คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัญญาซื้อขาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,003 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิซื้อคืนที่ดินตามสัญญา ระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของสิทธิ
โจทก์ขายนาให้จำเลยแล้วมีข้อสัญญากันว่า ต่อไปในวันข้างหน้าในระยะครบ 2 ปี เป็นจำนวน พ.ศ. 2493 หรือ 2494 ถ้าโจทก์นำเงินมาซื้อคืนได้ จำเลยจะต้องขายนาคืนให้ นั้นย่อมหมายความว่า โจทก์มีสิทธิซื้อคืนได้ภายในระยะ 2 ปี นับแต่วันทำสัญญากันนั้นเอง สุดแต่จะไปครบ 2 ปี ใน ปี พ.ศ. 2493 หรือ พ.ศ. 2494
โจทก์ฟ้องว่า ได้ไปขอซื้อนาคืนจากจำเลยในต้น พ.ศ. 2494 แต่จำเลยไม่ยอมขายคืนให้ ฯลฯ จำเลยไม่ได้ให้การกล่าวถึงหรือปฏิเสธความข้อนี้ประการใด จึงต้องถือว่าจำเลยรับในข้อเท็จจริงข้อที่โจทก์ฟ้องนี้แล้ว
โจทก์ขายนาให้จำเลยโดยมีข้อสัญญากันว่า โจทก์มีสิทธิขอซื้อคืนได้ภายในกำหนด 2 ปี ครั้นต่อมาโจทก์ได้ขอซื้อคืนภายในระยะเวลาปีอันเป็นระยะเวลาที่โจทก์มีสิทธิขอซื้อคืนได้ เมื่อจำเลยไม่ยอมขาย ย่อมถือได้ว่า จำเลยผิดสัญญา โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญาได้ และโจทก์จะยื่นฟ้องเมื่อพ้นกำหนด 2 ปีแล้วก็ได้ เพราะโจทก์ได้ขอซื้อคืนไว้ภายในระยะ 2 ปี แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิซื้อคืนที่ดินภายในกำหนดระยะเวลาตามสัญญา แม้ฟ้องหลังหมดกำหนดก็ชอบ
โจทก์ขายนาให้จำเลยแล้วมีข้อสัญญากันว่า ต่อไปในวันข้างหน้าในระยะครบ 2 ปีเป็นจำนวนพ.ศ.2493 หรือ 2494 ถ้าโจทก์นำเงินมาซื้อคืนได้ จำเลยจะต้องขายนาคืนให้ นั้นย่อมหมายความว่า โจทก์มีสิทธิซื้อคืนได้ภายในระยะ 2 ปีนับแต่วันทำสัญญากันนั่นเอง สุดแต่จะไปครบ2 ปี ในปี พ.ศ.2493 หรือ พ.ศ.2494
โจทก์ฟ้องว่า ได้ไปขอซื้อนาคืนจากจำเลยในต้น พ.ศ. 2494 แต่จำเลยไม่ยอมขายคืนให้ ฯลฯ จำเลยไม่ได้ให้การกล่าวถึงหรือปฏิเสธความข้อนี้ประการใด จึงต้องถือว่าจำเลยรับในข้อเท็จจริงข้อที่โจทก์ฟ้องข้อนี้แล้ว
โจทก์ขายนาให้จำเลยโดยมีข้อสัญญากันว่า โจทก์มีสิทธิขอซื้อคืนได้ภายในกำหนด 2 ปี ครั้นต่อมาโจทก์ได้ขอซื้อคืนภายในระยะเวลา 2 ปีอันเป็นระยะเวลาที่โจทก์มีสิทธิขอซื้อคืนได้ เมื่อจำเลยไม่ยอมขาย ย่อมถือได้ว่าจำเลยผิดสัญญา โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญาได้และโจทก์จะยื่นฟ้องเมื่อพ้นกำหนด 2 ปีแล้ว ก็ได้เพราะโจทก์ได้ขอซื้อคืนไว้ภายในระยะ 2 ปีแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 450/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินจากการครอบครองปรปักษ์หลังสัญญาซื้อขาย
ซื้อขายที่ดินมีโฉนดแก่กันได้มอบที่ดินและโฉนดให้ผู้ซื้อยึดถือครอบครองแล้ว ฝ่ายผู้ซื้อก็ชำระราคาแล้ว สัญญาว่าจะไปโอนทะเบียนกันภายใน 1 เดือน แต่แล้วก็ไม่ได้ไปโอนกัน ฝ่ายผู้ซื้อก็คงครอบครองที่ดินโดยเจตนาเป็นเจ้าของด้วยความสงบและเปิดเผยมาถึง 24 ปี ดังนี้ฝ่ายผู้ซื้อย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ซื้อขายกันนี้แล้ว ฉะนั้นแม้ภายหลังผู้ซื้อและผู้ขายได้ถึงแก่กรรมลงทั้งสองฝ่าย ทายาทของผู้ซื้อก็มีสิทธิฟ้องขอให้ถอนชื่อในโฉนดโอนทะเบียนใส่ชื่อทายาทผู้ซื้อ ได้ ไม่ใช่เรื่องขาดอายุความและสิทธิเรียกร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 163,164,169

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 351-352/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายและการเรียกค่าเสียหายเมื่อมีการบังคับคดีให้ปฏิบัติตามสัญญา
ตามสัญญาจำซื้อขายใส่ไว้ด้วยว่า ถ้าผู้ขาย ขายที่ดินให้ผู้ซื้อไม่ได้ตามสัญญา ก็ให้ผู้ซื้อเรียกค่าเสียหายอีกหนึ่งเป็นเงิน 2,000 บาท ดังนี้ แม้ผู้ขายจะบิดพลิ้วไม่ยอมขายที่ดินแก่ผู้ซื้อตามสัญญา จนผู้ซื้อต้องฟ้อง ศาลบังคับให้ขายก็ดี ถ้าศาลพิพากษาให้ผู้ขายขายที่ดินให้ผู้ซื้อตามสัญญาแล้ว ศาลก็ไม่ให้ผู้ขายใช้เงิน 2,000 บาท แก่ผู้ซื้อ เพราะถือว่าได้มีการซื้อขายกันตามสัญญาแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของรวม vs. สัญญาซื้อขาย: การแบ่งแยกกรรมสิทธิ์และเงื่อนไขสัญญา
เจ้าของรวมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1357 นั้นต้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินอันรวมกันอยู่ไม่ทราบว่าส่วนของใครเท่าไร ตรงไหนในทรัพย์นั้นๆ กฎหมายจึงให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้เป็นเจ้าของรวมมีส่วนเท่ากัน
โฉนดที่ดินมีชื่อบุคคล 2 คนเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ แต่ได้จดทะเบียนบรรยายส่วนของใครไว้ในโฉนดแล้วว่าของใครอยู่ตอนไหน เป็นจำนวนเนื้อที่เท่าไรชัดแจ้งแล้วเช่นนี้หาใช่เป็นเจ้าของรวมไม่
เงื่อนไขแห่งนิติกรรมนั้นหมายถึงเหตุการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคตและ ไม่แน่นอน
สัญญาจะซื้อขายมีข้อตกลงกันว่าผู้ซื้อผู้ขายจะมาทำการโอนซื้อขายกันในวันมาทำการจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินนั้น หาใช่เป็นเงื่อนไขไม่
แม้สัญญาจะซื้อขายที่ดินได้ กำหนดเบี้ยปรับกันไว้ในเมื่อผู้ขายผิดสัญญาก็ดี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 380 บัญญัติให้สิทธิแก่เจ้าหนี้เลือกเรียกเอาเบี้ยปรับหรือเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้แต่อย่างหนึ่งอย่างใดได้ ฉะนั้นถ้าผู้ขายทำผิดสัญญาโดยไม่ยอมขายที่ดินให้แก่ผู้ซื้อผู้ซื้อก็ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องผู้ขายขอให้ศาลบังคับให้โอนขายตามสัญญาได้(อ้างฎีกาที่ 131/2489)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ แม้สัญญาซื้อขายไม่สมบูรณ์ หากผู้ซื้อครอบครองนานเกิน 10 ปี โดยเจตนาเป็นเจ้าของ
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์จำเลยตกลงทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกัน แต่วินิจฉัยว่าแม้โจทก์ผู้ซื้อจะครอบครองที่ดินมานานเท่าใดก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ จึงพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์คงพิพากษายกฟ้องยืนตามศาลชั้นต้น แต่ไปวินิจฉัยว่าการซื้อขายไม่สมบูรณ์เพราะทำไม่ถูกแบบ และฟังไม่ได้ว่าซื้อขายกัน ซึ่งไม่มีประเด็นมาสู่ศาลอุทธรณ์ และไม่ปรากฏว่า ศาลชั้นต้นวินิจฉัยความข้อนี้ผิดต่อกฎหมายแต่อย่างใดคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ดังกล่าว จึงฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(3) ศาลฎีกาจึงไม่จำต้องถือตามข้อเท็จจริงข้อนี้ตามมาตรา 250 ศาลฎีกาคงฟังข้อเท็จจริงตามศาลชั้นต้นได้
ตกลงจะซื้อขายที่ดินกัน ชำระเงินราคาที่ดินครบถ้วนแล้ว และส่งมอบที่ดินให้ผู้ซื้อครอบครองมากว่า 10 ปีแล้ว.พฤติการณ์เช่นนี้เป็นที่เห็นได้ว่าคู่กรณีไม่ได้คำนึงถึงการที่จะแก้ทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียแล้วผู้ซื้อคงครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของมากว่า 10 ปี จึงได้กรรมสิทธิ์ในฐานที่ได้ครอบครองมา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1434/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยการส่งมอบข้าวเปลือก และสิทธิเรียกร้องตามสัญญาซื้อขาย แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อข้าวเปลือกของโจทก์ไป ยังไม่ได้ชำระราคา โดยตกลงจะหักหนี้ที่โจทก์กู้เงินจำเลยไว้ แต่ภายหลังจำเลยกลับเอาสัญญากู้มาฟ้องเรียกเงินจากโจทก์ โดยไม่หักค่าข้าวเปลือกให้ตามที่ตกลงกันไว้ ดังนี้ แม้การซื้อขายข้าวเปลือกจะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ แต่ได้มีการส่งมอบข้าวเปลือกกันแล้ว ซึ่งถือได้ว่ามีการชำระหนี้กันแล้ว โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องเรียกให้จำเลยส่งข้าวเปลือกคืน หรือใช้ราคาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1315/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีที่ดิน: การพิจารณาผลของคำพิพากษาเดิมและการแก้ไขสัญญาซื้อขาย
โจทก์จำเลยตกลงปราณีประนอมยอมความกันต่อศาล และศาลพิพากษาตามยอมว่าที่ดินตามหนังสือสัญญาซื้อขายด้านกว้างยาวและทิศติดต่อปรากฎตามหนังสือสัญญาซื้อขายตามบัญชีท้ายคำร้องรวมเป็นเนื้อที่ 2 ไร่ 1 งาน 45 วา เป็นกรรมสิทธิของโจทก์ เหลือที่ดินนอกสัญญาซื้อขายให้เป็นกรรมสิทธิกับจำเลยต่อไป แต่มิได้มีการทำแผนที่ในคดีไปตามข้อตกลงของคู่ความ หาได้พิพากษาแสดงกรรมสิทธิของจำเลยว่ามีอยู่แค่ไหนเพียงไรไม่ ฉะนั้นเมื่อปรากฎว่าเนื้อที่ตามสัญญาซื้อขายที่ยอมความกันนั้น เจ้าพนักงานลงเนื้อที่ผิดไป โจทก์ได้ขอให้แก้เสียใหม่ให้ถูกต้องเป็นเนื้อที่ 6 ไร่ 2 งาน 46 วา แล้วโจทก์ได้ซื้อที่ดินแปลงนี้มาจากมารดาจำเลย แล้วสามีโจทก์กับโจทก์ได้ปกครองที่แปลงนี้ ต่อมาจำเลยมาขัดขวางสิทธิโดยไปร้องขอจัดการมรดกมารดาจำเลย ขอให้แสดงว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลย ซึ่งปรากฎในคดีก่อนนั้นเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินพิพาทนี้ เป็นมรดกของสามีโจทก์ตกเป็นของโจทก์และบุตร ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิคนต่างด้าวทำสัญญาซื้อขายที่ดิน: พ.ร.บ.ที่ดิน 2486 ไม่ห้ามเด็ดขาด
พระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว พ.ศ.2486 ไม่ได้ห้ามเด็ดขาดไม่ให้คนต่างด้าวทำสัญญาซื้อขายที่ดิน และไม่ได้ห้ามเด็ดขาดมิให้คนต่างด้าวได้มาซึ่งที่ดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของเจ้าของร่วมกรณีผู้จัดการทำผิดสัญญาซื้อขายที่ดิน
โจทก์และพวกอิสลามิกชนในจังหวัดหนึ่งได้ร่วมกันบริจาคเงินซื้อที่ดินแปลงหนึ่ง ทำเป็นโรงเรียนสำหรับชาวอิสลามิกชนเข้าเรียน และได้ตั้งผู้จัดการจัดการโรงเรียนสืบต่อกันไปดังนี้ ถือว่าผู้จัดการเหล่านั้นเป็นตัวแทนโจทก์และพวก ฉะนั้นเมื่อผู้จัดการคนหนึ่งทำผิดโดยเอาที่ดินแปลงนี้ยกให้แก่บุตร แล้วบุตรโอนขายให้คนภายนอกเสีย เช่นนี้ โจทก์แต่ผู้เดียวซึ่งเป็นเจ้าของร่วมด้วยย่อมมีอำนาจฟ้องในนามของตนเอง ขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายดังกล่าวเสียหรือขอให้ใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน เพื่อจะได้จัดซื้อที่ดินอื่นจัดตั้ง เป็นโรงเรียนแทนโรงเรียนเดิมได้
of 201