คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค่าสินไหมทดแทน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 351 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2217/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าสินไหมทดแทนการขาดไร้อุปการะจากละเมิด ผู้ตายมีฐานะยากดีมีจนอย่างไรไม่สำคัญ
จำเลยเป็นฝ่ายทำละเมิดทำให้สามีโจทก์และบิดาโจทก์ถึงแก่ความตาย เมื่อสามีตายภริยาย่อมขาดไร้อุปการะจากสามีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1461 และเมื่อบิดาตายบุตรผู้เยาว์ก็ย่อมขาดไร้อุปการะจากบิดาตามมาตรา 1564โจทก์ในคดีนี้ซึ่งเป็นภริยาและบุตรผู้เยาว์ของผู้ตายจึงย่อมมีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการขาดไร้อุปการะนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 วรรคสามโดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าผู้ตายจะมีฐานะยากดีมีจนอย่างไรเพราะเป็นสิทธิที่ผู้เสียหายจะพึงได้รับชดใช้ตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1725/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากประกันภัยไปยังบุคคลภายนอกทำให้ผู้เอาประกันภัยหมดสิทธิเรียกร้อง
กรมธรรม์ประกันภัยมีใบสลักหลังว่า "การเอาประกันนี้ได้เป็นที่ยอมรับกันทั้งสองฝ่ายว่าหากเกิดการเสียหายแก่ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยและบริษัทจำต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้วไซร้ผู้เอาประกันภัยยินยอมโอนสิทธิอันพึงได้รับจากการเอาประกันนี้ให้แก่ธนาคารกรุงไทย จำกัดสาขาคลองเตย เป็นผู้รับประโยชน์แต่ฝ่ายเดียวเป็นสัญญาที่โจทก์จำเลยตกลงจะชำระหนี้แก่ บุคคลภายนอก เมื่อบุคคลภายนอกซึ่งเป็นผู้รับประโยชน์เรียกร้องให้ผู้รับประกันภัยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้ว อันเป็นกรณีที่ผู้รับประโยชน์แสดงเจตนาที่จะถือเอาประโยชน์แห่งสัญญาแล้วโจทก์ผู้เอาประกันภัยจะเรียกให้จำเลยผู้รับประกันภัยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1492/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนจากประกันภัย แม้ยังไม่ได้จ่ายให้ผู้เสียหาย: ไม่ใช่การรับช่วงสิทธิ
ผู้เอาประกันภัยฟ้องให้ผู้รับประกันภัยรับผิดตามสัญญาประกันภัยค้ำจุนได้ แม้ว่าผู้เอาประกันภัยยังไม่ได้ชำระค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการละเมิดของลูกจ้างผู้เอาประกันภัยเพราะกรณีนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องรับช่วงสิทธิ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับในสัญญาเช่าซื้อ: การกำหนดค่าสินไหมทดแทนล่วงหน้าและการลดเบี้ยปรับสูงเกินส่วน
คำว่า 'เบี้ยปรับ' ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา383 หมายถึงค่าสินไหมทดแทนที่คู่สัญญาได้ตกลงกำหนดกันไว้ล่วงหน้าการที่โจทก์จำเลยได้ทำความตกลงกันไว้ในหนังสือสัญญาเช่าซื้อถึงวิธีการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จึงถือได้ว่าเป็นข้อสัญญาที่มีลักษณะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับเมื่อศาลเห็นว่าเบี้ยปรับนั้นสูงเกินส่วน ก็ย่อมมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1763-1764/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ค่าสินไหมทดแทนประกันภัยต่อบุคคลภายนอก และการรับผิดของผู้รับประกันภัยต่อค่าเสียหายจากการขาดความสามารถประกอบการงาน
ข้อความตามกรมธรรม์ประกันภัยเกี่ยวกับความรับผิดต่อบุคคลภายนอกที่ว่า ผู้รับประกันภัยจะใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของผู้เอาประกันภัยซึ่งผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดตามกฎหมายเมื่อความบาดเจ็บหรือมรณะของบุคคลภายนอกเนื่องจากอุบัติเหตุอันเกิดจากการใช้รถยนต์ในระหว่างระยะเวลาประกันภัยนั้นมีความหมายว่า ในกรณีที่บุคคลภายนอกได้รับบาดเจ็บหรือถึงแก่ความตายผู้เอาประกันภัยจำต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกตามกฎหมายในค่าเสียหายอย่างไรแล้วผู้รับประกันภัยจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บุคคลภายนอกในนามของผู้เอาประกันภัยดังนั้นเมื่อบุคคลภายนอกซึ่งได้รับบาดเจ็บชอบที่จะเรียกร้องให้ผู้เอาประกันภัยใช้ค่าเสียหายเพื่อการที่เสียความสามารถประกอบการงานได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 444 ผู้รับประกันภัยก็ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนในส่วนนี้ด้วย
โจทก์อ้างสำนวนการสอบสวนและเรียกสำนวนการสอบสวนนั้นมาเป็นพยานโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วแต่พนักงานอัยการส่งสำนวนการสอบสวนมาหลังจากโจทก์จำเลยสืบพยานเสร็จแล้วหากจำเลยเห็นว่าสำนวนการสอบสวนนั้นไม่ถูกต้องทำให้จำเลยเสียเปรียบจำเลยก็ชอบที่จะอ้างพยานหลักฐานเพิ่มเติมตามสิทธิที่มีอยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มิได้ห้ามรับฟังพยานเอกสารที่มิได้มีการนำสืบพยานบุคคลประกอบศาลย่อมมีอำนาจรับฟังและใช้ดุลพินิจวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยานเอกสารดังกล่าวประกอบพยานหลักฐานอื่นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิบัติตามคำพิพากษา: จำเลยต้องไถ่ถอนจำนองก่อนชำระค่าสินไหมทดแทน
ตามคำพิพากษาอันดับแรกที่ให้จำเลยไถ่ถอนจำนองที่ดินพิพาทโอนให้แก่โจทก์โดยรับเงินจากโจทก์นั้นไม่ปรากฏว่าเพราะเหตุใดจำเลยจึงไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาในอันดับแรกนี้เสียก่อน จำเลยกลับรีบนำเงินค่าสินไหมทดแทนพร้อมดอกเบี้ยตามคำพิพากษาอันดับหลัง มาวางต่อศาล ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ใกล้เคียงกับจำนวนเงินที่จำเลย จำนองไว้กับธนาคารในระหว่างที่ศาลชั้นต้นยังมิได้ออกคำบังคับแสดงว่าจำเลยสามารถปฏิบัติตามคำพิพากษาอันดับแรกได้และก็ไม่ปรากฏว่าธนาคารผู้รับจำนองมีเหตุขัดข้องไม่ยอมให้จำเลยไถ่ถอนการจำนองแต่ประการใด การกระทำของจำเลยจึงชวนให้สงสัยว่าน่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงเพื่อจะไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนของคำพิพากษาตั้งแต่อันดับแรกเป็นต้นไปตามลำดับ จำเลยจึงไม่มีสิทธิ เลือกปฏิบัติชำระเงินค่าสินไหมทดแทนพร้อมดอกเบี้ยตามคำพิพากษา อันดับหลัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1227/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประกันภัยรถยนต์: การรับช่วงสิทธิหลังสัญญาประนีประนอมยอมความไม่เป็นผล
เมื่อรถชนกันแล้ว เจ้าของรถบรรทุกซึ่งโจทก์รับประกันภัยไว้ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลย แต่เมื่อจำเลยยังมิได้ปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว ความผูกพันตามสัญญาประกันภัยซึ่งโจทก์จะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เจ้าของรถบรรทุกย่อมจะยังไม่ระงับไป เมื่อโจทก์จ่ายค่าซ่อมรถไปแล้วย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยได้ตามจำนวนเงินที่โจทก์ได้จ่ายไปจริงและไม่เกินจำนวนที่เจ้าของรถบรรทุกมีสิทธิเรียกร้องเอาแก่จำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไล่เบี้ยค่าฤชาธรรมเนียม: ค่าฤชาธรรมเนียมไม่ใช่ค่าสินไหมทดแทนโดยตรงจากการละเมิด จึงไม่อาจเรียกร้องได้ตามมาตรา 426
ในคดีที่โจทก์ถูกบิดาของผู้ตายฟ้องให้รับผิดร่วมกับจำเลยในผลแห่งละเมิดซึ่งจำเลยกระทำไปในทางการที่จ้าง และโจทก์ผู้ซึ่งเป็นนายจ้างต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนพร้อมด้วยดอกเบี้ยและใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทน ให้บิดาของผู้ตายไปแล้ว ค่าฤชาธรรมเนียมซึ่งศาลสั่งให้ใช้แทนนั้น เนื่องจากโจทก์ต่อสู้คดีและเป็นฝ่ายแพ้คดี ไม่ใช่ค่าสินไหมทดแทนอันเป็นผลโดยตรงจากการกระทำละเมิด จึงไล่เบี้ยให้จำเลยชดใช้ให้แก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 426 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 648/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไล่เบี้ยค่าฤชาธรรมเนียม: ค่าฤชาธรรมเนียมไม่ใช่ค่าสินไหมทดแทนโดยตรงจากการละเมิด
ในคดีที่โจทก์ถูกบิดาของผู้ตายฟ้องให้รับผิดร่วมกับจำเลยในผลแห่งละเมิดซึ่งจำเลยกระทำไปในทางการที่จ้างและโจทก์ผู้ซึ่งเป็นนายจ้างต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนพร้อมด้วยดอกเบี้ยและใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนให้บิดาของผู้ตายไปแล้วค่าฤชาธรรมเนียมซึ่งศาลสั่งให้ใช้แทนเนื่องจากโจทก์ต่อสู้คดีและเป็นฝ่ายแพ้คดีนั้น ไม่ใช่ค่าสินไหมทดแทนอันเป็นผลโดยตรงจากการกระทำละเมิด จึงไล่เบี้ยให้จำเลยชดใช้ให้แก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 426 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2364/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องบริษัทประกันภัยหลังเกิดอุบัติเหตุ แม้มีการฟ้องผู้ทำละเมิดไปแล้ว และประเด็นเรื่องอายุความของค่าสินไหมทดแทน
โจทก์ได้รับความเสียหายจากรถยนต์ของ ส. ชนโดยประมาทส. ได้เอาประกันภัยรถยนต์คันเกิดเหตุกับบริษัทจำเลยเพื่อให้รับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก เช่นนี้ แม้โจทก์จะได้ฟ้องผู้เอาประกันภัยไว้อีกคดีหนึ่งและคดีนั้นยังไม่ถึงที่สุดโจทก์ก็ชอบที่จะยื่นฟ้องจำเลยให้รับผิดในฐานะผู้รับประกันภัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 887ว่าด้วยประกันภัยค้ำจุนได้ ความรับผิดของจำเลยเกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัยและมีลักษณะเป็นการประกันวินาศภัยตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะ 20 หมวด 2 การฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนความเสียหายจึงต้องถืออายุความ 2 ปีนับแต่วันเกิดวินาศภัยตามมาตรา 882 วรรคแรก โจทก์ได้รับความเสียหายเพราะเกิดวินาศภัยรถยนต์ชนกันเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2517 และได้ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2519 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
of 36