คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ล้มละลาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,913 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินคดีกับจำเลยที่ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด และกระบวนการอุทธรณ์คำสั่งศาล
เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดในคดีล้มละลายแล้วเจ้าหนี้ต้องไปขอรับชำระหนี้ทางเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะมาดำเนินคดีทางศาลหาได้ไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องไปแล้ว โจทก์จึงยื่นอุทธรณ์แต่เสียค่าธรรมเนียมไม่ครบถ้วน ศาลมีคำสั่งให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมให้ครบ โจทก์ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งโดยทำเป็นคำร้องยื่นไปยังศาลอุทธรณ์ตาม มาตรา 234 หาใช่ยื่นฟ้องอุทธรณ์คำสั่งไม่ เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ เช่นนี้คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตาม มาตรา 236 วรรคต้น โจทก์จะฎีกาหาได้ไม่
อ้างฎีกาที่ 1223/2498

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้หลังศาลตัดสินเรื่องบุริมสิทธิในคดีล้มละลาย: เจ้าหนี้ยังคงมีสิทธิ
ในกรณีที่เจ้าหนี้ของผู้ล้มละลายกับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เข้าว่าคดีเป็นการพิพาทในประเด็นว่า เจ้าหนี้จะมีบุริมสิทธิในทรัพย์สินของผู้ล้มละลายหรือไม่ ส่วนหนี้ที่เจ้าหนี้มีอยู่แก่ผู้ล้มละลายนั้น เป็นอันรับรองว่าได้มีอยู่จริงนั้น แม้ศาลจะตัดสินว่าเจ้าหนี้ไม่มีบุริมสิทธิ ก็คงถือได้ว่าเจ้าหนี้คงเป็นเจ้าหนี้ธรรมดาผู้ล้มละลายอยู่ คดีจึงเข้าอยู่ใน พ.ร.บ.ล้มละลายมาตรา 93 คือเจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้ภายใน 2 เดือนนับแต่วันคดีถึงที่สุด ( ประชุมใหญ่ ) ครั้งที่ 2/97

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าหนี้ในการขอรับชำระหนี้หลังคดีบุริมสิทธิ์ถึงที่สุดในคดีล้มละลาย
ในกรณีที่เจ้าหนี้ของผู้ล้มละลายกับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้าว่าคดีเป็นการพิพาทในประเด็นว่า เจ้าหนี้จะมีบุริมสิทธิ์ในทรัพย์สินของผู้ล้มละลายหรือไม่ ส่วนหนี้ที่เจ้าหนี้มีอยู่แก่ผู้ล้มละลายนั้น เป็นอันรับรองว่าได้มีอยู่จริงนั้น แม้ศาลจะตัดสินว่าเจ้าหนี้ไม่มีบุริมสิทธิ ก็คงถือได้ว่าเจ้าหนี้คงเป็นเจ้าหนี้ธรรมดาผู้ล้มละลายอยู่ คดีจึงเข้าอยู่ใน พ.ร.บ.ล้มละลายมาตรา 93 คือเจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้ภายใน 2 เดือนนับแต่วันคดีถึงที่สุด (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/97)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1386/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดทรัพย์ที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ไม่อาจใช้ยันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายได้
เจ้าพนักงานบังคับคดีได้มีหนังสือแจ้งการอายัดในหุ้นของลูกหนี้ ซึ่งได้ชำระค่าหุ้นแล้วไปยังบริษัทเมื่อปรากฎว่าในหุ้นนั้นอยู่ในครอบครองของลูกหนี้และแจ้งการอายัดปืนไปยังนายทะเบียนปืน ในเมื่อปืนอยู่ในความครอบครองของเจ้าของหรือผู้อื่นนั้น ไม่ถือว่าเป็นการยึดหรืออายัดตาม ป.ม.วิ.แพ่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงย่อมเรียกร้องยึดเอาทรัพย์ที่อายัดไม่ถูกต้องนั้นมาเข้ากองล้มละลายได้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลายมาตรา 110

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 725/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบุริมสิทธิของผู้รับจำนองในคดีล้มละลาย: การคิดดอกเบี้ยจนถึงวันขายทอดตลาด
เมื่อจำเลยต้องคำพิพากษาให้ล้มลัลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกผู้รับจำนองที่ดินของจำเลย ไปชี้แจ้งเกี่ยวแก่การรับจำนอง ผู้รับจำนองแถลงขอรับต้นเงินและดอกเบี้ยเต็มตามสัญญาจำนองเท่านั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงให้โจทก์นำยึดที่แปลงนั้นขายทอดตลาด โดยกำหนดราคาคั่นต่ำเท่าต้นเงินและดอกเบี้ย ถึงวันขายทอดตลาด การขายได้เงินท่วมต้นเงินและดอกเบี้ย เช่นนี้ จะยกมาตรา 100 แห่ง พ.ร.บ.ล้มละลาย ซึ่งบัญญัติว่า "ดอกเบี้ยหรือเงินค่าป่วยการออื่นแทนดอกเบี้ยภายหลังวันที่ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์นั้น ไม่ให้ถือว่าเป็นหนี้ที่จะขอรับชำระได้" มาปรับมิได้ เพราะมิใช่เป็นเรื่องที่ผู้รับจำนองขอรับชำระหนี้ หากเป็นเรื่องที่ผู้รับจำนองขอเอาบุริมสิทธิในทรัพย์ที่รับจำนองไว้ไม่เกินกว่าหนี้ที่รับจำนองเท่านั้น ถ้าขายไม่ได้ถึงราคาทรัพย์จำนอง ก็ตกเป็นพับแก่ผู้รับจำนองไป ฉะนั้นต้องคิดดอกเบี้ยให้ผู้รับจำนองจนกึงวันขายทอดตลาด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 725/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับชำระหนี้จำนองหลังล้มละลาย: ดอกเบี้ยจนถึงวันขายทอดตลาด
เมื่อจำเลยต้องคำพิพากษาให้ล้มละลายเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกผู้รับจำนองที่ดินของจำเลย ไปชี้แจงเกี่ยวกับการรับจำนอง ผู้รับจำนองแถลงขอรับต้นเงินและดอกเบี้ยเต็มตามสัญญาจำนองเท่านั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงให้โจทก์นำยึดที่แปลงนั้นขายทอดตลาดโดยกำหนดราคาขั้นต่ำเท่าต้นเงินและดอกเบี้ย ถึงวันขายทอดตลาดการขายได้เงินท่วมต้นเงินและดอกเบี้ยเช่นนี้ จะยกมาตรา 100 แห่ง พระราชบัญญัติล้มละลายซึ่งบัญญัติว่า 'ดอกเบี้ยหรือเงินค่าป่วยการอื่นแทนดอกเบี้ยภายหลังวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์นั้น ไม่ให้ถือว่าเป็นหนี้ที่จะขอรับชำระได้' มาปรับมิได้ เพราะมิใช่เป็นเรื่องที่ผู้รับจำนองขอรับชำระหนี้หากเป็นเรื่องที่ผู้รับจำนองขอเอาบุริมสิทธิในทรัพย์ที่รับจำนองไว้ไม่เกินกว่าหนี้ที่รับจำนองเท่านั้น ถ้าขายไม่ได้ถึงราคาทรัพย์จำนองก็ตกเป็นพับแก่ผู้รับจำนองไปฉะนั้นต้องคิดดอกเบี้ยให้ผู้รับจำนองจนถึงวันขายทอดตลาด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1179/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนทรัพย์ก่อนล้มละลายและการทำลายการโอน อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และความสามารถในการฟ้องคดีของสตรี
ทรัพย์ที่ผู้ล้มละลายโอนไปยังผู้อื่นแล้ว ก่อนล้มละลายนั้นว่าโดยปรกติย่อมยึดไม่ได้ เว้นแต่จะมีการทำลายการโอนนั้นเสียก่อน อำนาจที่จะขอทำลายการโอนนั้นเป็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ หาใช่ของโจทก์ในคดีล้มละลายไม่ ฉะนั้นเมื่อมีผู้ร้อง ร้องขอให้ถอนการยึดทรัพย์ในคดีล้มละลายบางสิ่ง โดยอ้างว่าได้รับโอนมาจากผู้ล้มละลายโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์พิจารณาแล้วเห็นสมควร จึงสั่งให้ถอนการยึด ดังนี้ โจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ย่อมไม่มีผล
หญิงมีสามีย่อมเป็นผู้ไร้ความสามารถแต่เฉพาะในกรณีที่จะผูกพันสินบริคณห์เท่านั้น ส่วนในแง่ผูกพันสินส่วนตัว หาได้เป็นบุคคลผู้ไร้ความสามารถไม่ จึงจะถือว่าหญิงมีสามีเป็ผู้ไร้ความสามารถ จะฟ้องคดีต้องได้รับอนุญาตจากสามีตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 56 ยังมิได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีต้องตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1469 หรือมาตราอื่น ๆ ที่ห้ามไว้ โดยเฉพาะถ้าหากมีเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1179/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนทรัพย์ก่อนล้มละลายและการทำลายการโอน รวมถึงความสามารถในการฟ้องคดีของสตรี
ทรัพย์ที่ผู้ล้มละลายโอนไปยังผู้อื่นแล้ว ก่อนล้มละลายนั้นว่าโดยปกติย่อมยึดไม่ได้ เว้นแต่จะมีการทำลายการโอนนั้นเสียก่อน อำนาจที่จะขอทำลายการโอนนั้นเป็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ หาใช่ของโจทก์ในคดีล้มละลายไม่ ฉะนั้นเมื่อมีผู้ร้อง ร้องขอให้ถอนการยึดทรัพย์ในคดีล้มละลายบางสิ่ง โดยอ้างว่าได้รับโอนมาจากผู้ล้มละลายโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์พิจารณาแล้วเห็นสมควร จึงสั่งให้ถอนการยึด ดังนี้โจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ย่อมไม่มีผล
หญิงมีสามีย่อมเป็นผู้ไร้ความสามารถแต่เฉพาะในกรณีที่จะผูกพันสินบริคณห์เท่านั้น ส่วนในแง่ผูกพันสินส่วนตัวหาได้เป็นบุคคลผู้ไร้ความสามารถไม่ จึงจะถือว่าหญิงมีสามีเป็นผู้ไร้ความสามารถ จะฟ้องคดีต้องได้รับอนุญาตจากสามีตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 ยังมิได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1469 หรือมาตราอื่นๆ ที่ห้ามไว้โดยเฉพาะถ้าหากมีเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1877/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ในการพิสูจน์การโอนทรัพย์สินก่อนล้มละลาย และขอบเขตการใช้มาตรา 114
การโอนทรัพย์สินของลูกหนี้ในระหว่าง 3 ปีก่อนล้มละลายนั้นพระราชบัญญัติล้มละลายมาตรา 114 บัญญัติให้เป็นหน้าที่ของผู้รับโอนจะแสดงให้ศาลพอใจว่าการโอนนั้นได้กระทำโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน ส่วนกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ร้องขอให้ศาลเพิกถอนการฉ้อฉลตามพระราชบัญญัติล้มละลายมาตรา 113 นั้นหาได้มีบทบัญญัติเรื่องหน้าที่นำสืบเป็นคุณแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดังเช่นการโอนทรัพย์ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 114 ดังกล่าวไม่จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องนำสืบให้ได้ความว่ามีการฉ้อฉลกัน
การจำนองทรัพย์สินหาใช่เป็นการโอนทรัพย์สินตาม พระราชบัญญัติล้มละลายมาตรา 114 จึงจะนำมาตรา 114 มาใช้บังคับไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1876/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนองและการเพิกถอนการฉ้อฉลในคดีล้มละลาย: หน้าที่การนำสืบของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
การโอนทรัพย์สินของลูกหนี้ในระหว่าง 3 ปีก่อนล้มละลายนั้น พ.ร.บ.ล้มละลายมาตรา 114 บัญญัติให้เป็นหน้าที่ของผู้รับโอนจะแสดงให้ศาลพอใจว่าการโอนนั้นได้กระทำโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน ส่วนกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ร้องขอให้ศาลเพิกถอนการฉ้อฉลตาม พ.ร.บ.ล้มละลายมาตรา 113 นั้นหาได้มีบทบัญญัติเรื่องหน้าที่นำสืบเป็นคุณแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดังเช่นการโอนทรัพย์ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 114 ดังกล่าวไม่ จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องนำสืบให้ได้ความว่ามีการฉ้อฉลกัน
การจำนองทรัพย์สิน+ใช่เป็นการโอนทรัพย์สินตามพ.ร.บ.ล้มละลายมาตรา 114 จึงจะนำมาตรา 114 มาใช้บังคับไม่ได้
of 192