พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,244 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 250/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องอุทธรณ์: ผลกระทบและการขาดโอกาสอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นส่งให้นำส่งสำเนาฟ้องอุทธรณ์ใน 15 วันแต่คู่ความฝ่ายอุทธรณ์ไม่ทำการนำส่งโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรแล้ว ย่อมถือว่าเป็นการทิ้งฟ้องอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1676-1677/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รวมสำนวนคดีอาญาและพิจารณาโทษฐานสมรู้ร่วมคิด แม้ลงโทษฐานตัวการแต่ศาลอุทธรณ์แก้ไขเป็นสมรู้ร่วมคิดได้
คดี 2 สำนวน ทั้งโจทก์และจำเลยจะต่างคนกัน ทั้งสองสำนวนแต่เป็นเรื่องกรณีเดียวกัน แม้ศาลสืบพยานแต่ละสำนวนกัน ก็พิพากษารวมกันได้ตามอำนาจใน ป.ม.วิ.อาญามาตรา 15 ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 28
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานเป็นตัวการในการจัดให้มีการเล่นการพะนันโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อปรากฎว่าเป็นเพียงผู้ทำไพ่ และคนไพ่อันเป็นการอุปการะแก่การกระทำผิดรายนี้ศาลก็ย่อมลงโทษฐานสมรู้ได้ตามนัยฎีกาที่ 205/2483 , 214/2484
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานเป็นตัวการในการจัดให้มีการเล่นการพะนันโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อปรากฎว่าเป็นเพียงผู้ทำไพ่ และคนไพ่อันเป็นการอุปการะแก่การกระทำผิดรายนี้ศาลก็ย่อมลงโทษฐานสมรู้ได้ตามนัยฎีกาที่ 205/2483 , 214/2484
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1660/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานจำเลย: ศาลอุทธรณ์ต้องรอการสืบพยานจำเลยให้ครบถ้วนก่อนตัดสินคดี
ในคดีอาญา เมื่อศาลชั้นต้นเชื่อข้อต่อสู้ของจำเลยแล้ว จึงให้งดสืบพยานจำเลยต่อไปแล้ว พิพากษายกฟ้องโจทก์เสียดังนี้ เมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลอุทธรณ์ ๆ ไม่เชื่อข้อต่อสู้ของจำเลย ก็จะรวบรัดตัดสินลงโทษจำเลยไปยังไม่ชอบ เพราะจำเลยยังสืบพยานไม่หมด ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยเสียให้สิ้นกระแสร์ความก่อน แล้วศาลอุทธรณ์จึงจะวินิจฉัยตัดสินคดีต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1660/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานจำเลยและการรวบรัดตัดสินคดี ศาลอุทธรณ์ต้องรอการสืบพยานจำเลยให้สิ้นสุดก่อน
ในคดีอาญา เมื่อศาลชั้นต้นเชื่อข้อต่อสู้ของจำเลยแล้ว จึงให้งดสืบพยานจำเลยต่อไปแล้ว พิพากษายกฟ้องโจทก์เสียดังนี้ เมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ไม่เชื่อข้อต่อสู้ของจำเลย ก็จะรวบรัดตัดสินลงโทษจำเลยไปยังไม่ชอบ เพราะจำเลยยังสืบพยานไม่หมด ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยเสียให้สิ้นกระแสความก่อนแล้วศาลอุทธรณ์จึงจะวินิจฉัยตัดสินคดีต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงโทษทางอาญาโดยศาลอุทธรณ์และการพิจารณาการรอการลงอาญา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 252 โดยให้จำคุก 2 ปี ปรับ 400 บาท ลดฐานปรานีกึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี ปรับ 200 บาทโทษจำคุกให้รอการลงอาญาไว้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก3 ปี ลดฐานปรานีกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือนไม่รอการลงอาญา ดังนี้ ถือว่าแก้มากคู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1592/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาในข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น: ข้อจำกัดในการฎีกา
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ 7000 บาทจากจำเลยที่ 1 และอ้างว่าจำเลยที่ 1 ขายที่ดินแก่จำเลยที่ 2 เพื่อฉ้อโจทก์ จึงขอให้ทำลายนิติกรรมซื้อขายด้วย ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินกู้ 7000 บาทแก่โจทก์ส่วนข้อขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขาย ยกเสีย โจทก์อุทธรณ์ในข้อขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขาย ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืนอีกดังนี้ โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1178/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานของจำเลยและการพิจารณาคดีอาญา ศาลต้องรับฟังพยานจำเลยเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่ามีเหตุลงโทษ
จำเลยในคดีอาญาได้ระบุอ้างพยานไว้แล้ว แต่ศาลสั่งงดสืบพยานของจำเลยเสียแล้ว พิพากษายกฟ้องโดยไม่เชื่อพยานโจทก์ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีฝ่ายโจทก์มั่นคงจะลงโทษจำเลยก็จำจะต้องฟังคำพยานฝ่ายจำเลยให้สิ้นกระแสร์ความก่อน ถ้าศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยไปทีเดียวโดยไม่ได้ฟังคำพยานจำเลยแล้วศาลฎีกาย่อมพิพากษา ให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยให้สิ้นกระแสร์ความแล้วส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1178/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำเลยในการสืบพยาน – ศาลอุทธรณ์ต้องรับฟังก่อนพิพากษา
จำเลยในคดีอาญาได้ระบุอ้างพยานไว้แล้ว แต่ศาลสั่งงดสืบพยานของจำเลยเสียแล้ว พิพากษายกฟ้องโดยไม่เชื่อพยานโจทก์ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีฝ่ายโจทก์มั่นคงจะลงโทษจำเลยก็จำจะต้องฟังคำพยานฝ่ายจำเลยให้สิ้นกระแสความก่อน ถ้าศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยไปทีเดียวโดยไม่ได้ฟังคำพยานจำเลยแล้ว ศาลฎีกาย่อมพิพากษา ให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยให้สิ้นกระแสความแล้วส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1157/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ฎีกาประเด็นฟ้องเคลือบคลุมหลังศาลอุทธรณ์แก้ไขคำพิพากษา ทำให้จำเลยมิอาจยกประเด็นนี้ขึ้นฎีกาอีก
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าฟ้องเคลือบคลุม แต่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมจึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ จำเลยมิได้ฎีกาว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมต่อไปครั้นศาลชั้นต้นพิจารณาคดีเสร็จแล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืน ดังนี้จำเลยจะฎีกาว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม ย่อมไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1143/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบังคับคดีและการกระทำละเมิด: แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษากลับ การเข้าทำที่ดินภายใต้คำพิพากษาเดิมไม่ถือเป็นการละเมิด
โจทก์จำเลยต่างแย่งกันเป็นเจ้าของนาพิพาทจนคดีถึงศาลโดยฝ่ายจำเลยอ้างว่าโจทก์เอาที่พิพาทตีชำระหนี้แก่จำเลยแต่โจทก์ปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชนะ จำเลยจึงเข้าทำนำพิพาทรายนี้ ดังนี้ เป็นเรื่องที่จำเลยเข้าทำโดยมีสิทธิที่จะบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลจังหวัดได้อยู่ในเวลานั้น แม้ภายหลังศาลอุทธรณ์จะพิพากษากลับให้โจทก์ชนะ และคดีถึงที่สุดเพียงนั้น ก็จะถือว่าการที่จำเลยเข้าทำนารายนี้เป็นการผิดกฎหมายอันจะประกอบให้เป็นการกระทำฐานละเมิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ไม่ได้ โจทก์จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยโดยอาศัยมูลละเมิดไม่ได้