พบผลลัพธ์ทั้งหมด 356 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1156/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองยาเสพติดและกัญชา: ศาลฎีกาตัดสินยืนตามคำฟ้องเดิมเรื่องการครอบครองยาเสพติดและเพิ่มโทษฐานครอบครองกัญชา
ตำรวจจับจำเลยได้พร้อมด้วยเฮโรอีน กัญชา และบ้องกัญชาเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดฯ พ.ศ.2465 มาตรา 20 ทวิฉบับที่ 4 พ.ศ.2504 มาตรา 6 กระทงหนึ่ง ผิดตาม พระราชบัญญัติกัญชา พ.ศ.2477 มาตรา 102 กระทง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขัดขวางการตรวจค้นของเจ้าพนักงาน: เหตุสมควรสงสัยและข้อยกเว้นโทษ
วัยรุ่นกำลังเดินอยู่ในทางสาธารณะ คนหนึ่งเป็นผู้ต้องหาของตำรวจ มีผู้แจ้งว่าบุคคลเหล่านั้นจะไปทำผิดเป็นเหตุอันควรสงสัยว่าจะทำความผิดและมีอาวุธที่จะนำไปใช้ทำผิด นายตำรวจค้นได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 93 จำเลยขัดขวางโดยยิงตำรวจ เป็นความผิดตาม มาตรา 140,289,80 ลงโทษตาม มาตรา 289,80 ซึ่งเป็นบทหนัก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1331/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงต่อเนื่องหลายกรรมต่างกัน ศาลปรับบทฟ้องให้ถูกต้องแต่ไม่เพิ่มโทษ
จำเลยกับพวกยิง ด. ที่พื้นดินคนละ 1 นัด แล้วจำเลยกับพวกขึ้นเรือน อ. แล้วขึ้นเรือน ส. ลงจากเรือน ส. ไปพบ ถ. เดินมา จำเลยกับพวกยิง ถ. อีกคนละ 1 นัด ดังนี้ เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ต่างกระทง กัน โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยยิง ด. และยิง ถ. หลายนัด พอถือได้ว่าฟ้องเป็นสองกรรมต่างกัน แต่ศาลชั้นต้นลงโทษกรรมเดียว โจทก์มิได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกาปรับบทให้ถูก แต่ไม่เพิ่มเติมโทษ
ยิงคนหนึ่งตาย กระสุนเลยไปถูกอีกคนหนึ่ง แต่ไม่ตายเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80 กรรมเดียวกัน
ยิงคนหนึ่งตาย กระสุนเลยไปถูกอีกคนหนึ่ง แต่ไม่ตายเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80 กรรมเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงโทษและข้อหาอาญาในชั้นอุทธรณ์และการฎีกา
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลย 3 ปี ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ศาลอุทธรณ์แก้เป็นจำคุกจำเลย 2 ปี ตาม มาตรา 265 ยกข้อหาตาม มาตรา 268 เป็นการแก้ทั้งบทและกำหนดโทษ เป็นแก้มาก โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ปล้นทรัพย์ด้วยอาวุธ: จำเลยไม่มีอาวุธปืน โทษฐานปล้นทรัพย์ไม่เข้า มาตรา 340 ตรี
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องอีก 4 คน ร่วมกันมีปืนเป็นอาวุธทำการปล้นทรัพย์ ได้ความว่าจำเลยที่ 2 มิได้มีอาวุธอะไรเลย และจำเลยที่ 1 มีเพียงมีดปลายแหลมอย่างเดียวเท่านั้น คนร้ายที่มีปืนคือพวกที่ยังจับตัวไม่ได้ ดังนี้ การกระทำของจำเลยทั้งสองไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ข้อ 15
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 340 ตรี, 83 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ข้อ 14, 15 ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ตามบทมาตราดังกล่าวด้วย จำเลยที่ 2 ฎีกาดังนี้ แม้จำเลยที่ 1 จะมิได้อุทธรณ์ฎีกา ถ้าศาลฎีกาเห็นว่าการกระทำของจำเลยทั้งสองไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ข้อ 15 ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่ 1 ได้ เพราะเป็นเหตุในลักษณะคดี
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 340 ตรี, 83 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ข้อ 14, 15 ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ตามบทมาตราดังกล่าวด้วย จำเลยที่ 2 ฎีกาดังนี้ แม้จำเลยที่ 1 จะมิได้อุทธรณ์ฎีกา ถ้าศาลฎีกาเห็นว่าการกระทำของจำเลยทั้งสองไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ข้อ 15 ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่ 1 ได้ เพราะเป็นเหตุในลักษณะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1021/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปล้นทรัพย์: ความผิดและโทษของตัวการร่วมที่ใช้อาวุธ และผู้ร่วมกระทำที่ไม่ใช้อาวุธ
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า การปล้นได้กระทำไปโดยจำเลยที่ 1 กับพวกอีก 2 คน มีอาวุธปืนติดตัว จำเลยที่ 2 ผู้ร่วมกระทำการปล้นด้วยแม้จะไม่ปรากฏว่ามีอาวุธใดติดตัวไปก็ต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง แต่เฉพาะจำเลยที่ 1 ผู้เดียวที่กระทำการปล้นโดยมีและใช้อาวุธปืนจี้เจ้าทรัพย์ การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงต้องด้วยมาตรา 340 ตรี ต้องระวางโทษหนักกว่าโทษตามมาตรา 340 วรรคสองอีกกึ่งหนึ่ง ส่วนจำเลยที่ 2 หาต้องระวางโทษตามนี้ด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1021/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปล้นทรัพย์: การจำแนกโทษระหว่างผู้มีอาวุธและไม่มีอาวุธ
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า การปล้นได้กระทำไปโดยจำเลยที่ 1 กับพวกอีก 2 คน มีอาวุธปืนติดตัว จำเลยที่ 2 ผู้ร่วมกระทำการปล้นด้วยแม้จะไม่ปรากฏว่ามีอาวุธใดติดตัวไป ก็ต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง แต่เฉพาะจำเลยที่ 1ผู้เดียวที่กระทำการปล้นโดยมีและใช้อาวุธปืนจี้เจ้าทรัพย์ การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงต้องด้วยมาตรา 340 ตรี ต้องระวางโทษหนักกว่าโทษตามมาตรา 340 วรรคสองอีกกึ่งหนึ่งส่วนจำเลยที่ 2 หาต้องระวางโทษตามนี้ด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 926/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมียาเสพติดเพื่อขาย ศาลฎีกาแก้โทษปรับบทเกินกว่าที่กฎหมายบัญญัติ
จำเลยมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อขายหรือจำหน่าย เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465มาตรา 20 ทวิ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2504มาตรา 6 ศาลอุทธรณ์ปรับบทตามมาตรา 20 ตรี แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวมาด้วย เป็นการเกินไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 909/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการเพิกถอนใบอนุญาตขับรถกรณีขับประมาท และขอบเขตการพิจารณาโทษ
มาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2508 มาตรา 13 และประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 59 ข้อ11 บัญญัติว่าเมื่อผู้ใดฝ่าฝืนบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ ให้ศาลมีอำนาจถอนใบอนุญาตขับรถได้และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 4(14) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4)พ.ศ. 2508 มาตรา 3 ให้วิเคราะห์ศัพท์คำว่า ใบอนุญาตขับรถ ให้หมายความว่าใบอนุญาตให้ผู้ขับทำการขับขี่หรือลากเข็นรถหรือรถรางตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ รถจ้างรถลาก ล้อเลื่อน การจดทะเบียนคนขับรถรางและการขนส่ง ดังนี้ ใบอนุญาตผู้ประจำเครื่องอุปกรณ์การขนส่งสำหรับหน้าที่ผู้ขับรถยนต์ซึ่งนายทะเบียนการขนส่งออกให้แก่จำเลยตามพระราชบัญญัติการขนส่งจึงเป็นใบอนุญาตขับรถตามความหมายในพระราชบัญญัติจราจรทางบกเมื่อจำเลยกระทำผิดและศาลพิพากษาลงโทษจำเลย (ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 66 ที่แก้ไขแล้ว) ศาลก็มีอำนาจเพิกถอนใบอนุญาตผู้ประจำเครื่องอุปกรณ์การขนส่งสำหรับหน้าที่ผู้ขับรถที่กล่าวนั้นเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการฎีกาข้อเท็จจริงในความผิดอาวุธปืนฯ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และโทษไม่เกินที่กฎหมายกำหนด
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นและฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นซึ่งเป็นกระทงหนักที่สุดจำคุก 12 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้แต่ความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นและลงโทษเท่าเดิม ส่วนข้อหาตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ นั้น คงยืนตามศาลชั้นต้น แม้ศาลล่างจะมิได้กำหนดโทษในความผิดฐานนี้ไว้ แต่ความผิดฐานนี้มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปีจะกำหนดโทษเกิน 5 ปีย่อมไม่ได้ จำเลยจึงต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงในข้อหานี้