คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พยานหลักฐาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,589 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับพยานหลักฐานเพิ่มเติมหลังสืบพยานเสร็จสิ้น ศาลต้องให้โอกาสสืบหักล้างเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
โจทก์ส่งอ้างเอกสารเป็นพยานในคดีหลังจากที่สืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จสิ้นแล้ว และโดยมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานนั้นไว้ ถ้าศาลเห็นว่าเป็นพยานหลักฐานอันเกี่ยวกับประเด็นในคดี แม้จะส่งยื่นขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลก็มีอำนาจสั่งรับไว้เป็นพยานของศาลได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคท้าย
ถ้าศาลจะรับฟังพยานเอกสารที่ส่งยื่นเป็นพยานเพิ่มเติมหลังจากที่ศาลสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จแล้ว ศาลจะต้องให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งที่คัดค้านการส่งยื่นเอกสารนั้นได้มีโอกาสสืบหักล้างเสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับพยานหลักฐานเพิ่มเติมหลังสืบพยานเสร็จสิ้น ศาลต้องให้โอกาสคู่ความสืบหักล้างเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
โจทก์ส่งอ้างเอกสารเป็นพยานในคดีหลังจากที่สืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จสิ้นแล้ว และโดยมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานนั้นไว้ ถ้าศาลเห็นว่าเป็นพยานหลักฐานอันเกี่ยวกับประเด็นในคดี แม้จะส่งยื่นขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลก็มีอำนาจสั่งรับไว้เป็นพยานของศาลได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคท้าย
ถ้าศาลจะรับฟังพยานเอกสารที่ส่งยื่นเป็นพยานเพิ่มเติมหลังจากที่ศาลสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จแล้ว ศาลจะต้องให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งที่คัดค้านการส่งยื่นเอกสารนั้นได้มีโอกาสสืบหักล้างเสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 223-224/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาททำร้ายร่างกาย: ผู้ถูกทำร้ายไม่มีอำนาจฟ้อง, การบรรยายฟ้องรวมความผิด, พยานหลักฐานไม่พอฟัง
โจทก์จำเลยต่างสมัครใจเข้าวิวาททำร้ายกันและกัน โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย ไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยได้
แม้พยานหลักฐานของอัยการโจทก์ จะไม่พอฟังว่าจำเลยได้ร่วมกันชิงทรัพย์ของผู้เสียหาย แต่ความผิดฐานชิงทรัพย์นี้ อัยการโจทก์บรรยายฟ้องรวมความผิดฐานทำร้ายร่างกายอยู่ด้วย และคดีฟังได้ว่าจำเลยได้ทำร้ายผู้เสียหายบาดเจ็บ ศาลจึงลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1643/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานคำตายของผู้ตายที่ยืนยันตัวผู้กระทำผิดต่อหน้าพยานก่อนสิ้นใจ รับฟังได้แม้ไม่มีลายมือชื่อ
ข้อความที่ผู้ตายได้กล่าวยืนยันต่อผู้ใหญ่บ้านและเจ้าพนักงานตำรวจในขณะที่ผู้ตายยังมีสติดี ไม่มีอาการเพ้อคลั่ง และรู้ตัวว่าคงจะตายแน่ว่าจำเลยทั้งสองเป็นคนร้ายนั้น ถึงแม้ว่าเจ้าพนักงานตำรวจจะบันทึกถ้อยคำให้ผู้ตายลงชื่อไว้ไม่ทัน ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1643/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การของผู้ตายก่อนเสียชีวิตเป็นพยานหลักฐานได้ แม้ไม่มีลายมือชื่อ
ข้อความที่ผู้ตายได้กล่าวยืนยันต่อผู้ใหญ่บ้านและเจ้าพนักงานตำรวจในขณะที่ผู้ตายยังมีสติดี ไม่มีอาการเพ้อคลั่ง และรู้ตัวว่าคงจะตายแน่ ว่าจำเลยทั้งสองเป็นคนร้ายนั้น ถึงแม้ว่าเจ้าพนักงานตำรวจจะบันทึกถ้อยคำให้ผู้ตายลงชื่อไว้ไม่ทัน ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1274/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จในคดีแพ่งไม่เป็นความผิดอาญาตาม ม.137 และการแถลงเท็จต่อศาลไม่ผิดตาม ม.267 หากไม่มีเจตนาใช้เป็นพยานหลักฐาน
การเอาความเท็จมาฟ้องในคดีแพ่งหรือการที่จำเลยในคดีแพ่งยื่นคำให้การเป็นเท็จ ไม่เป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 เพราะมิได้เป็นการแจ้งความต่อเจ้าพนักงาน และการที่โจทก์หรือจำเลยในคดีแพ่งแถลงให้ศาลจดข้อความอันเป็นเท็จลงในสำนวนคดีแพ่งโดยมิได้มีวัตถุประสงค์จะใช้ข้อความนั้นเป็นพยานหลักฐาน ก็หาเป็นความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าเพิ่มเติมและสัญญาต่างตอบแทนพิเศษ: สิทธิในการนำสืบพยานหลักฐาน
ทำสัญญาเช่าห้องแถวสองชั้นฉบับแรกมีกำหนด 3 ปีระหว่างอายุสัญญาเช่าได้ทำสัญญาอีก 1 ฉบับ โดยผู้ให้เช่ารับจะให้เช่าห้องดังกล่าวต่อจากสัญญาเช่าฉบับแรกอีก 9 ปี และผู้เช่ารับภาระซ่อมแซมต่อเติมพื้นประตูและทำชั้นที่สามเพิ่ม ทั้งได้ทำการเหล่านี้แล้วสัญญาฉบับหลังย่อมเป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดพิเศษนอกเหนือไปจากสัญญาเช่าธรรมดา
ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ต้องมีเอกสารมาแสดงหรือบังคับให้จดทะเบียน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 92/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบข้อเท็จจริงใหม่นอกประเด็นที่ได้ให้การไว้เดิม ย่อมเป็นเหตุให้ศาลไม่รับฟังพยานหลักฐานนั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อเชื่อสีไปจากโจทก์โดยรับมอบของไปแล้ว แต่ยังไม่ชำระเงินแก่โจทก์ จำเลยให้การว่าจำเลยไม่เคยมีนิติสัมพันธ์กับโจทก์. ไม่เคยติดต่อซื้อของจากโจทก์ ดังนี้ ประเด็นจึงคงมีเพียงว่า จำเลยได้ซื้อเชื่อสีไปจากโจทก์หรือไม่เท่านั้น จำเลยจะนำสืบว่าได้ชำระเงินค่าสีแก่โจทก์แล้วไม่ได้ เพราะเป็นการนำสืบนอกประเด็น และเมื่อฟังว่าจำเลยได้ซื้อเชื่อสีไปจากโจทก์จริงตามฟ้องแล้ว ย่อมต้องฟังว่าจำเลยยังมิได้ชำระเงินค่าสีแก่โจทก์ เพราะจำเลยมิได้ให้การต่อสู้ในข้อนี้ไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลือกตั้ง: ผู้ร้องต้องพิสูจน์ข้อกล่าวหาการนับคะแนนผิดพลาดและจูงใจราษฎรด้วยพยานหลักฐาน หากไม่สืบพยาน ศาลไม่รับฟัง
ผู้ร้องร้องคัดค้านว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนเป็นไปโดยไม่ชอบสมควรจะให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยอ้างว่ากรรมการนับคะแนนวินิจฉัยบัตรเสียว่าเป็นบัตรดี และ บัตรดีว่าเป็นบัตรเสียกับอ้างว่าผู้ที่ได้รับเลือกตั้งได้จูงใจราษฎรให้ลงคะแนนให้แก่ตน ต่อมาในชั้นพิจารณาผู้ร้องเพียงแต่อ้างรายงานแสดงผลการนับคะแนน (ผ.ท.18) และขอให้ศาลวินิจฉัยโดยไม่ติดใจสืบพยานบุคคล ดังนี้ข้อเท็จจริงก็ฟังไม่ได้ตามที่ผู้ร้องร้องคัดค้านมาศาลย่อมสั่งยกคำร้องคัดค้านของผู้ร้องเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคัดค้านผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำเป็นต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงด้วยพยานหลักฐาน
ผู้ร้องร้องคัดค้านว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนเป็นไปโดยไม่ชอบ. สมควรจะให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยอ้างว่ากรรมการนับคะแนนวินิจฉัยบัตรเสียว่าเป็นบัตรดี และ บัตรดีว่าเป็นบัตรเสีย. กับอ้างว่าผู้ที่ได้รับเลือกตั้งได้จูงใจราษฎรให้ลงคะแนนให้แก่ตน. ต่อมาในชั้นพิจารณาผู้ร้องเพียงแต่อ้างรายงานแสดงผลการนับคะแนน (ผ.ท.18).และขอให้ศาลวินิจฉัยโดยไม่ติดใจสืบพยานบุคคล. ดังนี้ข้อเท็จจริงก็ฟังไม่ได้ตามที่ผู้ร้องร้องคัดค้านมา.ศาลย่อมสั่งยกคำร้องคัดค้านของผู้ร้องเสีย.
of 259