คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บังคับคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,691 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1646/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความบังคับคดี: การร้องขอให้บังคับคดีภายใน 10 ปี ทำให้สิทธิในการบังคับคดีไม่ขาดอายุความ
เมื่อโจทก์ได้ร้องขอให้บังคับคดีภายใน 10 ปีนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะดำเนินการบังคับต่อไปจนกว่าการบังคับจะแล้วเสร็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา: ศาลยืนยันการบังคับคดีแม้มีข้อกล่าวหาอื่น
ศาลบังคับคดีตามยอม ให้จำเลยผ่อนชำระเงินกู้เดือนละ 3,000 บาทโจทก์ถูกฟ้องในข้อหาเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ทำหลักฐานเท็จหลีกเลี่ยงภาษีอากรไม่เป็นเหตุที่จะงดการบังคับคดีตาม มาตรา 293

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1438/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมยึดทรัพย์: หุ้นของผู้ถือครองอื่น แม้ไม่ใช่ของจำเลย ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียม
คำว่า "ทรัพย์สิน" ตามตาราง 5 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งหมายความถึงทรัพย์ซึ่งมีราคาและถือเอาได้โดยสภาพของตัวทรัพย์นั้นเอง โดยไม่จำกัดว่าบุคคลใดเป็นเจ้าของ
โจทก์ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดหุ้นมาเพื่อขายทอดตลาดใช้หนี้ตามคำพิพากษาแล้วได้ขอถอนการยึดเสีย แม้ได้ความว่าหุ้นที่ยึดมานั้นไม่ใช่ของจำเลย โจทก์ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมยึดแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่ายตามตาราง 5 ข้อ 3 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1091/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีหนี้ร่วม และการฟ้องล้มละลาย: ศาลฎีกาวินิจฉัยสิทธิเจ้าหนี้ในการบังคับคดีต่อลูกหนี้ร่วมและผู้ค้ำประกัน
คำพิพากษาในคดีแพ่งที่พิพากษาให้จำเลยทั้ง 4 ร่วมกันชำระหนี้ตามฟ้องให้โจทก์ โดยให้จำเลยที่ 3 ที่ 4 รับผิดไม่เกินจำนวนเงินที่ค้ำประกัน หากไม่ชำระ ให้ยึดทรัพย์จำนองของจำเลยที่ 3 ออกขายทอดตลาด ถ้าได้เงินไม่พอ ให้ยึดทรัพย์อื่นของจำเลยที่ 3 ออกขายทอดตลาดชำระจนครบ นั้น หมายถึงการบังคับคดีเกี่ยวกับจำเลยที่ 3 ในกรณีที่จำเลยที่ 3 ไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา หาได้หมายความว่าให้โจทก์บังคับคดีเอาจากทรัพย์สินของจำเลยที่ 3 โดยสิ้นเชิงก่อน ถ้าได้เงินไม่พอจึงจะบังคับเอาจากทรัพย์สินของจำเลยที่ 4 ไม่ จำเลยที่ 4 อยู่ในฐานะเป็นลูกหนี้ร่วม โจทก์มีสิทธิที่จะเรียกให้จำเลยคนใดคนหนึ่งชำระหนี้โดยสิ้นเชิงหรือแต่โดยส่วนก็ได้ตามแต่จะเลือกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 291 โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องและบังคับจำเลยที่ 4 ให้ชำระหนี้ที่ยังเหลือจากที่โจทก์ได้รับจากจำเลยที่ 3 และอาศัยหนี้ตามคำพิพากษาในคดีแพ่งที่กำหนดจำนวนได้แน่นอนไม่น้อยกว่าสามหมื่นบาท เป็นมูลฟ้องให้ล้มละลายได้
จำเลยกล่าวในฎีกาแต่เพียงว่า ยังไม่มีเหตุผลสมควรที่ะให้จำเลยล้มละลายได้มิได้กล่าวข้อเท็จจริงโดยชัดแจ้งว่าจำเลยไม่ใช่บุคคลที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือมีฐานะมีทรัพย์สินอาจชำระหนี้ให้ครบได้อย่างไร หรือมีเหตุอื่นใดบ้างที่ไม่ควรให้ล้มละลาย ดังนี้ ฎีกาของจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 7 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1091/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลูกหนี้ร่วม & การบังคับคดี – สิทธิเจ้าหนี้ในการเรียกหนี้จากลูกหนี้แต่ละคน & การฟ้องล้มละลาย
คำพิพากษาในคดีแพ่งที่พิพากษาให้จำเลยทั้ง 4 ร่วมกันชำระหนี้ตามฟ้องให้โจทก์โดยให้จำเลยที่ 3 ที่ 4 รับผิดไม่เกินจำนวนเงินที่ค้ำประกัน หากไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนองของจำเลยที่ 3 ออกขายทอดตลาด ถ้าได้เงินไม่พอให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยที่ 3 ออกขายทอดตลาดชำระจนครบนั้น หมายถึงการบังคับคดีเกี่ยวกับจำเลยที่ 3 ในกรณีที่จำเลยที่ 3 ไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษาหาได้หมายความว่าให้โจทก์บังคับคดีเอาจากทรัพย์สินของจำเลยที่ 3 โดยสิ้นเชิงก่อนถ้าได้เงินไม่พอจึงจะบังคับเอาจากทรัพย์สินของจำเลยที่ 4 ไม่จำเลยที่ 4 อยู่ในฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมโจทก์มีสิทธิที่จะเรียกให้จำเลยคนใดคนหนึ่งชำระหนี้โดยสิ้นเชิงหรือแต่โดยส่วนก็ได้ตามแต่จะเลือกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 291 โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องและบังคับจำเลยที่ 4 ให้ชำระหนี้ที่ยังเหลือจากที่โจทก์ได้รับจากจำเลยที่ 3 และอาศัยหนี้ตามคำพิพากษาในคดีแพ่งที่กำหนดจำนวนได้แน่นอนไม่น้อยกว่าสามหมื่นบาท เป็นมูลฟ้องให้ล้มละลายได้
จำเลยกล่าวในฎีกาแต่เพียงว่า ยังไม่มีเหตุผลสมควรที่จะให้จำเลยล้มละลายได้มิได้กล่าวข้อเท็จจริงโดยชัดแจ้งว่าจำเลยไม่ใช่บุคคลที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือมีฐานะมีทรัพย์สินอาจชำระหนี้ให้ครบได้อย่างไร หรือมีเหตุอื่นใดบ้างที่ไม่ควรให้ล้มละลาย ดังนี้ ฎีกาของจำเลยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6)พ.ศ.2518 มาตรา 7 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483 มาตรา 153

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 855/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ร่วมสามีภริยาจากกิจการร่วมกัน และการกันส่วนของสินสมรสในชั้นบังคับคดี
ภริยากู้เงินโจทก์ ศาลพิพากษาให้ชำระหนี้แก่โจทก์ 6,500 บาทตามยอม เป็นหนี้ซึ่งสามีมากับภริยาเมื่อมากู้เงินด้วยเพื่อนำไปใช้ในการขับรถรับจ้างบรรทุกของ ถือว่าเกิดจากการงานที่สามีภริยาทำด้วยกันเป็นหนี้ร่วมตามมาตรา1482(3) สามีขอให้กันส่วนของตนในสินสมรสที่โจทก์บังคับคดีไม่ได้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกคำร้องขอให้กันส่วนของสามีในสินบริคณห์ในชั้นบังคับคดี เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ไม่ต้องห้ามฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 698/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเฉลี่ยทรัพย์ของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา แม้ยังมิได้ขอให้บังคับคดี และผลของการบังคับคดีไม่แล้วเสร็จภายใน 10 ปี
ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยในคดีอีกเรื่องหนึ่ง ยังไม่ได้ขอให้ศาลออกคำบังคับและยังไม่ได้ขอออกหมายบังคับคดีภายใน 10 ปีนับแต่วันมีคำพิพากษาแต่ภายใน 10 ปีนั้นปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดทรัพย์สินของจำเลยไว้แทนโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาคดีนี้ ผู้ร้องย่อมจะยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้นซ้ำอีกไม่ได้ ได้แต่ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยในทรัพย์สินนั้นหรือเงินที่ได้จากการขายหรือจำหน่ายทรัพย์สินนั้น ผู้ร้องจึงไม่จำต้องขอให้บังคับคดีในคดีของตน และเมื่อผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยแล้วแม้ผู้ร้องจะยังมิได้ขอให้ศาลออกคำบังคับ ผู้ร้องก็มีสิทธิร้องขอให้ตนเข้าเฉลี่ยได้ดังนั้นเมื่อผู้ร้องได้ยื่นคำขอเช่นว่านี้ก่อนสิ้นระยะเวลา 14 วันนับแต่วันขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สินนั้นแล้ว หนี้ตามคำพิพากษาของผู้ร้องจึงไม่ขาดอายุความหรือขาดอายุการบังคับคดี และเมื่อโจทก์ได้ร้องขอให้บังคับคดีนี้ภายใน 10 ปีนับแต่วันมีคำพิพากษา และผู้ร้องก็ขอเข้าเฉลี่ยภายใน 10 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษาคดีของผู้ร้องและภายในระยะเวลาที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 290 กำหนดไว้แล้ว แม้จะล่วงพ้น 10 ปีนับแต่วันมีคำพิพากษาการบังคับคดียังไม่แล้วเสร็จ ก็ไม่ทำให้คำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องสิ้นผลไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 698/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในการขอเฉลี่ยทรัพย์ แม้ยังมิได้ขอออกหมายบังคับคดีภายในกำหนด
ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยในคดีอีกเรื่องหนึ่ง ยังไม่ได้ขอให้ศาลออกคำบังคับและยังไม่ได้ขอออกหมายบังคับคดีภายใน 10 ปีนับแต่วันมีคำพิพากษาแต่ภายใน 10 ปีนั้นปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดทรัพย์สินของจำเลยไว้แทนโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาคดีนี้ ผู้ร้องย่อมจะยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้นซ้ำอีกไม่ได้ได้แต่ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยในทรัพย์สินนั้นหรือเงินที่ได้จากการขายหรือจำหน่ายทรัพย์สินนั้น ผู้ร้องจึงไม่จำต้องขอให้บังคับคดีในคดีของตนและเมื่อผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยแล้วแม้ผู้ร้องจะยังมิได้ขอให้ศาลออกคำบังคับ ผู้ร้องก็มีสิทธิร้องขอให้ตนเข้าเฉลี่ยได้ ดังนั้นเมื่อผู้ร้องได้ยื่นคำขอเช่นว่านี้ก่อนสิ้นระยะเวลา 14 วันนับแต่วันขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สินนั้นแล้วหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ร้องจึงไม่ขาดอายุความหรือขาดอายุการบังคับคดี และเมื่อโจทก์ได้ร้องขอให้บังคับคดีนี้ภายใน 10 ปีนับแต่วันมีคำพิพากษาและผู้ร้องก็ขอเข้าเฉลี่ยภายใน 10 ปีนับแต่วันมีคำพิพากษาคดีของผู้ร้องและภายในระยะเวลาที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 กำหนดไว้แล้วแม้จะล่วงพ้น 10 ปีนับแต่วันมีคำพิพากษา การบังคับคดียังไม่แล้วเสร็จก็ไม่ทำให้คำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องสิ้นผลไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบังคับคดี: โจทก์มีสิทธิบังคับคดีต่อได้แม้เกิน 10 ปี หากร้องขอภายในกำหนด
เมื่อโจทก์ร้องขอบังคับภายใน 10 ปีนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 แล้ว โจทก์ก็มีสิทธิที่จะดำเนินการบังคับคดีต่อไปจนกว่าการบังคับคดีจะแล้วเสร็จ แม้จะเกิน 10 ปีนับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาโจทก์ก็ไม่หมดสิทธิ์ที่จะดำเนินการบังคับคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบังคับคดีไม่ระงับ แม้เวลาเกิน 10 ปี หากเจ้าหนี้ร้องขอภายในกำหนด
เมื่อโจทก์ร้องขอบังคับคดีภายใน 10 ปีนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา271 แล้วโจทก์ก็มีสิทธิที่จะดำเนินการบังคับคดีต่อไปจนกว่าการบังคับคดีจะแล้วเสร็จ แม้จะเกิน 10 ปีนับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา โจทก์ก็ไม่หมดสิทธิที่จะดำเนินการบังคับคดี
of 270