พบผลลัพธ์ทั้งหมด 251 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2595/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมถูกห้ามโต้แย้งกรรมสิทธิ์เดิมที่ศาลตัดสินแล้ว แม้จะซื้อร่วมกัน
คดีก่อน จำเลยที่ 1 ในฐานะเจ้าของรวมได้ให้การโต้แย้งเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของในที่พิพาทแทนจำเลยที่ 2 เจ้าของรวมอีกผู้หนึ่ง ศาลได้พิพากษาถึงที่สุดแสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์มาแล้ว จำเลยทั้งสองจึงไม่อาจให้การและฟ้องแย้งเกี่ยวกับที่ดินพิพาทอ้างว่าเป็นของตนในคดีนี้ได้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1624/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้แย้งสิทธิในที่ดินที่งอกริมตลิ่ง เจ้าของที่ดินมีสิทธิขัดขวางการรังวัดออกโฉนด
จำเลยขายที่ดินมีโฉนดและที่พิพาทคือที่งอกริมตลิ่งให้ ช. แล้ว ช. โอนที่ดินนั้นรวมทั้งที่พิพาทให้โจทก์ การที่จำเลยยื่นคำขอรังวัดออกโฉนดที่ดินสำหรับที่พิพาทโดยแจ้งว่าจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่งอกริมตลิ่งอันเป็นที่พิพาท ย่อมถือว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์มีสิทธิฟ้องเพื่อห้ามมิให้จำเลยรบกวนขัดขวางหรือกระทำการใด ๆอันแสดงว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ในที่พิพาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1140/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทด้วยการกล่าวอ้างเหตุการณ์ในอดีต แม้มีการโต้แย้งอื่นอยู่ ก็ถือเป็นความผิด
ฝ่ายจำเลยและฝ่ายโจทก์ร่วมมีข้อโต้แย้งกันเรื่องแนวเขตรั้วที่จำเลยจะสร้างขึ้นใหม่ ขณะเจรจายังไม่ตกลงกันจำเลยได้กล่าวถ้อยคำต่อหน้าเจ้าพนักงานตำรวจผู้มาทำการไกล่เกลี่ยว่าที่ต้องสร้างรั้วใหม่ เพราะไอ้คนนี้ (หมายถึงโจทก์ร่วม) มันเข้าไปข่มขืนคนในบ้านฉัน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่วงเลยมาเป็นเวลานาน 2 ปีเศษแล้ว ดังนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 329
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1050/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยาน: โจทก์ต้องโต้แย้งทันที หากเห็นว่าคำสั่งไม่ชอบ มิฉะนั้นเสียสิทธิอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นสอบถามข้อเท็จจริงจากโจทก์จำเลยแล้วเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำฟ้อง คำให้การ และที่ได้ความจากการสอบถามโจทก์จำเลยมานั้นพอวินิจฉัยได้โดยไม่จำต้องทำการสืบพยาน จึงให้งดสืบพยานแล้วพิพากษาคดีโดยฟังว่าการกระทำของจำเลยเท่าที่ปรากฏไม่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำละเมิด คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานดังกล่าว เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 เมื่อโจทก์มีโอกาสโต้แย้งคำสั่งดังกล่าว แต่ไม่ได้โต้แย้งไว้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชัดเจน การฎีกาเพียงไม่เห็นด้วยโดยไม่ระบุเหตุผลไม่เป็นไปตามกฎหมาย
ฎีกานั้นจะต้องยกฟ้องข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบหรือผิดพลาดข้อไหนอย่างไร จะฎีกาแต่เพียงลอย ๆ ว่าไม่เห็นพ้องด้วยคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยมิได้โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เลยนั้น ย่อมเป็นฎีกาที่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรก ศาลฎีกาจะรับวินิจฉัยให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อย่างชัดเจน การฎีกาโดยไม่ระบุเหตุผลคัดค้านย่อมเป็นฎีกาที่ไม่รับพิจารณา
ฎีกานั้นจะต้องยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบหรือผิดพลาดข้อไหนอย่างไร จะฎีกาแต่เพียงลอย ๆ ว่าไม่เห็นพ้องด้วยคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยมิได้โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เลยนั้นย่อมเป็นฎีกาที่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249วรรคแรก ศาลฎีกาจะรับวินิจฉัยให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมาย เหตุมิได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ยกอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 224 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมแล้วพิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยจำเลยฎีกาว่า จำเลยมิได้ขับรถประมาท โจทก์เป็นฝ่ายประมาท จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ขอให้พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยตามฟ้องแย้งดังนี้ จำเลยมิได้ฎีกาโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ที่พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของจำเลยว่าไม่ชอบอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2639-2640/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้แย้งสินสมรสที่ไม่มีเหตุผลชัดเจน และคำสั่งค่าฤชาธรรมเนียมจากทรัพย์สินมรดก
ฎีกาจำเลยเป็นเพียงโต้เถียงว่าที่ดินตามบัญชีท้ายฟ้องเป็นสินเดิมของ ส. โดยมิได้อ้างข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายเป็นเหตุผลแห่งข้อโต้แย้งให้ชัดแจ้งในฎีกา ฎีกาของจำเลยในประเด็นข้อนี้จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรก
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 246 ประกอบกับมาตรา 167 บัญญัติให้เป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ในอันที่จะมีคำสั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียม ไม่ว่าคู่ความทั้งปวงหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจักมีคำขอหรือไม่ก็ดี ศาลอุทธรณ์จึงหยิบยกเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมนี้ขึ้นกล่าวเองได้ แม้ประเด็นแห่งคดีมิได้มีข้อโต้เถียงในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียม
โจทก์ได้รับอนุญาตในฟ้องคดีอย่างคนอนาถา และจำเลยได้รับอนุญาตให้อุทธรณ์อย่างคนอนาถา เมื่อเรื่องปรากฏต่อศาลอุทธรณ์ก่อนศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า โจทก์จำเลยต่างฝ่ายต่างมีส่วนได้รับทรัพย์พิพาทจากกองมรดกเป็นจำนวนมาก ถือได้ว่าทั้งโจทก์และจำเลยมีทรัพย์สินพอจะเสียค่าฤชาธรรมเนียมได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 149 ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจสั่งให้คู่ความทั้งสองฝ่ายชำระค่าฤชาธรรมเนียมที่ได้รับยกเว้น หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ให้ยึดหรืออายัดทรัพย์พิพาท แล้วเอาชำระค่าฤชาธรรมเนียมจากทรัพย์สินที่ยึดนั้นได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 246 ประกอบกับมาตรา 167 บัญญัติให้เป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ในอันที่จะมีคำสั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียม ไม่ว่าคู่ความทั้งปวงหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจักมีคำขอหรือไม่ก็ดี ศาลอุทธรณ์จึงหยิบยกเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมนี้ขึ้นกล่าวเองได้ แม้ประเด็นแห่งคดีมิได้มีข้อโต้เถียงในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียม
โจทก์ได้รับอนุญาตในฟ้องคดีอย่างคนอนาถา และจำเลยได้รับอนุญาตให้อุทธรณ์อย่างคนอนาถา เมื่อเรื่องปรากฏต่อศาลอุทธรณ์ก่อนศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า โจทก์จำเลยต่างฝ่ายต่างมีส่วนได้รับทรัพย์พิพาทจากกองมรดกเป็นจำนวนมาก ถือได้ว่าทั้งโจทก์และจำเลยมีทรัพย์สินพอจะเสียค่าฤชาธรรมเนียมได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 149 ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจสั่งให้คู่ความทั้งสองฝ่ายชำระค่าฤชาธรรมเนียมที่ได้รับยกเว้น หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ให้ยึดหรืออายัดทรัพย์พิพาท แล้วเอาชำระค่าฤชาธรรมเนียมจากทรัพย์สินที่ยึดนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้ไม่สมบูรณ์จากการหลอกลวง: จำเลยมีสิทธิโต้แย้งได้ก่อน โดยไม่ขัดมาตรา 94
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามสัญญากู้ จำเลยให้การว่าจำเลยตกลงขายที่สวนให้โจทก์ แต่โจทก์กลับหลอกลวงให้ทำหนังสือสัญญากู้ และจำเลยไม่ได้รับเงินดังนี้ เป็นการต่อสู้ว่า สัญญากู้ไม่สมบูรณ์ จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนและไม่เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงข้อความในสัญญากู้ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1178/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริง: การโต้แย้งข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ฟังแล้ว
คดีต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้ออกเช็คที่พิพาทให้โจทก์ไว้เป็นการชำระค่าเช่าโฉนดที่ดิน เพื่อนำไปประกันการเบิกเงินเกินบัญชีของจำเลยที่ธนาคาร จำเลยฎีกาว่ามูลหนี้ตามเช็คที่พิพาทต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องเพราะเป็นหนี้ที่เกิดจากการเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ดังนี้ เป็นฎีกาโต้แย้งข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้ฟังมา จึงเป็นฎีกาที่ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง