พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,024 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2328/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัย และการไม่อุทธรณ์ประเด็นข้อเท็จจริงในชั้นอุทธรณ์
คดีที่ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง และศาลอุทธรณ์ก็ไม่รับวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงให้ตามที่จำเลยอุทธรณ์ จำเลยจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงอีกมิได้ เพราะไม่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2328/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัย คดีทุนทรัพย์น้อยกว่าสองหมื่นบาท
คดีที่ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง และศาลอุทธรณ์ก็ไม่รับวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงให้ตามที่จำเลยอุทธรณ์ จำเลยจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงอีกมิได้ เพราะไม่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2183/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์โดยฟังว่าจำเลยไม่มีเจตนากระทำผิด การที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตควรมีความผิดตามฟ้อง จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2142/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความอาญา เนื่องจากจำเลยไม่ได้อธิบายเหตุผลที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยพยานหลักฐานนอกสำนวน
จำเลยฎีกาว่า ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยออกเช็คให้ ส. เจ้าหนี้ จำเลยมิได้นำสืบถึงว่าเงินหนี้มีอยู่เท่าใด ไม่มีการคิดเงินหนี้สินที่ติดพันกันมาก่อนและหนี้ที่ซื้อเชื่อกันหลายครั้งหลายหน ไม่น่าจะมีจำนวนเงินครบถ้วน 12,000 บาทโดยไม่มีเศษเงินเลยเป็นการวินิจฉัยคำพยานนอกสำนวน คลาดเคลื่อนต่อพยานหลักฐานในสำนวนนั้น แต่จำเลยมิได้ยกเหตุผลขึ้นอ้างอิงเลยว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยพยานหลักฐานนอกสำนวนอย่างไร หรือคลาดเคลื่อนต่อพยานหลักฐานในสำนวนอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195ประกอบด้วยมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1993/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นอำนาจฟ้องและคำฟ้องไม่เคลือบคลุม ศาลฎีกาเห็นว่าไม่เป็นเหตุแห่งการฎีกา
จำเลยฎีกาว่า จำเลยอุทธรณ์เรื่องโจทก์ที่ 2 มิได้มอบอำนาจให้โจทก์ที่ 1 ฟ้องคดีเพราะหนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องปลอม แต่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยให้ ข้อต่อสู้นี้ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ในชั้นชี้สองสถานและจำเลยมิได้โต้แย้งไว้ ถือได้ว่าเรื่องอำนาจฟ้องไม่เป็นประเด็นในคดีแล้ว จึงไม่จำต้องวินิจฉัย
ฟ้องโจทก์บรรยายถึงค่าเสียหายว่ารถยนต์ของโจทก์ได้รับความเสียหายปรากฏตามสำเนาบิลเงินสดค่าซ่อมท้ายฟ้องเป็นเงิน26,730 บาทเท่านั้น แต่บิลเงินสดดังกล่าวแสดงรายการค่าซ่อม และเปลี่ยนอะไหล่รวมทั้งราคาแต่ละรายการไว้ชัดแจ้งเพียงพอที่จำเลยจะเข้าใจได้ดีแล้ว จึงไม่เคลือบคลุม
ฟ้องโจทก์บรรยายถึงค่าเสียหายว่ารถยนต์ของโจทก์ได้รับความเสียหายปรากฏตามสำเนาบิลเงินสดค่าซ่อมท้ายฟ้องเป็นเงิน26,730 บาทเท่านั้น แต่บิลเงินสดดังกล่าวแสดงรายการค่าซ่อม และเปลี่ยนอะไหล่รวมทั้งราคาแต่ละรายการไว้ชัดแจ้งเพียงพอที่จำเลยจะเข้าใจได้ดีแล้ว จึงไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1746/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองฎีกาต้องมีเหตุผลว่าปัญหาสำคัญ การรับรองโดยเห็นว่าไม่สำคัญแต่เห็นควรพิจารณา ไม่ถือว่าอนุญาตฎีกา
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ลงโทษจำคุกจำเลย 3 เดือน จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ ผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นรับรองว่า "เห็นว่าข้อที่ฎีกาไม่ใช่ปัญหาที่สำคัญ แต่เห็นว่าควรได้รับการพิจารณาวินิจฉัยจากศาลฎีกา จึงรับรองให้" ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าเป็นการอนุญาตให้ฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นฎีกา และข้อจำกัดการวินิจฉัยประเด็นใหม่ที่ไม่เคยยกขึ้นในศาลชั้นต้น
จำเลยยกข้อต่อสู้ไว้ในคำให้การเพียงว่าหนังสือสัญญาที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นหนังสือสัญญาระงับข้อพิพาทคดีอาญาเป็นโมฆะไม่ได้ต่อสู้ว่าคดีที่โจทก์ถอนคำร้องทุกข์เป็นความผิดอันยอมความไม่ได้ในชั้นฎีกาจำเลยจะฎีกาว่าความผิดคดีอาญาดังกล่าวเป็นความผิดอันยอมความไม่ได้หาได้ไม่ เพราะเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ทั้งมิใช่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1584-1586/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาโต้แย้งข้อเท็จจริง: จำเลยอ้างความประมาท แต่เบี่ยงเบนข้อเท็จจริงจากที่ศาลอุทธรณ์รับฟัง
จำเลยฎีกาว่ามิได้มีเจตนากระทำผิดแต่กระทำโดยประมาทโดยจำเลยกล่าวอ้างข้อเท็จจริงในฎีกาให้ผิดเพี้ยนไปจากที่ศาลอุทธรณ์รับฟังมา จึงเป็นฎีกาโต้แย้งข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ได้รับฟังมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนนั่นเอง เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1389-1390/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาในคดีเช็คที่ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น กรณีลงโทษปรับจำเลยเพียงสถานเดียวทำให้จำเลยต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจำเลยสถานเดียว ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1279/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายเวลาฎีกาต้องมีเหตุพิเศษหรือเหตุสุดวิสัย มิใช่ละเลยการดำเนินคดี
การขอขยายกำหนดเวลายื่นฎีกาจะพึงทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษและต้องมีคำขอขึ้นมาเสียก่อนสิ้นระยะเวลาที่กำหนดให้ยื่นฎีกา เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย จึงจะมีคำขอขึ้นมาภายหลังได้ ถ้าเหตุที่จำเลยอ้างตามคำร้องนั้นเห็นได้ชัดว่าแม้จะไต่สวนได้ความสมจริงดังข้ออ้างก็มิใช่กรณีมีเหตุสุดวิสัย แต่เป็นกรณีที่จำเลยเพิกเฉยละเลยต่อการดำเนินคดีของตน ศาลก็ไม่จำเป็นต้องทำการไต่สวน
จำเลยทราบดีว่าทนายจำเลยจะไม่มีโอกาสดำเนินคดีแทนจำเลยต่อไปเพราะจำเลยไม่ต้องการให้ทนายจำเลยดำเนินคดีในชั้นฎีกา จำเลยก็ชอบที่จะถอนทนายจำเลยขณะคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ได้ทุกเมื่อ และติดตามฟังผลคดีด้วยตนเองเพื่อจะใช้สิทธิยื่นฎีกา ดังนั้นการที่ทนายจำเลยได้รับหมายนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แล้วไม่แจ้งให้จำเลยทราบ ทำให้จำเลยไม่อาจยื่นคำขอขยายกำหนดเวลายื่นฎีกาได้ก่อนสิ้นระยะเวลาที่กำหนดให้ยื่นฎีกา จึงเป็นความบกพร่องผิดพลาดของจำเลย ไม่ใช่เป็นกรณีมีเหตุสุดวิสัย ทั้งเหตุที่อ้างมาก็ไม่ถือได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษที่จะขยายกำหนดเวลายื่นฎีกาให้จำเลยด้วย
จำเลยทราบดีว่าทนายจำเลยจะไม่มีโอกาสดำเนินคดีแทนจำเลยต่อไปเพราะจำเลยไม่ต้องการให้ทนายจำเลยดำเนินคดีในชั้นฎีกา จำเลยก็ชอบที่จะถอนทนายจำเลยขณะคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ได้ทุกเมื่อ และติดตามฟังผลคดีด้วยตนเองเพื่อจะใช้สิทธิยื่นฎีกา ดังนั้นการที่ทนายจำเลยได้รับหมายนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แล้วไม่แจ้งให้จำเลยทราบ ทำให้จำเลยไม่อาจยื่นคำขอขยายกำหนดเวลายื่นฎีกาได้ก่อนสิ้นระยะเวลาที่กำหนดให้ยื่นฎีกา จึงเป็นความบกพร่องผิดพลาดของจำเลย ไม่ใช่เป็นกรณีมีเหตุสุดวิสัย ทั้งเหตุที่อ้างมาก็ไม่ถือได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษที่จะขยายกำหนดเวลายื่นฎีกาให้จำเลยด้วย