พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,024 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 370/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอผัดส่งตัวผู้ต้องหาและการปรับนายประกัน การอุทธรณ์/ฎีกาต้องโต้แย้งคำสั่งเดิม
นายประกันขอผลัดส่งตัวผู้ต้องหาหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายนายประกันขอผลัดส่งตัวผู้ต้องหาอีก ศาลชั้นต้นสั่งปรับนายประกันตามสัญญาประกันเท่ากับศาลไม่อนุญาตให้นายประกันผลัดส่งตัวผู้ต้องหาไปในตัว นายประกันอุทธรณ์และฎีกาว่าหลักประกันที่ยื่นต่อศาลเป็นการเพียงพอ มิได้ประวิงคดีและไม่ทำให้เสียรูปคดี ขอให้ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาให้โอกาสแก่นายประกันติดตามตัวผู้ต้องหาอีกระยะหนึ่ง อุทธรณ์และฎีกาดังกล่าวเพียงแสดงความประสงค์จะขอผลัดการส่งตัวผู้ต้องหาต่อศาลอุทธรณ์ฎีกาเท่านั้น มิได้โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งปรับนายประกันตามสัญญาประกันว่าไม่สมควร หรือไม่ถูกต้องแต่อย่างใด ศาลฎีกาจึงไม่รับไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นฎีกาที่ไม่เคยยกขึ้นในชั้นศาลล่าง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยให้การต่อสู้แต่เพียงว่า จำเลยไม่ได้รับหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองจากโจทก์เท่านั้น ฉะนั้นที่จำเลยฎีกาว่า ทนายโจทก์มีหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองแทนโจทก์โดยไม่ได้รับมอบอำนาจเป็นหนังสือจากโจทก์ เท่ากับไม่ได้บอกกล่าว จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้นปัญหานี้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การ ไม่ใช่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยปัญหานี้มา ก็ถือว่าเป็นปัญหาที่มิได้ว่ากันมาแล้วโดยชอบในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 299-302/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากจำเลยโต้แย้งเฉพาะคำพิพากษาศาลชั้นต้น ไม่มีการโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
การที่จำเลยกล่าวในฎีกาว่า คำพิพากษาศาลชั้นต้นคลาดเคลื่อนต่อกฎหมายหลายประการ จึงฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นและตอนท้ายฎีกาขอให้พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ย้อน สำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสืบพยานและพิพากษาใหม่ ดังนี้ เป็นการคัดค้านโต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้น ไม่มีข้อความใดที่แสดงให้เห็นว่าจำเลยฎีกาคัดค้านโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เลย จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 297/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงคำขอในชั้นฎีกา: ผู้คัดค้านไม่สามารถขอให้ศาลตั้งผู้คัดค้านอีกคนเป็นผู้จัดการมรดกได้ หากไม่ได้มีการขอไว้ตั้งแต่แรก
ผู้ร้องขอให้ศาลสั่งตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดกของ ช. ผู้คัดค้านที่ 1 คัดค้านว่า ผู้ร้องไม่ควรเป็นผู้จัดการมรดก ขอให้ยกคำร้องและตั้งผู้คัดค้านที่ 1เป็นผู้จัดการมรดกต่อไปผู้คัดค้านที่ 2 ยื่นคำคัดค้านทำนองเดียวกับผู้คัดค้านที่ 1 และกล่าวต่อไปว่าถ้าจำเป็นจะต้องตั้งผู้จัดการมรดกก็ควรตั้งผู้คัดค้านที่ 1 ศาลชั้นต้นตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันศาลอุทธรณ์ตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกแต่ผู้เดียว (ผู้คัดค้านที่ 1 มิได้ฎีกา)ดังนี้ ผู้คัดค้านที่ 2 จะฎีกาขอให้ตั้งผู้คัดค้านที่ 1 เป็นผู้จัดการมรดกหาได้ไม่เพราะในคำคัดค้านของตนไม่มีคำขอเช่นนั้นมาแต่ต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2850/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการฎีกาประเด็นใหม่ & ความรับผิดเจ้าของรถกรณีผู้ขับเป็นคนเดียวกัน
ข้อที่จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ หรือต่อสู้ไว้แต่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นและจำเลยมิได้คัดค้าน นั้น เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดฐานะเจ้าของและผู้ครอบครองรถยนต์โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถยนต์โดยประมาททำให้โจทก์เสียหาย ถึงแม้ในทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยที่ 1 เป็นคนขับก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 1 พ้นฐานะจากการเป็นผู้ครอบครองรถ เพียงแต่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับรถอีกฐานหนึ่งด้วยเท่านั้น กรณีไม่ใช่เรื่องโจทก์นำสืบไม่สมฟ้องจำเลยที่ 1 ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย
การกล่าวในอุทธรณ์เพียงว่า ค่าเสียหายที่โจทก์นำสืบและศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาสูงเกินไป โดยมิได้กล่าวรายละเอียดให้ชัดแจ้งว่า ค่าเสียหายรายการใดที่สูงเกินไปเพราะเหตุใด เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดฐานะเจ้าของและผู้ครอบครองรถยนต์โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถยนต์โดยประมาททำให้โจทก์เสียหาย ถึงแม้ในทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยที่ 1 เป็นคนขับก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 1 พ้นฐานะจากการเป็นผู้ครอบครองรถ เพียงแต่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับรถอีกฐานหนึ่งด้วยเท่านั้น กรณีไม่ใช่เรื่องโจทก์นำสืบไม่สมฟ้องจำเลยที่ 1 ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย
การกล่าวในอุทธรณ์เพียงว่า ค่าเสียหายที่โจทก์นำสืบและศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาสูงเกินไป โดยมิได้กล่าวรายละเอียดให้ชัดแจ้งว่า ค่าเสียหายรายการใดที่สูงเกินไปเพราะเหตุใด เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2850/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาห้ามเรื่องอายุความและกรรมสิทธิ์รถที่ไม่ยกขึ้นในศาลล่าง และยืนตามศาลอุทธรณ์เรื่องความรับผิดของเจ้าของรถ
ข้อที่จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ หรือต่อสู้ไว้แต่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นและจำเลยมิได้คัดค้านนั้น เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดฐานะเจ้าของและผู้ครอบครองรถยนต์โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถยนต์โดยประมาททำให้โจทก์เสียหาย ถึงแม้ในทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยที่ 1 เป็นคนขับก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 1 พ้นฐานะจากการเป็นผู้ครอบครองรถเพียงแต่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับรถอีกฐานะหนึ่งด้วยเท่านั้นกรณีไม่ใช่เรื่องโจทก์นำสืบไม่สมฟ้องจำเลยที่ 1ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย
การกล่าวในอุทธรณ์เพียงว่า ค่าเสียหายที่โจทก์นำสืบ และ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาสูงเกินไป โดยมิได้กล่าวรายละเอียดให้ชัดแจ้งว่า ค่าเสียหายรายการใดที่สูงเกินไปเพราะเหตุใด เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดฐานะเจ้าของและผู้ครอบครองรถยนต์โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถยนต์โดยประมาททำให้โจทก์เสียหาย ถึงแม้ในทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยที่ 1 เป็นคนขับก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 1 พ้นฐานะจากการเป็นผู้ครอบครองรถเพียงแต่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับรถอีกฐานะหนึ่งด้วยเท่านั้นกรณีไม่ใช่เรื่องโจทก์นำสืบไม่สมฟ้องจำเลยที่ 1ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย
การกล่าวในอุทธรณ์เพียงว่า ค่าเสียหายที่โจทก์นำสืบ และ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาสูงเกินไป โดยมิได้กล่าวรายละเอียดให้ชัดแจ้งว่า ค่าเสียหายรายการใดที่สูงเกินไปเพราะเหตุใด เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2646/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเนื่องจากคำรับรองไม่เป็นไปตามมาตรา 221 ป.วิ.อาญา เหตุผลไม่ชัดเจนว่าเป็นปัญหาสำคัญ
ฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกน้อยลงและรอการลงโทษเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำรับรองของผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาว่า "จำเลยถูกพิพากาษลงโทษโดยกฎหมายซึ่งแก้ไขโทษชั้นต่ำให้สูงจากเดิมมาก สมควรให้ศาลฎีกาวินิจฉัยเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไปจึงรับรองให้จำเลยทั้งหมดฎีกาได้" เป็นคำรับรองที่ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 เพราะไม่ได้ความว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาจึงรับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้ไม่ได้
คำรับรองของผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาว่า "จำเลยถูกพิพากาษลงโทษโดยกฎหมายซึ่งแก้ไขโทษชั้นต่ำให้สูงจากเดิมมาก สมควรให้ศาลฎีกาวินิจฉัยเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไปจึงรับรองให้จำเลยทั้งหมดฎีกาได้" เป็นคำรับรองที่ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 เพราะไม่ได้ความว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาจึงรับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2612/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้อุทธรณ์เฉพาะโทษไม่กระทบต่อการฎีกาในข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 10 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลยเมื่อลดมาตราส่วนโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 แล้วมีกำหนด 2 ปี เป็นการแก้เฉพาะกำหนดโดย ไม่ได้แก้บท เป็นการแก้น้อย จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2434/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากแก้ไขเล็กน้อยในศาลอุทธรณ์ และทุนทรัพย์ไม่เกินห้าหมื่นบาท
ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่ 2 รับผิดในฐานะผู้รับอาวัลในตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 30,000 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1(ผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน) ในจำนวนเงิน 5,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้ร่วมกันรับผิดในจำนวนเงิน30,000 บาท เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2382/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฎีกาจำกัดเฉพาะประเด็นค่าเสียหาย ศาลฎีกาไม่รับฟังเหตุแก้ฎีกาเรื่องความรับผิด
โจทก์เป็นฝ่ายฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่วินิจฉัยให้จำเลยชำระค่าเสียหายให้โจทก์เพียง 40,000 บาท ว่าโจทก์ควรได้รับค่าเสียหาย 60,000 บาท ประเด็นในชั้นฎีกาจึงมีว่า ค่าเสียหายที่กำหนดให้ 40,000 บาท ควรเป็น 60,000 บาท หรือไม่เท่านั้นจำเลยจะแก้ฎีกาว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดเสียค่าเสียหายให้แก่โจทก์เลยโดยจำเลยมิได้เป็นฝ่ายฎีกาหาได้ไม่