคนใดได้ยิงพวกผู้เสียหายถึงตาย. เป็นเรื่องสมคบกันมาปล้นทรัพย์แล้วมีการตายเกิดขึ้น. เมื่อโจทก์นำสืบฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนยิงพวกเจ้าทรัพย์ตายหรือจำเลยได้สมคบกับคนร้ายในการปล้นรายนี้ฆ่าพวกของเจ้าทรัพย์หลังจากทำการปล้นทรัพย์แล้ว และระหว่างที่พาเอาทรัพย์หนีไป.ความผิดของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(7).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าสินไหมทดแทนการขาดอุปการะกรณีคู่สมรสเสียชีวิต: การช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันเป็นเหตุให้มีสิทธิได้รับค่าชดเชย
สามีภริยาอยู่กินด้วยกันมาได้ 30 ปีเศษ ขณะมีชีวิตอยู่ได้ช่วยเหลือในทางค้าขาย แสดงว่าสามีภริยาต่างก็มีอุปการะซึ่งกันและกัน ฉะนั้นเมื่อจำเลยทำละเมิดเป็นเหตุให้ฝ่ายหนึ่งตายลง ย่อมเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งต้องขาดไร้อุปการะและการขาดไร้อุปการะเช่นว่านี้เป็นการขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย ผู้ที่มีชีวิตอยู่จึงชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าสินไหมทดแทนจากการขาดไร้อุปการะของคู่สมรสหลังเกิดเหตุเสียชีวิต
สามีภริยาอยู่กินด้วยกันมาได้ 30 ปีเศษ ขณะมีชีวิตอยู่ได้ช่วยเหลือในทางค้าขาย แสดงว่าสามีภริยาต่างก็มีอุปการะซึ่งกันและกัน ฉะนั้นเมื่อฝ่ายหนึ่งตายลง ย่อมเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งต้องขาดไร้อุปการะและการขาดไร้อุปการะเช่นว่านี้เป็นการขาดไร้อุปการะตามกฎหมายผู้ที่มีชีวิตอยู่จึงชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าสินไหมทดแทนจากการเสียชีวิต: การขาดไร้อุปการะระหว่างสามีภริยา
สามีภริยาอยู่กินด้วยกันมาได้ 30 ปีเศษ. ขณะมีชีวิตอยู่ได้ช่วยเหลือในทางค้าขาย แสดงว่าสามีภริยาต่างก็มีอุปการะซึ่งกันและกัน. ฉะนั้นเมื่อฝ่ายหนึ่งตายลง ย่อมเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งต้องขาดไร้อุปการะและการขาดไร้อุปการะเช่นว่านี้เป็นการขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย.ผู้ที่มีชีวิตอยู่จึงชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้นได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 447/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายภรรยาจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ศาลฎีกายืนโทษฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา
จำเลยกับภรรยาโต้เถียงกัน แล้วจำเลยใช้ไม้ไผ่ซึ่งมีขนาดโตกว่าหัวแม่มือนิดหน่อย ยาวประมาณ 1 วา ตีภรรยา แต่ตีหนักมือไป ทำให้พลากไปถูกนางบุญลืมซึ่งภรรยาของจำเลยยืนเกาะหลังอยู่ถึงแก่ความตาย เมื่อภรรยาจำเลยหนีไปแล้ว จำเลยก็มิได้ตีซ้ำอีก ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าจำเลยกระทำโดยไม่รู้สำนึกในการกระทำ และมิได้ประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลว่านางบุญลืมอาจถึงแก่ความตายเพราะการกระทำของจำเลยได้ จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1085/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้กันจนถึงแก่ความตาย: ความผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา
ผู้ตายมีขวานและมีดขอเป็นอาวุธ จำเลยมีมีดพกเป็นอาวุธ ได้เข้าต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกัน โดยต่างไม่มีเวลาที่จะเลือกแทงเลือกฟันในที่สำคัญ ทั้งสองคนมีบาดแผลรวม 7 แห่งด้วยกัน
ผู้ตายเสียโลหิตมากจึงถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา ไม่ใช่ฐานฆ่าคนโดยเจตนา
ฟ้องว่าจำเลยฆ่าคนโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ทางพิจารณได้ความว่า จำเลยฆ่าคนโดยไม่เจตนา ศาลลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ได้ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง
ผู้ตายเสียโลหิตมากจึงถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา ไม่ใช่ฐานฆ่าคนโดยเจตนา
ฟ้องว่าจำเลยฆ่าคนโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ทางพิจารณได้ความว่า จำเลยฆ่าคนโดยไม่เจตนา ศาลลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ได้ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1300/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมแบ่งที่ดินมีผลผูกพัน แม้ยังมิได้จดทะเบียน หากคู่สัญญาอีกฝ่ายเสียชีวิตก่อน
โจทก์และสามีจำเลยถือกรรมสิทธิ์ที่ดินร่วมกัน และได้ตกลงแบ่งแยกที่ดินกันเป็นส่วนสัดเจ้าพนักงานได้บันทึกข้อตกลงไว้ แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนแบ่งแยก สามีจำเลยได้ตายลง ข้อตกลงของโจทก์และสามีจำเลยที่เจ้าพนักงานได้บันทึกไว้นี้ถือได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมแบ่งที่ดินกันโจทก์จะปฏิเสธไม่ปฏิบัติตามหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 119/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิ้นสุดสิทธิเช่าเมื่อผู้เช่าเสียชีวิต การชำระค่าเช่าหลังการเสียชีวิตไม่ก่อให้เกิดสัญญาเช่าใหม่
สัญญาเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้เช่าเมื่อผู้เช่าตายสิทธิการเช่าย่อมสิ้นสุดจำเลยซึ่งเป็นบุตรผู้เช่าได้อยู่ในตึกพิพาทต่อมาก็ถือว่าอยู่ในฐานะบริวารของผู้เช่าดังนั้นการที่จำเลยชำระค่าเช่าจึงเป็นการชำระในนามของผู้เช่า ไม่ก่อให้เกิดสัญญาเช่าระหว่างโจทก์และจำเลยอย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1064/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจทำจำนองและการระงับของอำนาจหลังผู้มอบอำนาจเสียชีวิต สิทธิในการยึดโฉนด
คำบรรยายฟ้องที่ถือว่าไม่เคลือบคลุมและไม่ขัดกัน
มอบอำนาจให้ไปทำจำนองและมอบโฉนดให้ไว้ ตราบใดที่ยังมิได้ไปจดทะเบียนจำนองการจำนองก็ยังไม่มีขึ้นโดยสมบูรณ์ เพราะยังไม่ได้ทำตามแบบที่กฎหมายบังคับไว้ เมื่อผู้มอบอำนาจตาย ใบมอบอำนาจย่อมระงับไป ผู้ที่รับโฉนดไว้ไม่มีสิทธิยึดโฉนดไว้ได้
มอบอำนาจให้ไปทำจำนองและมอบโฉนดให้ไว้ ตราบใดที่ยังมิได้ไปจดทะเบียนจำนองการจำนองก็ยังไม่มีขึ้นโดยสมบูรณ์ เพราะยังไม่ได้ทำตามแบบที่กฎหมายบังคับไว้ เมื่อผู้มอบอำนาจตาย ใบมอบอำนาจย่อมระงับไป ผู้ที่รับโฉนดไว้ไม่มีสิทธิยึดโฉนดไว้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสัญญาเช่าเมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดผู้เช่าสิ้นสภาพบุคคลเนื่องจากการเสียชีวิตของผู้จัดการ
ห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยเช่าตึกแถวพิพาทจากโจทก์เพื่อทำการค้า ต่อมาผู้จัดการห้างจำเลยซึ่งเป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดถึงแก่กรรม เมื่อคดีไม่มีประเด็นเรื่องการเลิกห้างโดยมีการชำระบัญชีจึงย่อยจะถือว่าห้างจำเลยยังคงตั้งอยู่เท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชีไม่ได้ และเมื่อห้างจำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าตึงรายนี้สิ้นสภาพบุคคลแล้วสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับห้างจำเลยก็ย่อยเป็นอันระงับไป บริวารของห้างจำเลยจึงย่อมไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในตึกแถวของโจทก์ได้โดยชอบต่อไป