คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลอุทธรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,244 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1667/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้าม เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องตามศาลชั้นต้น แม้ฟังข้อเท็จจริงต่างกัน
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินสองพันบาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ตามศาลชั้นต้น แม้จะฟังข้อเท็จจริงต่างกันมา ผลแห่งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ก็คงยกฟ้องโจทก์ยืนตามศาลชั้นต้นนั่นเอง ดังนี้ โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 (และตามตัวอย่างฎีกาที่ 497/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1484/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการขอค่าสินบนตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร และการแก้ไขคำพิพากษาโดยศาลอุทธรณ์
เงินสินบนที่จะให้ตามพ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ.2490 มาตรา 30 นั้น พนักงานอัยการไม่มีสิทธิที่จะขอแทนผู้รับสินบน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าสินบนตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ.2490 มาตรา 30 โดยอัยการโจทก์มิได้ขอ แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ในข้อนี้ ศาลอุทธรณ์ก็ย่อมมีอำนาจจะยกขึ้นอ้างและพิพากษาแก้ไขให้เป็นผลดีแก่จำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 195 เพราะเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1433/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้อุทธรณ์เล็กน้อยและการห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง เมื่อทุนทรัพย์น้อย
โจทก์ฟ้องตั้งทุนทรัพย์เรียกร้องมา 1199 บาทเศษ ทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้องทั้งหมดมี 10 รายการ เฉพาะที่นามีราคารายการละ 100 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ศาลชั้นต้นเฉพาะนา 1 แปลงเท่านั้น จึงถือว่าเป็นการแก้น้อย ฎีกา+ข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1433/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้อุทธรณ์น้อยและการห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงเมื่อศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะบางส่วนของทรัพย์สินพิพาท
โจทก์ฟ้องตั้งทุนทรัพย์ที่เรียกร้องมา 1,199 บาทเศษ ทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้องทั้งหมดมี 10 รายการ เฉพาะที่นามีราคารายการละ 100 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ศาลชั้นต้นเฉพาะที่นา 1 แปลงเท่านั้น จึงถือว่าเป็นการแก้น้อยฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1426/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลไม่เสียผลต่อการวินิจฉัยคดี ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะสั่งเรียกค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมแล้ววินิจฉัยคดีได้
การที่ผู้ร้องสอดมิได้เสียค่าขึ้นศาลในศาลชั้นต้น ซึ่งจะถือว่าเป็นความผิดของผู้ร้องสอดไม่ถนัด ทั้งศาลชั้นต้นก็มิได้ทักท้วงอย่างใดกลับวินิจฉัยคดีให้ดังนี้ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าผู้ร้องสอดมิได้เสียค่าขึ้นศาลมาก็ชอบที่จะสั่งเรียกค่าธรรมเนียมให้ถูกต้องแล้ววินิจฉัยคดีให้ถูกต้องจะอ้างว่าผู้ร้องสอดมิได้เสียค่าขึ้นศาลมาจึงไม่วินิจฉัยให้นั้น ยังไม่ถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1426/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลของผู้ร้องสอด: ศาลอุทธรณ์ชอบเรียกเก็บค่าธรรมเนียมก่อนวินิจฉัยคดีได้
การที่ผู้ร้องสอดมิได้เสียค่าขึ้นศาลในศาลชั้นต้น ซึ่งจะถือว่าเป็นความผิดของผู้ร้องสอดไม่ถนัด ทั้งศาลชั้นต้นก็มิได้ทักท้วงอย่างใด กลับวินิจฉัยคดีให้ดังนี้ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าผู้ร้องสอดมิได้เสียค่าขึ้นศาลมาก็ชอบที่จะสั่งเรียกค่าธรรมเนียมให้ถูกต้องแล้ววินิจฉัยคดีให้จะอ้างว่าผู้ร้องสอดมิได้เสียค่าขึ้นศาลมาจึงไม่วินิจฉัยให้นั้น ยังไม่ถูกต้อง (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 19และ20/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดในการฎีกาขอโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา หากศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นที่ยกข้อหา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 ศาลชั้นต้นลงโทษ ตามมาตรา254 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษตามมาตรา 251 ดังนี้ถือว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในข้อที่ให้ยกข้อหาของโจทก์ในฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมาตรา 249แล้ว โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 249 ไม่ได้ เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 (อ้างฎีกา773/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1274/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มทุนทรัพย์หลังศาลอุทธรณ์พิพากษาเพื่อหวังฎีกา ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คดีมีทุนทรัพย์เพียง 2000 บาท ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นแล้ว จึงเป็นคดีต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จำเลยจะยื่นคำร้องขอเพิ่มทุนทรัพย์ เพื่อจะให้เป็นคดีที่จะฎีกาได้ต่อไปนั้น ไม่ต้องด้วยความประสงค์และเป็นกรณีที่ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 150 วรรคสาม(จึงไม่ทำให้คดีของจำเลยเป็นคดีที่ฎีกาได้)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1270/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลย และผลกระทบต่อการฎีกา
โจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่ไม่ดำเนินการส่งสำเนาแก่จำเลยศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง(อุทธรณ์)จึงส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์มีคำสั่งแต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่ายังไม่เข้ากรณีทิ้งฟ้อง จึงสั่งให้ศาลชั้นต้นสั่งกำหนดวันให้โจทก์มานำเจ้าพนักงานศาลนำหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์เพื่อส่งแก่จำเลย ดังนี้ ถือว่า คำสั่งของศาลอุทธรณ์เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247,226

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1191-1192/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับเนื่องจากศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องด้วยเหตุผลเดียวกัน แม้ข้อเท็จจริงเบื้องต้นต่างกัน
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ฟังความเบื้องต้นต่างกัน แต่ในที่สุดศาลเดิมและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยอาศัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยไม่ได้กระทำผิดดังข้อที่โจทก์กล่าวหา ดังนี้ โจทก์จะฎีกาไม่ได้ ต้องห้ามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
of 225