พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,218 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 430/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการพิจารณาคดีภาษีและขยายระยะเวลาอุทธรณ์ตามประมวลรัษฎากร
ฟ้องว่า เจ้าพนักงานประเมินสรรพากร ประเมินภาษีเงินได้และเรียกเงินเพิ่มจากโจทก์เกินไปกว่าที่โจทก์จะต้องเสีย 1 ล้านบาทเศษ โจทก์อุทธรณ์ อธิบดีกรมสรรพากรมีคำสั่งให้ยกอุทธรณ์โจทก์ โจทก์จึงมาฟ้องศาลตามประมวลรัษฎากรมาตรา 30(2) ขอให้ศาลพิพากษายกหรือกลับแก้การประเมินและคำสั่งชี้ขาดของอธิบดีกรมสรรพากรที่ให้โจทก์ชำระเงินค่าภาษีเพิ่มเติมอันไม่ถูกต้องนั้นเสีย ดังนี้เป็นการฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์ การที่จะไม่ต้องเสียเงินจำนวนนั้น อันเป็นทรัพย์สินที่พิพาท แม้คำขอท้ายฟ้องโจทก์จะเบี่ยงบ่ายไปประการใด ก็หาทำให้ผลแห่งการปลดเปลื้องทุกข์เปลี่ยนแปลงไปได้ไม่ศาลแขวงจึงไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ได้
ระยะเวลาตามประมวลรัษฎากรมาตรา 30(2) ที่ให้อุทธรณ์คำวินิจฉัยของอธิบดี หรือข้าหลวงประจำจังหวัดต่อศาลภายในกำหนด 15 วัน ฯลฯนั้นเป็นระยะเวลาที่เกี่ยวด้วยวิธีพิจารณาความแพ่งฉะนั้นเมื่อมีเหตุอันสมควรศาลอาจสั่งให้ขยายระยะเวลานั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 23
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2495)
ระยะเวลาตามประมวลรัษฎากรมาตรา 30(2) ที่ให้อุทธรณ์คำวินิจฉัยของอธิบดี หรือข้าหลวงประจำจังหวัดต่อศาลภายในกำหนด 15 วัน ฯลฯนั้นเป็นระยะเวลาที่เกี่ยวด้วยวิธีพิจารณาความแพ่งฉะนั้นเมื่อมีเหตุอันสมควรศาลอาจสั่งให้ขยายระยะเวลานั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 23
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2495)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งเปลี่ยนแปลงหน้าที่นำสืบ และอำนาจฟ้องของผู้เช่า
คำสั่งศาลที่สั่งในเรื่องหน้าที่นำสืบนั้น เมื่อสั่งให้ฝ่ายใดเป็นฝ่ายมีหน้าที่นำสืบก่อนแล้วก็ดี ภายหลังก็ย่อมมีอำนาจสั่งเปลี่ยนแปลงได้เพราะไม่มีกฎหมายใดบัญญัติห้ามไว้และเมื่อศาลสั่งแก้แล้ว คู่ความมิได้โต้แย้งไว้ ก็ย่อมอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้ ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 226
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแก้ไขหน้าที่นำสืบ และผลของการไม่โต้แย้งคำสั่ง
คำสั่งศาลที่สั่งในเรื่องหน้าที่นำสืบนั้น เมื่อสั่งให้ฝ่ายใดเป็นฝ่ายมีหน้าที่นำสืบก่อนแล้วก็ดี ภายหลังก็ย่อมมีอำนาจสั่งเปลี่ยนแปลงได้เพราะไม่มีกฎหมายใดบัญญัติห้ามไว้ และเมื่อศาลสั่งแก้แล้ว คู่ความมิได้โต้แย้งไว้ก็ย่อมอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 307/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลจำกัดในคดีที่ดินต่างประเทศ แม้ขอประมูลหรือขายทอดตลาด ศาลไทยไม่มีอำนาจบังคับได้
โจทก์ฟ้องขอให้เอาที่ดินซึ่งอยู่ต่างประเทศประมูลราคาหรือขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่ง หรือถ้าหากจำเลยต้องการที่ดิน ก็ให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวนหนึ่ง ดังนี้ แม้จะไม่ได้ขอให้แบ่งพื้นที่ดินก็ตามแต่โจทก์ให้จัดการประมูลหรือขายทอดตลาด ถ้าให้ศาลไทยำระคดีที่ดินอยู่ต่างประเทศ หากจะต้องบังคับถึงพื้นดินตามคำขอท้ายฟ้อง ก็บังคับไม่ได้ ฉะนั้น ศาลไทยจึงไม่มีอำนาจชำระคดี เช่นนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการทุเลาการบังคับคดี: กำหนดตามชั้นศาลที่พิจารณาคดี
การทุเลาการบังคับคดีนั้นกฎหมายกำหนดวิธีการให้อยู่ในอำนาจของศาลเป็นคั่นๆไปกล่าว คือ ถ้าเป็นการขอทุเลาการบังคับคดีระหว่างอุทธรณ์ ก็เป็นเรื่องอยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์ ถ้าเป็นการขอทุเลาการบังคับคดีในระหว่างฎีกา จึงจะอยู่ในอำนาจศาลฎีกา
คดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์เมื่อศษลอุทธรณ์ สั่งในเรื่องการทุเลาการบังคับเป็นอย่างไรแล้วจะฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ ต่อศาลฎีกาไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 101/2491)
คดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์เมื่อศษลอุทธรณ์ สั่งในเรื่องการทุเลาการบังคับเป็นอย่างไรแล้วจะฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ ต่อศาลฎีกาไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 101/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการทุเลาการบังคับคดี: อุทธรณ์-ฎีกา
การทุเลาการบังคับคดีนั้นกฎหมายกำหนดวิธีการให้อยู่ในอำนาจของศาลเป็นขั้นๆ ไปกล่าวคือ ถ้าเป็นการขอทุเลาการบังคับคดีระหว่างอุทธรณ์ ก็เป็นเรื่องอยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์ ถ้าเป็นการขอทุเลาการบังคับคดีในระหว่างฎีกา จึงจะอยู่ในอำนาจศาลฎีกา
คดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์เมื่อศาลอุทธรณ์สั่งในเรื่องการทุเลาการบังคับเป็นอย่างไรแล้ว จะฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ ต่อศาลฎีกาอีกไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 101/2491)
คดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์เมื่อศาลอุทธรณ์สั่งในเรื่องการทุเลาการบังคับเป็นอย่างไรแล้ว จะฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ ต่อศาลฎีกาอีกไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 101/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 158/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลและผลการถอนอุทธรณ์: คดีถึงที่สุดเฉพาะจำเลยที่ถอนอุทธรณ์
ศาลแขวงพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่า คดีเกินอำนาจโจทก์มิได้อุทธรณ์ แต่จำเลยกลับอุทธรณ์ว่าศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาคดีนั้นได้แต่ภายหลังจำเลยบางคนขอถอนฟ้องอุทธรณ์เฉพาะตัวศาลอุทธรณ์อนุญาตให้จำเลยที่ขอถอนถอนฟ้องอุทธรณ์ไปได้คงพิจารณาพิพากษาเฉพาะจำเลยคนอื่นแล้วพิพากษาว่าศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนั้น ให้ศาลแขวงดำเนินการพิจารณาต่อไป ศาลฎีกาพิพากษายืน ดังนี้คดีเฉพาะตัวจำเลยที่ถอนอุทธรณ์นั้นถึงที่สุดแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 202โจทก์จะขอให้ศาลหมายเรียกจำเลยที่ถอนอุทธรณ์มาดำเนินการพิจารณารวมเป็นคดีเดียวกับจำเลยอื่นตามฟ้องเดิมของโจทก์อีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการพิจารณาคดีฝ่ายเดียวหลังจำเลยขาดนัดและโจทก์มิได้ยื่นคำร้องภายใน 15 วัน
เรื่องจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์มิได้ยื่นคำร้องให้นัดพิจารณาภายใน 15 วัน นั้นตามบทบัญญัติใน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 198 เพียงแต่บัญญัติให้อำนาจศาลที่จะสั่งจำหน่ายคดีเมือพ้น 15 วันได้ ฉะนั้นศาลย่อมมีอำนาจที่จะสั่งให้ดำเนินการพิจารณาฝ่ายเดียวได้ เมื่อโจทก์ร้องขอ แม้จะเป็นเวลาภายหลัง 15 วันในเมื่อศาลยังมิได้สั่งจำหน่ายคดีนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งพิจารณาคดีฝ่ายเดียวหลังจำเลยขาดนัดและโจทก์มิได้ร้องขอจำหน่ายคดีภายใน 15 วัน
เรื่องจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์มิได้ยื่นคำร้องให้นัดพิจารณาภายใน 15 วัน นั้นตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 เพียงแต่บัญญัติให้อำนาจศาลที่จะสั่งจำหน่ายคดีเมื่อพ้น 15 วันได้ฉะนั้นศาลย่อมมีอำนาจที่จะสั่งให้ดำเนินการพิจารณาฝ่ายเดียวได้ เมื่อโจทก์ร้องขอ แม้จะเป็นเวลาภายหลัง 15 วันในเมื่อศาลยังมิได้สั่งจำหน่ายคดีนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1453-1454/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษปรับควบคู่กับจำคุกในความผิดเกี่ยวกับฝิ่น ศาลมีอำนาจยกโทษปรับได้ตามกฎหมายลักษณะอาญา
ความผิดฐานมีฝิ่น มูลฝิ่น เสพย์ฝิ่นนอกร้าน ตาม พ.ร.บ.ฝิ่นที่บัญญัติให้ลงโทษผู้กระทำผิด จำคุกและปรับนั้น เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยแล้ว จะยกโทษปรับเสียก็ได้ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 23