พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,003 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 341/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงื่อนไขสัญญาซื้อขายที่ดิน: การบอกเลิกสัญญาเมื่อผู้ขายแพ้คดีขับไล่ผู้เช่า
สัญญาจะซื้อขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีข้อหนึ่งว่า "ผู้ซื้อกับผู้ขายตกลงจะโอนซื้อขายกันเด็ดขาดณ หอทะเบียนที่ดินในเมื่อผู้ขายได้ฟ้องขับไล่นางเลื่อนผู้เช่าจนคดีถึงที่สุด" ดังนี้โจทก์ก็ยอมสืบอธิบายสัญญาได้ที่+ข้อความเช่นนี้ ก็เพราะผู้ซื้อประสงค์จะเข้าอยู่เอง
ฉนั้นถ้าผู้ขายฟ้องขับไล่ผู้เช่าจนคดีถึงที่สุดแล้ว แต่ผู้ขายเป็นฝ่ายแพ้คดี ผู้เช่าก็ยังคงได้อยู่ในที่ดินบ้านเรือนนี้ต่อไป ผู้ซื้อย่อมมีสิทธิ์บอกยกเลิกสัญญาและขอรับเงินมัดจำในการซื้อขายคืนได้
ฉนั้นถ้าผู้ขายฟ้องขับไล่ผู้เช่าจนคดีถึงที่สุดแล้ว แต่ผู้ขายเป็นฝ่ายแพ้คดี ผู้เช่าก็ยังคงได้อยู่ในที่ดินบ้านเรือนนี้ต่อไป ผู้ซื้อย่อมมีสิทธิ์บอกยกเลิกสัญญาและขอรับเงินมัดจำในการซื้อขายคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 341/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงื่อนไขสัญญาซื้อขายที่ดิน: การบอกเลิกสัญญาเมื่อผู้ขายแพ้คดีขับไล่ผู้เช่า
สัญญาจะซื้อขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีข้อหนึ่งว่า'ผู้ซื้อกับผู้ขายตกลงจะโอนซื้อขายกันเด็ดขาด ณ หอทะเบียนที่ดิน ในเมื่อผู้ขายได้ฟ้องขับไล่นางเลื่อนผู้เช่าจนคดีถึงที่สุด' ดังนี้ โจทก์ก็ย่อมสืบอธิบายสัญญาได้ว่าที่มีข้อความเช่นนี้ ก็เพราะผู้ซื้อประสงค์จะเข้าอยู่เองฉะนั้นถ้าผู้ขายฟ้องขับไล่ผู้เช่าคดีถึงที่สุดแล้ว แต่ผู้ขายเป็นฝ่ายแพ้คดีผู้เช่าก็คงยังได้อยู่ในที่ดินบ้านเรือนนี้ได้ต่อไป ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและขอรับเงินมัดจำในการซื้อขายคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 317/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความการเรียกร้องค่าสินค้าที่ถูกลักมา: คดีอาญาไม่ใช่คดีเดิมตาม ป.พ.พ. มาตรา 481
ซื้อซีเมนต์จากผู้ขายไว้โดยสุจริต ภายหลังปรากฏว่าซีเมนต์รายนี้ถูกคนร้ายลักมาจากผู้อื่น อัยยการได้เป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษคนร้าย ศาลมีคำพิพากษาให้คืนแก่ผู้อื่นซึ่งเป็นเจ้าของ ดังนี้ ผู้ซื้อฟ้องเรียกเงินคืนจากผู้ขายได้ และในกรณีเช่นนี้ คดีอาญาที่อัยยการฟ้องคนร้ายนั้น หาใช่คดีเดิมตามความหมายแห่ง ป.พ.พ.มาตรา 481 ไม่ ผู้ขายจะยกอายุความ 3 เดือนมาตัดฟ้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 205/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ขายไม่ผิดนัดสัญญา หากผู้ซื้อไม่ยอมรับการครอบครองก่อนโอน และผู้ขายคืนเงินมัดจำแล้ว ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย
ทำสัญญาขายที่ดินและบ้านเรือนให้เขาโดยได้รับเงินมัดจำไว้จำนวนหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่สามารถโอนให้ผู้ซื้อภายในกำหนดตามสัญญาได้ เพราะมีเหตุขัดข้อง เจ้าพนักงานยังไม่ยอมทำโอนให้ภายในกำหนดสัญญา ผู้ขายได้แสดงความจำนงให้ผู้ซื้อครอบครองที่ ๆ จะซื้อไปก่อน ผู้ซื้อไม่ยอม ดังนี้จะถือว่าผู้ขายเป็นฝ่ายผิดนัดไม่ได้
ผู้รับมัดจำขอคืนเงินมัดจำแล้ว อีกฝ่าย 1 ไม่ยอมรับดังนี้จะฟ้องขอให้ผู้รับมัดจำเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นมาไม่ได้
ผู้รับมัดจำขอคืนเงินมัดจำแล้ว อีกฝ่าย 1 ไม่ยอมรับดังนี้จะฟ้องขอให้ผู้รับมัดจำเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นมาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 205/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดิน: ผู้ขายไม่ผิดนัดหากมีเหตุขัดข้องและเสนอให้ผู้ซื้อเข้าครอบครองก่อน ส่วนดอกเบี้ยมัดจำ ผู้ขายไม่ต้องจ่ายหากไม่ใช่ฝ่ายผิดสัญญา
ทำสัญญาขายที่ดินและบ้านเรือนให้เขา โดยได้รับเงินมัดจำไว้จำนวนหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่สามารถโอนให้ผู้ซื้อภายในกำหนดตามสัญญาได้ เพราะมีเหตุขัดข้อง เจ้าพนักงานยังไม่ยอมทำโอนให้ภายในกำหนดสัญญาผู้ขายได้แสดงความจำนงให้ผู้ซื้อครอบครองที่ ที่ จะซื้อไปก่อนผู้ซื้อไม่ยอมดังนี้ จะถือว่าผู้ขายเป็นฝ่ายผิดนัดไม่ได้
ผู้รับมัดจำขอคืนเงินมัดจำแล้วอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมรับดังนี้ จะฟ้องขอให้ผู้รับมัดจำเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นมาไม่ได้
ผู้รับมัดจำขอคืนเงินมัดจำแล้วอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมรับดังนี้ จะฟ้องขอให้ผู้รับมัดจำเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นมาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 186/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินกับคนต่างด้าว: สิทธิบังคับตามสัญญาขึ้นอยู่กับการได้รับอนุญาต
ทำสัญญาขายที่ดินแก่คนต่างด้าว ผู้ขายเคยยื่นคำร้องต่ออำเภอ ขอโอนที่ให้คนต่างด้าวครั้งหนึ่งแล้ว แต่อำเภอไม่อนุญาต ส่วนตัวคนต่างด้าวผู้ซื้อยังไม่ได้ยื่นคำร้องเอง ดังนี้ ยังไม่เป็นเหตุที่จะถือว่าเป็นการพ้นวิสัย อันจะทำให้สัญญาต้องเลิกกัน หรือหลุดพ้นจากการชำระหนี้ เพราะ พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว 2486 มิได้ห้ามเด็ดขาดให้คนต่างด้าวได้มาซึ่งที่ดิน หากวางเงื่อนไขบางประการให้ต้องขออนุญาตก่อนเท่านั้น
ผู้ซื้อที่ดินซึ่งเป็นคนต่างด้าว ยังมิได้ร้องขออนุญาตต่อทางราชการเพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดิน ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องผู้ขายให้โอนที่แก่ตน
ผู้ซื้อที่ดินซึ่งเป็นคนต่างด้าว ยังมิได้ร้องขออนุญาตต่อทางราชการเพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดิน ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องผู้ขายให้โอนที่แก่ตน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 186/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินกับคนต่างด้าว: สิทธิฟ้องบังคับเมื่อยังมิได้ขออนุญาต
ทำสัญญาขายที่ดินแก่คนต่างด้าว ผู้ขายเคยยื่นคำร้องต่ออำเภอขอโอนที่ให้คนต่างด้าวครั้งหนึ่งแล้วแต่อำเภอไม่อนุญาต ส่วนตัวคนต่างด้าวผู้ซื้อยังไม่ได้ยื่นคำร้องเองดังนี้ยังไม่เป็นเหตุที่จะถือว่าเป็นการพ้นวิสัยอันจะทำให้สัญญาต้องเลิกกัน หรือหลุดพ้นจากการชำระหนี้เพราะพระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว 2486 มิได้ห้ามเด็ดขาดมิให้คนต่างด้าวได้มาซึ่งที่ดิน หากวางเงื่อนไขบางประการให้ต้องขออนุญาตก่อนเท่านั้น
ผู้ซื้อที่ดินซึ่งเป็นคนต่างด้าว ยังมิได้ร้องขออนุญาตต่อทางราชการเพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดิน ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องผู้ขายให้โอนที่แก่ตน
ผู้ซื้อที่ดินซึ่งเป็นคนต่างด้าว ยังมิได้ร้องขออนุญาตต่อทางราชการเพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดิน ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องผู้ขายให้โอนที่แก่ตน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายมีเงื่อนไขไถ่คืน หากไม่ไถ่ตามกำหนด กรรมสิทธิ์จะสิ้นสุดลง
หนังสือสัญญามีข้อความอ่านตามแบบพิมพ์เป็นสัญญากู้เงิน ถ้าอ่านตามตัวเขียนเป็นสัญญาซื้อขาย มีกำหนดให้ไถ่ภายใน 1 ปีดังนี้ คู่ความฝ่ายที่อ้างว่าเป็นสัญญาซื้อขายย่อมมีสิทธินำพยานมาสืบประกอบ เพื่อให้เห็นว่าคู่สัญญามีเจตนาเป็นการขายโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อคืนได้
ขายที่นามือเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญให้เขาโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อคืนได้ภายใน 1 ปี เมื่อมิได้ซื้อคืนตามกำหนด 1 ปี เพิ่งจะมาขอคืนเมื่อเกิน 4 ปีแล้ว ถือว่ามีเจตนาสละการครอบครอง ๆ ย่อมสิ้นสุดลงตาม ป.พ.พ.มาตรา 1377 ไม่มีสิทธิจะขอคืนได้
ขายที่นามือเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญให้เขาโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อคืนได้ภายใน 1 ปี เมื่อมิได้ซื้อคืนตามกำหนด 1 ปี เพิ่งจะมาขอคืนเมื่อเกิน 4 ปีแล้ว ถือว่ามีเจตนาสละการครอบครอง ๆ ย่อมสิ้นสุดลงตาม ป.พ.พ.มาตรา 1377 ไม่มีสิทธิจะขอคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีซื้อขาย, การชำระหนี้, และผลของการละเลยหนี้ตามสัญญา
ทำสัญญาจะขายที่ดินกันแล้ว คู่สัญญาไปขอทำการโอนที่ดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินในเรื่องนี้ตลอดมาไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทำการโอน เหตุที่ทางอำเภอยังไม่โอนให้ ก็เพราะรอฟังคำสั่งกรมที่ดินอยู่เท่านั้น ซึ่งในระหว่างนั้นทางการก็ยังดำเนินการพิจารณาเรื่องราวที่ขอโอนอยู่ ดังนี้ ไม่ถือว่าการโอนหรือการชำระหนี้เป็นพ้นวิสัยอันจะทำให้ผู้ขายหลุดพ้นจากการชำระหนี้ตามมาตรา 219และถือว่าสัญญาจะซื้อขายคงมีผูกพันต่อกันอยู่ ผู้ขายจะถือเอาการที่เจ้าพนักงานยังมิได้ทำสัญญาให้ดังกล่าวแล้ว เป็นเหตุบอกเลิกสัญญาไม่ได้
พฤติการณ์ที่ถือได้ว่าลูกหนี้ละเลยไม่ชำระหนี้ของตน
ทำสัญญาจะขายทรัพย์สินแก่ผู้ซื้อซึ่งร่วมกันหลายคน ถือว่าผู้ซื้อแต่ละคนเป็นเจ้าหนี้ร่วมกันตามมาตรา 298 เจ้าหนี้ร่วมเพียงคนเดียวก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะมอบอำนาจให้ผู้แทนฟ้องลูกหนี้ให้ชำระหนี้ทั้งหมดได้
โจทก์ฟ้องคดีอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากเจ้าหนี้คนหนึ่งให้ฟ้องจำเลยโดยส่งสำเนาใบมอบอำนาจพร้อมกับฟ้อง จำเลยต่อสู้ในเรื่องอำนาจฟ้องเพียงว่าใบมอบอำนาจฟ้องร้องไม่ถูกต้องชอบด้วยกฎหมายในวันชี้สองสถาน จำเลยแถลงว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะเจ้าหนี้ร่วมอีก 2 คน มิได้มอบอำนาจให้โจทก์ฟ้อง มิได้โต้แย้งในเรื่องความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจนั้นแต่ประการใด จนเมื่อศาลสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จสิ้นแล้ว จำเลยจึงยกเป็นข้ออ้างว่าโจทก์ไม่ได้ส่งต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจดังนี้ถือว่าไม่มีประเด็นเกี่ยวกับความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจ และถือได้ว่าจำเลยยอมรับในความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจนั้นแล้ว
พฤติการณ์ที่ถือได้ว่าลูกหนี้ละเลยไม่ชำระหนี้ของตน
ทำสัญญาจะขายทรัพย์สินแก่ผู้ซื้อซึ่งร่วมกันหลายคน ถือว่าผู้ซื้อแต่ละคนเป็นเจ้าหนี้ร่วมกันตามมาตรา 298 เจ้าหนี้ร่วมเพียงคนเดียวก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะมอบอำนาจให้ผู้แทนฟ้องลูกหนี้ให้ชำระหนี้ทั้งหมดได้
โจทก์ฟ้องคดีอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากเจ้าหนี้คนหนึ่งให้ฟ้องจำเลยโดยส่งสำเนาใบมอบอำนาจพร้อมกับฟ้อง จำเลยต่อสู้ในเรื่องอำนาจฟ้องเพียงว่าใบมอบอำนาจฟ้องร้องไม่ถูกต้องชอบด้วยกฎหมายในวันชี้สองสถาน จำเลยแถลงว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะเจ้าหนี้ร่วมอีก 2 คน มิได้มอบอำนาจให้โจทก์ฟ้อง มิได้โต้แย้งในเรื่องความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจนั้นแต่ประการใด จนเมื่อศาลสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จสิ้นแล้ว จำเลยจึงยกเป็นข้ออ้างว่าโจทก์ไม่ได้ส่งต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจดังนี้ถือว่าไม่มีประเด็นเกี่ยวกับความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจ และถือได้ว่าจำเลยยอมรับในความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจนั้นแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมอำพราง: การเปลี่ยนแปลงเจตนาทำสัญญาซื้อขายเป็นจำนอง ย่อมไม่สามารถยกความตั้งใจเดิมมาลบล้างสัญญาใหม่ได้
เดิมโจทก์จำเลยตั้งใจกันทำสัญญาซื้อขายนาพิพาท แต่เมื่อไปถึงกำนันกำนันว่าทำให้ไม่ได้ ทำได้แต่สัญญาจำนำแล้วโจทก์จำเลยก็เปลี่ยนความตั้งใจทำสัญญาจำนำ ดังนี้จำเลยจะยกเอาความตั้งใจเดิมมาลบล้างสัญญาที่โจทก์จำเลยทำโดยความตกลงใหม่นี้ไม่ได้