พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,111 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1245/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีอาญาเพื่อเป็นโจทก์ร่วม ไม่ตัดสิทธิอัยการฟ้องคดีซ้ำ
ผู้เสียหายได้ยื่นฟ้องคดีซึ่งเป็นความผิดต่อส่วนตัวแล้วได้ถอนฟ้องเสีย การถอนฟ้องนี้จะตัดสิทธิพนักงานอัยการที่จะยื่นฟ้องคดีนั้นใหม่ต่อเมื่อเป็นการถอนฟ้องไปเป็นการเด็ดขาดถ้าถอนฟ้องเพื่อจะเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการเมื่อพนักงานอัยการฟ้องจำเลยในคดีเรื่องเดียวกันนั้น ไม่เป็นการถอนฟ้องตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 36(3) พนักงานอัยการจึงมีอำนาจฟ้องคดีนั้นใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษและนับโทษต่อในคดีอาญา กรณีศาลอุทธรณ์ลดโทษ จำเลยรับโทษในคดีอื่น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย แต่ไม่นับโทษต่อกับคดีอื่น เพราะคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อนั้นศาลยังมิได้พิพากษาจำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยเบาลง โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและนับโทษต่อกับคดีดังกล่าวอีก โดยกล่าวว่าศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนั้นแล้ว เช่นนี้ เมื่อจำเลยรับว่าต้องโทษจำคุกในคดีดังกล่าวจริงศาลฎีกาพิพากษาให้นับโทษต่อกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อคดีอาญาอื่นเมื่อจำเลยรับสารภาพโทษในคดีที่ขอให้นับโทษ และคดีนั้นมีคำพิพากษาแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย แต่ไม่นับโทษต่อกับคดีอื่นเพราะคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อนั้นศาลยังมิได้พิพากษาจำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยเบาลง โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและนับโทษต่อกับคดีดังกล่าวอีกโดยกล่าวว่าศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนั้นแล้ว เช่นนี้ เมื่อจำเลยรับว่าต้องโทษจำคุกในคดีดังกล่าวจริง ศาลฎีกาพิพากษาให้นับโทษต่อกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1095/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามในคดีบุกรุกและทำลายทรัพย์สิน ศาลต้องยึดถือข้อเท็จจริงจากคดีอาญา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกที่ดินของโจทก์ และทำให้พืชผลของโจทก์เสียหาย ขอให้ลงโทษ และให้จำเลยกับบริวารออกจากที่ดินและใช้ค่าเสียหาย จำเลยให้การว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองปลูกพืชผลในที่พิพาทตลอดมา การกระทำของจำเลยไม่เป็นการบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกาว่าต้องฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยบุกรุกที่ดินโจทก์และทำให้พืชผลของโจทก์เสียหาย ดังนี้เป็นฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 สำหรับคดีส่วนแพ่ง แม้ที่พิพาทมีราคา 20,000 บาทไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง แต่ศาลฎีกาก็ต้องถือข้อเท็จจริงตามคดีส่วนอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46ว่าจำเลยมีสิทธิครอบครองที่พิพาท การกระทำของจำเลยไม่เป็นการบุกรุกหรือทำให้ทรัพย์สินของโจทก์เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1095/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามในข้อเท็จจริง และผลผูกพันของคำพิพากษาคดีอาญาต่อคดีแพ่ง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกที่ดินของโจทก์ และทำให้พืชผลของโจทก์เสียหาย ขอให้ลงโทษ และให้จำเลยกับบริวารออกจากที่ดินและใช้ค่าเสียหาย จำเลยให้การว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองปลูกพืชผลในที่พิพาทตลอดมา การกระทำของจำเลยไม่เป็นการบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกาว่าต้องฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยบุกรุกที่ดินโจทก์และทำให้พืชผลของโจทก์เสียหาย ดังนี้ เป็นฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 สำหรับคดีส่วนแพ่ง แม้ที่พิพาทมีราคา 20,000 บาท ไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง แต่ศาลฎีกาก็ต้องถือข้อเท็จจริงตามคดีส่วนอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46ว่าจำเลยมีสิทธิครอบครองที่พิพาท การกระทำของจำเลยไม่เป็นการบุกรุกหรือทำให้ทรัพย์สินของโจทก์เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 986/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีอาญา: การฟ้องและการได้ตัวจำเลยมาศาลต้องภายในกำหนด ป.อ. มาตรา 95
คดีอาญา โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลภายในกำหนดอายุความแล้ว แต่ไม่ได้ตัวจำเลยมายังศาลภายในกำหนดอายุความ ก็ต้องถือคดีเป็นอันขาดอายุความ จะนำเอาเรื่องอายุความสะดุดหยุดลงเมื่อฟ้องคดีในทางแพ่งมาใช้บังคับไม่ได้ เพราะ ป.อ. มาตรา 95 บัญญัติไว้ชัดแจ้งแล้ว
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 เมื่อได้ร้องทุกข์ไว้ภายในกำหนดอายุความตามมาตรา 96 แห่ง ป.อ. แล้ว ย่อมมีอายุความห้าปีตาม ป.อ. มาตรา 95(4) เมื่อฟ้องจำเลยไว้ภายในอายุความแล้ว แต่เพิ่งได้ตัวจำเลยมาศาล เมื่อพ้นกำหนด 5 ปี นับแต่วันกระทำผิด (วันที่ธนาคารปฏิเสธการใช้เงิน) คดีเป็นอันขาดอายุความ
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 เมื่อได้ร้องทุกข์ไว้ภายในกำหนดอายุความตามมาตรา 96 แห่ง ป.อ. แล้ว ย่อมมีอายุความห้าปีตาม ป.อ. มาตรา 95(4) เมื่อฟ้องจำเลยไว้ภายในอายุความแล้ว แต่เพิ่งได้ตัวจำเลยมาศาล เมื่อพ้นกำหนด 5 ปี นับแต่วันกระทำผิด (วันที่ธนาคารปฏิเสธการใช้เงิน) คดีเป็นอันขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 986/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีอาญา: การฟ้องและได้ตัวจำเลยต้องภายในกำหนดตามกฎหมาย
ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 เมื่อได้ร้องทุกข์ภายในกำหนดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 96 แล้ว ย่อมมีอายุความ 5 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95(4)
โจทก์ได้ยื่นฟ้องคดีอาญาต่อศาลภายในกำหนดอายุความแล้วแต่ไม่ได้ตัวจำเลยมาศาลภายในกำหนดอายุความ ต้องถือว่าคดีโจทก์เป็นอันขาดอายุความ จะนำเอาบทบัญญัติในทางแพ่งเรื่องอายุความสะดุดหยุดลงเมื่อฟ้องคดีมาใช้บังคับไม่ได้
โจทก์ได้ยื่นฟ้องคดีอาญาต่อศาลภายในกำหนดอายุความแล้วแต่ไม่ได้ตัวจำเลยมาศาลภายในกำหนดอายุความ ต้องถือว่าคดีโจทก์เป็นอันขาดอายุความ จะนำเอาบทบัญญัติในทางแพ่งเรื่องอายุความสะดุดหยุดลงเมื่อฟ้องคดีมาใช้บังคับไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของกรมสหกรณ์พาณิชย์คดีเบียดบังยักยอก และอายุความฟ้องคดีอาญา
กรมสหกรณ์พาณิชย์โจทก์ โดยได้รับอนุมัติจากกระทรวงสหกรณ์จัดตั้งหน่วยราชการขึ้นเรียกว่า "ขายพืชผลและผลิตผลกลาง" โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยเหลืออำนวยความสะดวกในการรับซื้อพืชผลและผลิตผลจากสหกรณ์ขายพืชผลในต่างจังหวัด และจัดการขาย ณ ตลาดภายในหรือภายนอกประเทศเพื่อให้ได้ราคาดี ถือได้ว่าเป็นการส่งเสริมการสหกรณ์อย่างหนึ่ง ซึ่งอยู่ภายในขอบวัตถุประสงค์ของกรมสหกรณ์พาณิชย์ และการดำเนินการดังกล่าวนี้ก็มิได้หวังผลกำไรในทางการค้า เมื่อขายพืชผลหรือผลิตผลได้เงินมาก็หักไว้เป็นค่าบริการสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของหน่วยราชการ "ขายพืชผลและผลิตผลกลาง" แต่เพียงเล็กน้อยเงินที่ขายได้นอกนั้นส่งคืนให้สหกรณ์ที่ส่งพืชผลและผลิตผลมา ดังนี้ ไม่อาจถือได้ว่ากรมสหกรณ์พาณิชย์ทำการค้าหรือเป็นตัวแทนในการค้า อันไม่ใช่วัตถุประสงค์ของกรมนี้
เมื่อปรากฏว่าเงินของหน่วยราชการที่จำเลยเป็นผู้จัดการอยู่ขาดบัญชีไปกรมซึ่งเป็นโจทก์ตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวน ปรากฏว่าจำเลยมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตโจทก์ได้แจ้งความให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีอาญาแก่จำเลย และกรมโจทก์ฟ้องเป็นคดีแพ่งขอให้จำเลยชดใช้เงินโดยบรรยายฟ้องยืนยันด้วยว่าจำเลยเป็นพนักงานทุจริตเบียดบังยักยอกเอาเงินของโจทก์ไป ดังนี้ แม้จำเลยจะยังมิได้ถูกฟ้องคดีอาญา แต่ฟ้องของโจทก์ก็เนื่องจากความผิดทางอาญา ต้องนำอายุความฟ้องคดีอาญามาใช้บังคับมิใช่ถือเอาอายุความ 1 ปี ฐานละเมิด
เมื่อปรากฏว่าเงินของหน่วยราชการที่จำเลยเป็นผู้จัดการอยู่ขาดบัญชีไปกรมซึ่งเป็นโจทก์ตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวน ปรากฏว่าจำเลยมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตโจทก์ได้แจ้งความให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีอาญาแก่จำเลย และกรมโจทก์ฟ้องเป็นคดีแพ่งขอให้จำเลยชดใช้เงินโดยบรรยายฟ้องยืนยันด้วยว่าจำเลยเป็นพนักงานทุจริตเบียดบังยักยอกเอาเงินของโจทก์ไป ดังนี้ แม้จำเลยจะยังมิได้ถูกฟ้องคดีอาญา แต่ฟ้องของโจทก์ก็เนื่องจากความผิดทางอาญา ต้องนำอายุความฟ้องคดีอาญามาใช้บังคับมิใช่ถือเอาอายุความ 1 ปี ฐานละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2331/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในคดีอาญา: ศาลยังไม่วินิจฉัยการกระทำผิด คำพิพากษาเดิมไม่ถือเป็นที่สุด
ในคดีก่อน โจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้องโดยวินิจฉัยว่า ข้อหาฐานความผิดทั้งสองตามที่กล่าวมาในฟ้องขัดกัน เป็นฟ้องเคลือบคลุม ดังนี้ ยังไม่ถือว่าศาลได้วินิจฉัยถึงการกระทำผิดของจำเลยตามข้อกล่าวหาของโจทก์ โจทก์นำคดีนี้มาฟ้องใหม่ได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2331/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำคดีอาญา: ศาลยังไม่วินิจฉัยการกระทำผิด ยกฟ้องเคลือบคลุม ไม่ตัดสิทธิฟ้องใหม่
ในคดีก่อน โจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจรศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้องโดยวินิจฉัยว่า ข้อหาฐานความผิดทั้งสองตามที่กล่าวมาในฟ้องขัดกัน เป็นฟ้องเคลือบคลุมดังนี้ ยังไม่ถือว่าศาลได้วินิจฉัยถึงการกระทำผิดของจำเลยตามข้อกล่าวหาของโจทก์ โจทก์นำคดีนี้มาฟ้องใหม่ได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ