คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คดีอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,111 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1535/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องคดีอาญาหลังมีคำพิพากษา ศาลไม่อนุญาต เพราะไม่ใช่คดีความผิดต่อส่วนตัว
การถอนฟ้องนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติ ถึงคดีที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์ว่าให้ถอนคดีได้เสมอไป ไม่ว่าผู้เสียหายหรืออัยการเป็นโจทก์ การถอนฟ้องต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 35 ที่ให้ถอนฟ้องได้ก่อนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้น เว้นแต่คดีความผิดต่อส่วนตัวจะถอนฟ้องหรือยอมความในเวลาใดก่อนคดีถึงที่สุดก็ได้ ในกรณีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 มิใช่คดีความผิดต่อส่วนตัว เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้วจึงถอนฟ้องไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1526/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ยกข้อหาเรื่องวัตถุระเบิดได้ แม้โจทก์อุทธรณ์ขอเพิ่มโทษฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
คดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยฐานทำร้ายร่างกายและมีวัตถุระเบิดไว้โดยผิดกฎหมาย แล้วโจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยขว้างวัตถุระเบิด หากเป็นการกระทำของผู้อื่น ศาลอุทธรณ์ก็ย่อมมีอำนาจยกข้อหาเรื่องจำเลยมีวัตถุระเบิดขึ้นวินิจฉัยว่าเป็นความจริงหรือไม่ได้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับบทผิดและขอบเขตการแก้ไขโทษในคดีอาญา: โจทก์มิอาจฎีกาขอเพิ่มโทษหากศาลอุทธรณ์แก้โทษให้ตรงกับบทที่ใช้
ในกรณีปล้นโดยมีอาวุธ แต่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคหนึ่งให้จำคุก 15 ปีนั้นเมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์แม้ศาลอุทธรณ์จะแก้เป็นลงโทษจำคุกเพียง 10 ปี ตามมาตรา 340 วรรคหนึ่งก็เป็นการแก้โทษให้ตรงกับบทเท่านั้นโจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 340 วรรคสองมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิโจทก์ร่วม & การสืบพยาน: แม้พนักงานอัยการไม่อุทธรณ์ โจทก์ร่วมยังมีสิทธิอุทธรณ์และฎีกาได้ ศาลอุทธรณ์สั่งสืบพยานเพิ่มเติมได้
แม้พนักงานอัยการโจทก์มิได้อุทธรณ์. แต่โจทก์ร่วมได้อุทธรณ์และฎีกาต่อมา. ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2(14) อธิบายคำว่า 'โจทก์' ไว้ว่า. หมายความถึงพนักงานอัยการหรือผู้เสียหายซึ่งฟ้องคดีอาญาต่อศาล หรือทั้งคู่ในเมื่อพนักงานอัยการและผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมกัน. ดังนั้น โจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการต่างจึงมีฐานะเป็นโจทก์ด้วยกัน. เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ซึ่งศาลชั้นต้นสั่งงดไม่สืบต่อไปให้เสร็จ. พนักงานอัยการโจทก์จึงมีสิทธินำสืบต่อไปได้. ศาลอุทธรณ์จึงฟังพยานที่นำสืบต่อไปนั้นวินิจฉัยคดีได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828-830/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษคดีอาญาหลายกระทงที่รวมพิจารณา ศาลจำกัดโทษรวมตามกฎหมาย
แม้โจทก์จะแยกฟ้องจำเลยเป็น 3 สำนวน โดยขอให้นับโทษจำเลยทุกสำนวนต่อกันก็ตาม แต่เมื่อศาลได้รวมพิจารณาคดีทั้ง 3 สำนวนเข้าด้วยกัน และปรากฏว่าจำเลยได้กระทำการอันเป็นความผิดทั้ง 3 สำนวน ก็ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ซึ่งศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามรายสำนวนได้ แต่ทั้งนี้โทษจำคุกทั้งสิ้นของจำเลยในคำพิพากษาฉบับเดียวกันนี้จะต้องไม่เกิน 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 17/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828-830/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรวมสำนวนคดีอาญาและการลงโทษจำเลยหลายกรรมต่างกัน โดยจำกัดโทษรวมตามกฎหมาย
แม้โจทก์จะแยกฟ้องจำเลยเป็น 3 สำนวนโดยขอให้นับโทษจำเลยทุกสำนวนต่อกันก็ตามแต่เมื่อศาลได้รวมพิจารณาคดีทั้ง 3 สำนวนเข้าด้วยกัน และปรากฏว่าจำเลยได้กระทำการอันเป็นความผิดทั้ง 3 สำนวน ก็ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดหลายกรรมต่างกันซึ่งศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามรายสำนวนได้แต่ทั้งนี้โทษจำคุกทั้งสิ้นของจำเลยในคำพิพากษาฉบับเดียวกันนี้จะต้องไม่เกิน 20 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 17/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828-830/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รวมสำนวนคดีอาญา การลงโทษจำเลยหลายกรรม และข้อจำกัดโทษจำคุกรวมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
แม้โจทก์จะแยกฟ้องจำเลยเป็น 3 สำนวน. โดยขอให้นับโทษจำเลยทุกสำนวนต่อกันก็ตาม. แต่เมื่อศาลได้รวมพิจารณาคดีทั้ง 3 สำนวนเข้าด้วยกัน และปรากฏว่าจำเลยได้กระทำการอันเป็นความผิดทั้ง 3 สำนวน ก็ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน. ซึ่งศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามรายสำนวนได้แต่ทั้งนี้โทษจำคุกทั้งสิ้นของจำเลยในคำพิพากษาฉบับเดียวกันนี้จะต้องไม่เกิน20 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91.(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 17/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มเติมฟ้องคดีอาญาภายหลังสืบพยาน: ข้อจำกัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120
โจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บตามมาตรา295 ในชั้นพิจารณาปรากฏว่าบาดแผลผู้เสียหายถึงอันตรายสาหัสจึงขอเพิ่มเติมฟ้องในข้อหาทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสตามมาตรา297 เช่นนี้ หาใช่เป็นแต่การแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องโดยแก้หรือเพิ่มเติมฐานความผิด คือ บทมาตราในกฎหมายที่บัญญัติความผิดหรือรายละเอียดซึ่งต้องกล่าวไว้ในฟ้องเท่านั้นไม่จึงมิต้องด้วยบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 164 แต่อย่างไรก็ดี เมื่อข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาการสาหัสของบาดแผลนี้เพิ่งมาปรากฏในชั้นพิจารณาของศาลมิได้ปรากฏมาแต่ในชั้นสอบสวน โจทก์จึงฟ้องคดีในความผิดที่ยังไม่มีการสอบสวนไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120 (อ้างฎีกาที่750/2494)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มเติมฟ้องคดีอาญา: ข้อจำกัดการเพิ่มข้อหาใหม่ในชั้นพิจารณาเมื่อยังมิได้มีการสอบสวน
โจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บตามมาตรา295 ในชั้นพิจารณาปรากฏว่าบาดแผลผู้เสียหายถึงอันตรายสาหัสจึงขอเพิ่มเติมฟ้องในข้อหาทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสตามมาตรา297 เช่นนี้ หาใช่เป็นแต่การแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องโดยแก้หรือเพิ่มเติมฐานความผิด คือบทมาตราในกฎหมายที่บัญญัติความผิดหรือรายละเอียดซึ่งต้องกล่าวไว้ในฟ้องเท่านั้นไม่จึงมิต้องด้วยบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 164 แต่อย่างไรก็ดี เมื่อข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาการสาหัสของบาดแผลนี้เพิ่งมาปรากฏในชั้นพิจารณาของศาลมิได้ปรากฏมาแต่ในชั้นสอบสวน โจทก์จึงฟ้องคดีในความผิดที่ยังไม่มีการสอบสวนไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120(อ้างฎีกาที่750/2494)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มเติมฟ้องคดีอาญา: ข้อจำกัดเมื่อข้อเท็จจริงใหม่เพิ่งปรากฏในชั้นพิจารณา และผลกระทบต่อสิทธิจำเลย
โจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บตามมาตรา295 ในชั้นพิจารณาปรากฏว่าบาดแผลผู้เสียหายถึงอันตรายสาหัสจึงขอเพิ่มเติมฟ้องในข้อหาทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสตามมาตรา297 เช่นนี้ หาใช่เป็นแต่การแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องโดยแก้หรือเพิ่มเติมฐานความผิด คือ บทมาตราในกฎหมายที่บัญญัติความผิดหรือรายละเอียดซึ่งต้องกล่าวไว้ในฟ้องเท่านั้นไม่จึงมิต้องด้วยบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 164 แต่อย่างไรก็ดี เมื่อข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาการสาหัสของบาดแผลนี้เพิ่งมาปรากฏในชั้นพิจารณาของศาลมิได้ปรากฏมาแต่ในชั้นสอบสวน โจทก์จึงฟ้องคดีในความผิดที่ยังไม่มีการสอบสวนไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120(อ้างฎีกาที่750/2494)
of 312