คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลอุทธรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,244 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทางจำเป็น vs. ภาระจำยอม: ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยทางจำเป็นได้ แม้ฟ้องอ้างภาระจำยอม เหตุผลไม่เกินคำฟ้อง
ฟ้องให้จำเลยเปิดทางอ้างว่าเป็นทางภารจำยอมซึ่งได้มาทางนิติกรรมและเป็นทางจำเป็นด้วย เพราะที่ดินของโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมศาลชั้นต้นให้จำเลยเปิดภารจำยอมศาลอุทธรณ์เห็นว่าไม่ใช่ทางภารจำยอมก็พิพากษาให้เปิดทางในฐานเป็นทางจำเป็นได้ ไม่นอกคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 214/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุในคดีฆ่าคนตาย ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 จำคุก 15 ปี ลดตามมาตรา 59 เสีย 1 ใน 3 คงจำคุก 10 ปี.
ศาลอุทธรณ์พิพากษามาแก้ว่าจำเลยกระทำโดยป้องกัน แต่เป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุ ผิดตามมาตรา 249,-53
จำคุก 3 ปี ดังนี้ เป็นการแก้มาก โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาเถียงข้อเท็จจริงขัดกับข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังร่วมกัน ถือเป็นการต้องห้ามมิให้ฎีกา
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจร จำเลยปฏิเสธต่อสู่กรรมสิทธิว่าทรัพย์ของกลาง (ราคา 700 บาท) เป็นของจำเลยเมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่า ทรัพย์ของกลางเป็นของผู้เสียหาย ให้คืนแก่ผู้เสียหายแม้ศาลชั้นต้นจะลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ และศาลอุทธรณ์กลับมา จำเลยยังไม่ผิดในทางอาญา ให้ยกฟ้อง ก็ตาม จำเลยก็จะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงว่า ทรัพย์ของกลางเป็นของจำเลยไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาเถียงข้อเท็จจริงที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับฟัง เพราะข้อเท็จจริงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจรจำเลยปฏิเสธต่อสู้กรรมสิทธิ์ว่าทรัพย์ของกลาง (ราคา 700 บาท)เป็นของจำเลยเมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่า ทรัพย์ของกลางเป็นของผู้เสียหาย ให้คืนแก่ผู้เสียหายแม้ศาลชั้นต้นจะลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์และศาลอุทธรณ์กลับว่า จำเลยยังไม่ผิดในทางอาญา ให้ยกฟ้องก็ตาม จำเลยก็จะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงว่า ทรัพย์ของกลางเป็นของจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1459/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาอาญา: การอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟังเป็นสำคัญ
ป.ม.วิ.อาญามาตรา 216 บัญญัติให้ฎีกาภายในหนึ่งเดือน นับแต่วันอ่านคำพิพากษาหรือมีคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟัง ฉะนั้นเมื่อตัวจำเลยยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แม้โจทก์และทนายจำเลยจะได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว หมายจำเลยก็ยังไม่มีสิทธิฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1455/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษจำคุกจากรอการลงอาญาเป็นไม่รอการลงอาญาโดยศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก จำเลยไว้มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน ในรอการลงอาญาไว้ภายใน 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน โดยไม่รอการลงอาญา ดังนี้ เป็นการแก้มากคู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1455/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์โทษจำคุกและผลของการไม่รอการลงอาญา
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน ให้รอการลงอาญาไว้ภายใน 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือนโดยไม่รอการลงอาญา ดังนี้ เป็นการแก้มากคู่ความฎีกาในข้อเท็จจริง ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444-1445/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาจำเลยแม้ศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาเดิม: จำเลยมีสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริงเพื่อขอให้ยกฟ้องได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 20 ปี จำเลยมิได้อุทธรณ์คงมีโจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลวางโทษจำเลยโดยไม่ลดฐานปราณีด้วย แม้ศาลอุทธรณ์จะคงพิพากษายืน จำเลยก็มีสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริงขอให้ยกฟ้องโจทก์เสียได้ไม่ต้องห้ามตามกฎหมายแต่อย่างใด (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2496)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อยไม่ถึงขนาดฎีกาในข้อเท็จจริง แม้ศาลอุทธรณ์เพิ่มการแสดงกรรมสิทธิในที่ดินและค่าเสียหาย
ฟ้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิที่ดิน 2 แปลง คือที่นาและที่สวนราคาแปลงละ 300 บาทและเรียกค่าเสียหาย 420 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่สวนเป็นของโจทก์ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 30 บาท แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าที่นาก็เป็นของโจทก์ด้วย กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายอีก 300 บาท ดังนี้ ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาโทษกักกัน แม้ศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาเดิม
ในคดีอาญาที่ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 3 ปี และให้กักกันมีกำหนด 7 ปี นั้นแม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษายืน จำเลยก็มีสิทธิฎีกาขอให้ยกหรือลดโทษกักกันได้ ไม่ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 218
of 225