พบผลลัพธ์ทั้งหมด 467 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: การพิจารณาจากพฤติการณ์และแรงจูงใจ
จำเลยกับผู้ตายมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อนเกิดเหตุประมาณ 3 ปี โดยต่างฝ่ายต่างกล่าวหากันว่าอีกฝ่ายลอบยิงบิดาของแต่ละฝ่าย แต่ก็เป็นเวลาล่วงเลยมานานแล้ว เมื่อไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าจำเลยได้วางแผนตระเตรียมการหรือหาโอกาสฆ่าผู้ตาย มาก่อน กรณีอาจเป็นได้ว่าในเวลาเกิดเหตุจำเลยพบผู้ตายแล้วเกิดความเคียดแค้นขึ้นในขณะนั้นจึงได้ยิงผู้ตายยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1086/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จิตบกพร่องกับการลดโทษอาญา: กรณีฆ่าและวางเพลิงโดยไม่มีสาเหตุ
การที่จำเลยฆ่าพี่ชายและหลานสาวของจำเลย กับทุบตู้กระจกแล้วจุดไฟเผาเสื้อผ้าและเผาบ้านของผู้เสียหายหลายราย โดยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อนนั้น เป็นการกระทำโดยจำเลยมีจิตบกพร่องหรือฟั่นเฟือน แต่การที่จำเลยไม่ทำร้ายบิดาทั้งๆ ที่บิดาเข้ากอดปล้ำจำเลยและใช้พลั่วกันจำเลยไม่ให้ทำร้ายพี่ชายก็ดี การที่จำเลยโบกมือไล่ ไม่ให้เข้าไปช่วยดับไฟที่บ้านผู้เสียหายก็ดีหรือการที่จำเลยจุดไฟเผาบ้านผู้เสียหายคนหนึ่งแล้วเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในไร่อ้อย และยอมออกมามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งยอมรับสารภาพการกระทำของตนก็ดีพฤติการณ์ดังกล่าวของจำเลยแสดงว่าจำเลยยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้างหรือยังบังคับตัวเองได้บ้างกรณีต้องตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา65 วรรคสอง ศาลจะลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากความหึงหวงและแผนการกำจัดคู่แข่ง ชี้พฤติการณ์ร้ายแรง ยืนโทษประหาร
จำเลยและผู้ตายต่างเป็นภริยาของส. วันเกิดเหตุจำเลยนำปืนติดตัวตั้งใจไปพบผู้ตายที่บ้านของผู้ตายเมื่อพบผู้ตายจำเลยยื่นหนังสือที่ส. เขียนให้จำเลยซึ่งมีข้อความว่าส. จะหย่าร้างกับผู้ตายให้ผู้ตายอ่านแล้วจำเลยหยิบปืนที่ตระเตรียมมาจ้องยิงผู้ตายทันที2นัดติดๆกันพฤติการณ์ดังกล่าวย่อมแสดงชัดว่าจำเลยโกรธผู้ตายด้วยอารมณ์หึงหวงแล้วจำเลยดำเนินการตามแผนการณ์เป็นลำดับมาด้วยความมุ่งหมายที่จะได้ส. มาเป็นสามีแต่ผู้เดียวการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 738/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำบอกเล่าผู้ใกล้ตายเป็นพยานประกอบได้ - คดีฆ่าโดยเจตนา
ถ้อยคำผู้ตายที่บอกแก่พยานโจทก์ว่าจำเลยเป็นคนยิงและพูดขอฝากฝังบุตรภรรยาของจำเลยให้พยานช่วยดูแลเพราะจะไม่รอดชีวิตเป็นคำบอกเล่าของบุคคลผู้ใกล้จะตายและรู้ตัวว่ากำลังจะตายรับฟังเป็นพยานประกอบพยานอื่นของโจทก์ลงโทษจำเลยได้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้สนับสนุนการฆ่า: การส่งกระสุนให้ผู้ก่อเหตุถือเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการกระทำผิด
ฟ้องว่าจำเลยกับพวกร่วมกันฆ่าผู้อื่น ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายท้าทายให้จำเลยกับพวกขึ้นไปต่อสู้กันบนฝั่งแม่น้ำ พวกของจำเลยถือปืนยาวขึ้นไปบนฝั่งแต่ปรากฏว่าไม่มีกระสุนปืน พวกของจำเลยร้องตะโกนให้จำเลยหยิบกระสุนปืนไปให้ซึ่งจำเลยก็ทำตาม ต่อมาพวกของจำเลยทะเลาะกับผู้ตายและใช้อาวุธปืนนั้นยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเข้าลักษณะเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่พวกของจำเลยในการกระทำผิด ใช้อาวุธปืนยิงฆ่าผู้ตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดครั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 86
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สนับสนุนการฆ่าผู้อื่น: การส่งกระสุนปืนเข้าข่ายช่วยเหลือการกระทำผิด
ฟ้องว่าจำเลยกับพวกร่วมกันฆ่าผู้อื่นข้อเท็จจริงฟังได้ว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายท้าทายให้จำเลยกับพวกขึ้นไปต่อสู้กันบนฝั่งแม่น้ำพวกของจำเลยถือปืนยาวขึ้นไปบนฝั่งแต่ปรากฏว่าไม่มีกระสุนปืนพวกของจำเลยร้องตะโกนให้จำเลยหยิบกระสุนปืนไปให้ซึ่งจำเลยก็ทำตามต่อมาพวกของจำเลยทะเลาะกับผู้ตายและใช้อาวุธปืนนั้นยิงผู้ตายถึงแก่ความตายการกระทำของจำเลยเข้าลักษณะเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่พวกของจำเลยในการกระทำผิดใช้อาวุธปืนยิงฆ่าผู้ตายจำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดครั้งนี้ตามป.อ.มาตรา288,86.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สนับสนุนการฆ่าผู้อื่น: การส่งกระสุนปืนเข้าข่ายช่วยเหลือการกระทำผิด
ฟ้องว่าจำเลยกับพวกร่วมกันฆ่าผู้อื่นข้อเท็จจริงฟังได้ว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายท้าทายให้จำเลยกับพวกขึ้นไปต่อสู้กันบนฝั่งแม่น้ำพวกของจำเลยถือปืนยาวขึ้นไปบนฝั่งแต่ปรากฏว่าไม่มีกระสุนปืนพวกของจำเลยร้องตะโกนให้จำเลยหยิบกระสุนปืนไปให้ซึ่งจำเลยก็ทำตามต่อมาพวกของจำเลยทะเลาะกับผู้ตายและใช้อาวุธปืนนั้นยิงผู้ตายถึงแก่ความตายการกระทำของจำเลยเข้าลักษณะเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่พวกของจำเลยในการกระทำผิดใช้อาวุธปืนยิงฆ่าผู้ตายจำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดครั้งนี้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา288,86.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4471/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือในการฆ่า, เจตนาฆ่า, การลดโทษ, และการคืนทรัพย์สิน
จำเลยทั้งสามซ้อนรถจักรยานยนต์มาด้วยกัน แล้วจำเลยที่ 1พาผู้ตายไปส่งบ้าน โดยผู้ตายนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันที่จำเลยที่ 3 ขับส่วนจำเลยที่ 1 นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันที่จำเลยที่ 2 ขับ ระหว่างทางก็หยุดรถทั้ง 2 คันจำเลยที่ 1 ปัสสาวะเสร็จแล้ว เดินเข้าไปหาผู้ตายพูดถึงเรื่องที่ผู้ตายพาน้องสาวของจำเลยที่ 1 ไปแล้วจำเลยที่ 1 ชักปืนยิงผู้ตาย 1 นัด ผู้ตายวิ่งหนีไปกลางทุ่งนา จำเลยที่ 1 วิ่งไล่ตามไปยิง อีก 1 นัด กระสุนปืนถูกที่ศีรษะถึงแก่ความตายทันที จำเลยวิ่งกลับมาขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์จำเลยที่ 2 ที่จอดคอยอยู่ เมื่อก่อนจำเลยที่ 1 ยิง จำเลยที่ 2 ที่ 3ได้ร้องห้าม ดังนี้ ไม่พอฟังว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ฆ่าผู้ตาย ทั้งปืนที่ใช้ยิง จำเลยที่ 1 ก็พกมาตั้งแต่ออกจากบ้าน จำเลยที่ 2 ที่ 3 จึงมิได้ร่วมกับ จำเลยที่ 1 มีอาวุธปืน กระสุนปืนที่จำเลยที่ 1 พกพาติดตัวไป เหตุที่จำเลยที่ 1 ฆ่าผู้ตาย เกิดจากการโต้เถียง กันเรื่องผู้ตายพาน้องสาวจำเลยที่ 1 ไป จำเลยที่ 1 ยิงผู้ตายทันทีขณะโต้เถียงกัน และยังไล่ตามยิงขณะผู้ตายวิ่งหนีก็เพียงเพื่อให้ผู้ตายสมเจตนาเท่านั้น ยังไม่พอฟังว่าจำเลยที่ 1 ฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน รถจักรยานยนต์ที่จำเลยที่ 2 ที่ 3 ขับขี่ไปในขณะเกิดเหตุเมื่อมิได้ร่วมนำไปใช้ในการกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1ต้องคืนให้เจ้าของไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2158-2160/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการทำร้ายร่างกาย vs. เจตนาฆ่า: ศาลพิจารณาจากพฤติการณ์และผลการกระทำ
จำเลยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับโจทก์ที่2ที่3ขณะที่โจทก์ที่2ที่3ไปจับกุมจำเลยจำเลยยิงโจทก์ที่3ถูกที่ต้นคอในขณะที่มีการยื้อแย่งปืนกันโดยจำเลยมิได้มีโอกาสเลือกยิงเมื่อจำเลยยิงโจทก์ที่3ล้มลงแล้วโจทก์ที่3ไม่อยู่ในฐานะที่จะต่อสู้กับจำเลยจำเลยมีโอกาสจะยิงโจทก์ที่3อีกเป็นเวลานานแต่จำเลยก็หาได้ยิงโจทก์ที่3ไม่จึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าโจทก์ที่3ส่วนที่จำเลยยิงโจทก์ที่2ปรากฏว่าขณะยิงจำเลยอยู่ใกล้กับโจทก์ที่2และมีโอกาสจะเลือกยิงโจทก์ที่2ตรงไหนก็ได้แต่จำเลยกลับยิงที่ขาของโจทก์ที่2แสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าโจทก์ที่2เพราะหากจำเลยมีเจตนาฆ่าโจทก์ที่2จำเลยคงยิงที่อวัยวะสำคัญกว่านี้. ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา288,289,80เมื่อทางพิจารณาปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายโจทก์ที่2ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา296และโจทก์ที่3ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา298ศาลลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา296และ298ได้. ฟ้องว่าโจทก์ที่2ได้รับอันตรายสาหัสต้องป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า20วันหรือประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า20วันแต่โจทก์มิได้นำสืบให้ปรากฎว่าโจทก์ที่2ได้รับอันตรายแก่กายสาหัสดังที่โจทก์กล่าวในฟ้องลงโทษจำเลยฐานทำให้ได้รับอันตรายสาหัสไม่ได้. โจทก์ที่3ถูกยิงต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล12วันแล้วไปรักษาตัวต่อที่บ้านอีกโจทก์ที่3ต้องหยุดทำงานเกือบ1เดือนแพทย์ผู้ทำการตรวจบาดแผลโจทก์ที่3ได้ให้ความเห็นว่าบาดแผลหายได้ภายใน30วันฟังได้ว่าโจทก์ที่3ได้รับบาดเจ็บจากการยิงของจำเลยจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า20วัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2104/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงปืนโดยไม่เจตนาทำร้ายหรือฆ่า: พฤติการณ์ที่แสดงถึงการไม่มีเจตนา
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงไปยังบ้านที่ผู้เสียหายพักซึ่งอยู่ห่างประมาณ 20 เมตร และอยู่ฝั่งคลองตรงกันข้าม กระสุนปืนถูกหลังคาบ้าน กระจกหน้าต่างชั้นบนซึ่งอยู่สูงจากพื้นชั้นบนประมาณ 2 เมตร จำนวนหลายนัด ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางวันจำเลยยิงเป็นเวลานาน 30 นาที ไม่ปรากฏว่าจำเลยทราบว่ามีผู้เสียหายหรือบุคคลอื่นอยู่ในบ้าน และจำเลยกับผู้เสียหายตลอดจนบุคคลเหล่านั้นไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน หลังจากยิงแล้วจำเลยมิได้หลบหนีไปไหน พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่ายิงโดยไม่ประสงค์ให้ถูกใคร ไม่มีทั้งเจตนาฆ่าหรือเจตนาทำร้าย