คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข่มขู่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 329 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 459/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขู่ฆ่าแต่ผู้ถูกขู่ไม่เกรงกลัวและไม่ทำตามคำขู่ ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 309
ขู่ว่าถ้าขืนทำรั้วจะฆ่าให้ตาย ผู้ถูกขู่ไม่กลัวแต่ไม่ทำรั้วเพราะผู้ใหญ่บ้านร้องขอ ดังนี้ ขาดองค์ประกอบไม่เป็นความผิดตาม มาตรา 309

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2399/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์ที่ขาดตอน การถืออาวุธข่มขู่หลังพาทรัพย์ไปแล้ว ไม่ถึงแก่ความผิดฐานชิงทรัพย์
จำเลยลักไก่ 4 ตัวไปจากบ้านผู้เสียหาย ผู้เสียหายชวนเพื่อนบ้านออกติดตามไป 1 ชั่วโมงเศษ ถึงกระท่อมนาซึ่งอยู่ห่างบ้านผู้เสียหายประมาณ 100 เส้น คนละหมู่บ้านกัน พบเข่งไก่กับไก่ 4 ตัวอยู่ในกระท่อม จำเลยนั่งอยู่ใกล้เข่งไก่ ผู้เสียหายเข้าไปถามจำเลย จำเลยลุกขึ้นยืนถือเหล็กแหลมจ้องมาทางผู้เสียหายกับพวก ผู้เสียหายกับพวกจึงช่วยกันจับจำเลยไว้ ดังนี้ เมื่อจำเลยถือเหล็กแหลมจ้องขู่ผู้เสียหายนั้น การลักทรัพย์ของจำเลยขาดตอนไปแล้ว ไม่ใช่อยู่ในระหว่างพาทรัพย์ไป การขู่จะทำร้ายเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นภายหลัง มิได้ต่อเนื่องในการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ จึงไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2321/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันที่ถูกข่มขู่ & ดอกเบี้ยเกินอัตรา สัญญาไม่สมบูรณ์ ศาลคิดดอกเบี้ยตามกฎหมาย
ทำสัญญากู้ใหม่รวมดอกเบี้ยที่ค้างมาก่อนรวมเข้าด้วยเป็นดอกเบี้ยเกินอัตรา สัญญากู้นี้เป็นโมฆะเฉพาะดอกเบี้ยศาลให้เสียดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่ง ต่อปีในต้นเงินตั้งแต่วันฟ้อง
ขู่ให้ทำสัญญาค้ำประกันโดยกล่าวว่า ถ้าไม่ทำจะฟ้องริบทรัพย์สมบัติให้หมด เป็นการบอกว่าจะใช้สิทธิตามกฎหมาย ไม่ทำให้สัญญา ไม่สมบูรณ์
คำให้การว่าจำเลยลงชื่อในสัญญากู้โดยไม่ทราบจำนวนเงินที่โจทก์กรอกลงเกินจำนวน 5,000 บาท ที่ค้างจริง เป็นการต่อสู้ว่าการกู้และค้ำประกันไม่สมบูรณ์ แม้ในสัญญากู้ระบุว่ารับเงินไป 13,500 บาทจำเลยก็นำสืบหักล้างเอกสารได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2213-2214/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำร่วมกันเพื่อเอาทรัพย์ผู้อื่นไปโดยไม่ยินยอม และข่มขู่คุกคามเพื่อป้องกันการทวงคืน ถือเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์
จำเลยที่ 1 หยิบแว่นตาจากกระเป๋าเสื้อผู้เสียหายขณะนั่งอยู่ในร้านขายอาหารไปใส่ส่องกระจกดู แล้วจำเลยทั้งสามเดินออกจากร้านไป ไม่คืนแว่นตา เมื่อผู้เสียหายไปขอคืน จำเลยที่ 1 ไม่คืนให้ กลับให้จำเลยที่ 2 เอาแว่นตาไป ผู้เสียหายขอคืนจากจำเลยที่ 2 ๆ ไม่ให้ จำเลยที่ 3 คว้าเอาไปอีกต่อหนึ่งต่อหน้าผู้เสียหาย แล้วพากันขึ้นรถประจำทางไป ผู้เสียหายตามไปทวงคืนอีก จำเลยที่ 2 ที่ 3 พูดว่า อย่าตามมานะ ถ้าตามจะเจ็บตัว ต่อมาในวันเกิดเหตุนั้นเอง จำเลยที่ 3 เอาแว่นตาไปจำนำ ดังนี้ จำเลยทั้งสามต้องมีความผิดฐานปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1971/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกโดยการข่มขู่และร้องด่า: การกระทำเข้าข่มขู่เพื่อให้เปิดหน้าต่าง ถือเป็นบุกรุก
ผู้เสียหายกับจำเลยเป็นญาติเคยไปมาหาสู่กัน จำเลยไปร้องด่าว่าผู้เสียหายที่ถนน แล้วขึ้นบันไดไปร้องด่าผู้เสียหาย ขู่เข็ญให้เปิดหน้าต่างบ้านนั้น จำเลยมีความผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 365

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขู่เข็ญด้วยการทำลายทรัพย์สินและการข่มขู่ทางวาจาเข้าข่ายความผิดฐานปล้นทรัพย์
การขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์ อันจะเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์นั้น อาจขู่ตรงๆ ก็ได้หรือใช้ถ้อยคำทำกิริยา หรือทำประการใด อันเป็นการแสดงให้ผู้ถูกขู่เข็ญเข้าใจได้ว่าจะได้รับภัยจากการกระทำของผู้ขู่เข็ญก็ได้
จำเลยกับพวกอีก 3 คนซึ่งไม่ปรากฏว่าเป็นคนที่คุ้นเคยรักชอบพอกับผู้เสียหายพอที่จะขอเงินกันได้ มาเตะรั้วสังกะสีและระเบียงเรือนของผู้เสียหาย ผู้เสียหายออกมาดู จำเลยขอเงิน12 บาท ผู้เสียหายว่าไม่มี จำเลยกับพวกช่วยกันเตะรั้วและระเบียงเรือนจนสังกะสีรั้วหลุดออก 3 แผ่น และไม้ระแนงระเบียงเรือนหลุดหลายอันถือได้ว่าเป็นการขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย ผู้เสียหายกลัวรั้วจะพังและกลัวจะถูกทำร้าย จึงต้องยอมให้เงินแก่จำเลยไป10 บาท จำเลยรับเงินแล้งยังพูดขู่เข็ญอีกว่า'ทีหลังถ้ากูมาอยากได้อะไร ให้ตามใจกูนะ' ซึ่งเข้าใจได้ว่าถ้าไม่ให้จะต้องถูกทำร้ายการกระทำของจำเลยครบองค์ความผิดฐานปล้นทรัพย์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขู่เข็ญโดยการทำลายทรัพย์สินและการข่มขู่ด้วยคำพูด ถือเป็นองค์ประกอบความผิดฐานปล้นทรัพย์ได้
การขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์ อันจะเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์นั้นอาจขู่ตรงๆ ก็ได้ หรือใช้ถ้อยคำทำกิริยาหรือทำประการใดอันเป็นการแสดงให้ผู้ถูกขู่เข็ญเข้าใจได้ว่าจะได้รับภัยจากการกระทำของผู้ขู่เข็ญก็ได้
จำเลยกับพวกอีก 3 คนซึ่งไม่ปรากฏว่าเป็นคนที่คุ้นเคยรักชอบพอกับผู้เสียหายพอที่จะขอเงินกันได้ มาเตะรั้วสังกะสีและระเบียงเรือนของผู้เสียหาย ผู้เสียหายออกมาดู จำเลยขอเงิน 12 บาท ผู้เสียหายว่าไม่มี จำเลยกับพวกช่วยกันเตะรั้วและระเบียงเรือนจนสังกะสีรั้วหลุดออก 3 แผ่น และไม้ระแนงระเบียงเรือนหลุดหลายอันถือได้ว่าเป็นการขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย ผู้เสียหายกลัวรั้วจะพังและกลัวจะถูกทำร้าย จึงต้องยอมให้เงินแก่จำเลยไป 10 บาท จำเลยรับเงินแล้งยังพูดขู่เข็ญอีกว่า 'ทีหลังถ้ากูมาอยากได้อะไร ให้ตามใจกูนะ' ซึ่งเข้าใจได้ว่าถ้าไม่ให้จะต้องถูกทำร้าย การกระทำของจำเลยครบองค์ความผิดฐานปล้นทรัพย์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 337/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขู่ด้วยอาวุธปืน (ของเล่น) ทำให้ผู้อื่นกลัว ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392
จำเลยถือปืนพลาสติกมาขู่เข็ญทำท่าจะยิงผู้เสียหายผู้เสียหายเข้าใจว่าเป็นปืนจริงเกิดความกลัวหรือตกใจ จำเลยต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 337/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขู่ด้วยปืนปลอมทำให้ผู้อื่นกลัวเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392
จำเลยถือปืนพลาสติกมาขู่เข็ญทำท่าจะยิงผู้เสียหายผู้เสียหายเข้าใจว่าเป็นปืนจริงเกิดความกลัวหรือตกใจ จำเลยต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่นเจ้าพนักงาน: ถ้อยคำข่มขู่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
ถ้อยคำว่า "อ้ายจ่า ถ้ามึงจับกู กูจะเอามึงออก" ซึ่งจำเลยกล่าวต่อจ่าสิบตำรวจในขณะที่จะเข้าจับกุมจำเลยในข้อหาฐานบุกรุกอันเป็นการปฏิบัติการตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมายเป็นถ้อยคำที่กล่าวสบประมาท เหยียดหยาม และข่มขู่เจ้าพนักงานตำรวจผู้นั้น มิให้จับกุมจำเลย อันเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่แล้ว และมิใช่เป็นเพียงการประท้วงการกระทำของเจ้าพนักงาน
of 33