พบผลลัพธ์ทั้งหมด 347 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3318/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะ จากการถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง
ผู้ตายอาละวาดไล่ทำร้ายภริยาจำเลยจนหลบหนีไปแล้วจำเลยกำลัง จะรับประทานข้าวผู้ตายได้มายืนร้องเรียกที่ข้างบ้านให้จำเลยออกมา เดี๋ยวนี้จำเลยก็เดินออกมาที่ชานบ้าน ผู้ตายเดินมาถึงหน้าบันไดบ้าน พูดว่าวันนี้กูจะลุยมึงและจัดการกับมึงวันนี้จำเลยก็ว่าจะมา จัดการอะไรกัน ไม่เคยทำอะไรผิดผู้ตายก็พูดอีกว่าวันนี้กูต้องเอามึงแน่ จำเลยยกมือไหว้พูดว่าไม่สู้พี่หรอกมีบุตรและภริยาถ้าตายไปใครจะเลี้ยง ผู้ตายก็วิ่งขึ้นบันไดตรงเข้าชกต่อยจำเลยจำเลยจึงล้วงมีดพกปลายแหลม จากกระเป๋ากางเกงแทงผู้ตาย1ทีถูกบริเวณลำคอผู้ตายเดินเซลงบันไดไป จำเลยได้วิ่งตามไปแทงผู้ตายอีก 2-3 ครั้งถือได้ว่าจำเลยได้กระทำแก่ผู้ตาย ไปเพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมเป็นการกระทำความผิด โดยบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2301/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่มีเจตนาและส่วนร่วมในการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น แม้จะอยู่ในเหตุการณ์
จำเลยทั้งสองกับผู้ตายไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน วันเกิดเหตุ บ.ชวนจำเลยทั้งสองไปเที่ยวโดยนั่งรถสามล้อไป ด้วยกัน เมื่อผ่านหน้าบ้านผู้ตายพบผู้ตาย บ. ผละลงจากรถ ไปยิงผู้ตายโดยกะทันหันเพราะมีเรื่องอาฆาตกันอยู่เดิม ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้รู้หรือร่วมคบคิดกับ บ. มาก่อนแม้เมื่อ บ. ยิงผู้ตายแล้วจะย้อนกลับมาขึ้น รถสามล้อดังกล่าวให้จำเลยที่ 1 ถีบไป และจำเลยที่ 2 จะเคยไปถามหาผู้ตายก่อนเกิดเหตุพฤติการณ์เพียงเท่านี้ จะถือว่าจำเลยทั้งสองเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนในการฆ่าผู้ตาย หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2301/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่มีเจตนาและส่วนร่วมในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น แม้มีการพาไปที่เกิดเหตุ หรือรู้เห็นภายหลัง
จำเลยทั้งสองกับผู้ตายไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน วันเกิดเหตุ บ.ชวนจำเลยทั้งสองไปเที่ยวโดยนั่งรถสามล้อไป ด้วยกันเมื่อผ่านหน้าบ้านผู้ตายพบผู้ตาย บ.ผละลงจากรถ ไปยิงผู้ตายโดยกะทันหันเพราะมีเรื่องอาฆาตกันอยู่เดิม ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้รู้หรือร่วมคบคิดกับ บ.มา ก่อนแม้เมื่อ บ. ยิงผู้ตายแล้วจะย้อนกลับมาขึ้น รถสามล้อดังกล่าวให้จำเลยที่ 1 ถีบไป และจำเลยที่ 2 จะเคยไปถามหาผู้ตายก่อนเกิดเหตุพฤติการณ์เพียงเท่านี้จะ ถือว่าจำเลยทั้งสองเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนในการฆ่าผู้ตาย หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3595/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น: จำเลยต้องรู้เห็นการกระทำผิดก่อนจึงจะมีความผิด
โจทก์ไม่มีพยานมาสืบแสดงว่าก่อนจำเลยจะมารอรับคนร้ายที่ฆ่าผู้ตายถึงแก่ความตายนั้น จำเลยได้รู้หรือมีเหตุการณ์ที่จำเลยควรจะรู้ว่าคนร้ายจะไปฆ่าผู้ตายแล้วให้จำเลยรอรับเพื่อพาหลบหนี อันเป็นการแบ่งหน้าที่กันลำพังเพียงจำเลยมารอรับคนร้ายและพาหลบหนีไปดังกล่าว จะถือว่าจำเลยร่วมกระทำความผิดกับคนร้ายหาได้ไม่ เพราะจำเลยอาจเพิ่งทราบว่าคนร้ายยิงผู้ตายภายหลังเกิดเหตุก็ได้ทั้งการที่จำเลยมิได้มาทำงานตามปกติหาใช่เหตุผลแสดงว่าจำเลยร่วมกับคนร้าย แต่อาจเนื่องมาจากจำเลยกลัวความผิดที่พาคนร้ายหลบหนีก็ได้ คดีจึงลงโทษจำเลยฐานเป็นตัวการร่วมกับคนร้ายฆ่าผู้ตายหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3486/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและลักทรัพย์ ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ลดโทษตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสองกับพวกดื่มสุราอยู่ด้วยกัน แล้วจำเลยที่ 2 ให้ผู้ตายดื่มสุรา ผู้ตายไม่ดื่ม พวกจำเลยพูดว่าถ้าไม่ดื่มจะถูกตบ ผู้เสียหายพูดว่าไม่ดื่มแค่นี้จะถูกตบด้วยหรือ จำเลยที่ 1 ใช้แก้วสุราตบหน้าผู้เสียหายจนล้มลงแล้วลุกขึ้น จำเลยที่ 1 ชักปืนออกมา ผู้ตายวิ่งหนีผู้เสียหายวิ่งตาม จำเลยที่ 1 ยิงปืน 2 นัด ถูก ผู้ตายถึงแก่ความตาย จากนั้นจำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไป เมื่อถึงคอสะพานก็จอดให้จำเลยที่ 2นั่งซ้อนท้ายไปด้วย ดังนี้ การยิงผู้ตายและเอารถจักรยานยนต์ ของผู้เสียหายไปเป็นการกระทำของจำเลยที่ 1 เพียงผู้เดียว จำเลยที่ 2 มิได้ร่วมกระทำความผิดด้วย ทั้งเหตุที่ จำเลยที่ 1 ยิงผู้ตายก็เนื่องจากผู้ตายไม่ยอมดื่มสุรา มิใช่ประสงค์จะแย่งชิงรถของผู้เสียหาย การเอารถไปก็เพื่อ จะหลบหนีให้พ้นจากการจับกุมหลังจากที่ได้กระทำผิด ฐานฆ่าผู้ตาย จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และฐานลักทรัพย์ตาม มาตรา 335 ส่วนจำเลยที่ 2 ไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ปล้นทรัพย์จนเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาความผิดฐานปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นเพื่อความสะดวกในการปล้นทรัพย์
จำเลยทั้งสองกับพวกมาถึงบ้านผู้ตาย จำเลยที่ 1 ถามว่าเห็นกระบือหายมาทางนี้ไหม ผู้ตายบอกว่าไม่เห็น จำเลยทั้งสองก็เข้าจับแล้วช่วยรุมทำร้ายและยิงผู้ตายแล้ว จำเลยที่ 1 ขึ้นไปบนเรือนเอาปืน วิทยุและเข็มขัดลงมา ส่วนจำเลยที่ 2 และพวกไปจูงกระบือออกจากคอกและคุมตัวภริยาและน้องสาวผู้ตายให้ไปส่ง แม้ไม่มีการขู่เข็ญก่อนยิง แต่การที่ยิงผู้ตายแล้วเอาทรัพย์สินของผู้ตายไปก็เพื่อสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไปอันเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์ และขณะเดียวกันก็เป็นการฆ่าเพื่อความสะดวกในการปล้นทรัพย์ด้วย จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289, 340, 340 ตรี เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษตามมาตรา 340 วรรคท้าย ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2665/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากความโกรธแค้น
ม.กับจำเลยโกรธแค้นผู้ตายที่มาพูดเชิงบังคับให้ชำระค่าอาหารที่ ม. ขอติดค้างต่อเจ้าของร้าน เมื่อชำระ ค่าอาหารแล้ว ม. กับจำเลยไปเอาอาวุธปืนที่บ้านของ ม.โดยจำเลยเอาลูกระเบิดแบบขว้างติดตัวมาด้วย กลับมาถึง ร้านอาหารม. เข้าไปยิงผู้ตายส่วนจำเลยยืนถือลูกระเบิด รอ ม. อยู่ เมื่อ ม. ยิงผู้ตายแล้ว จำเลยถาม ม. ว่าตายไหมแล้ว ม. กับจำเลยก็หลบหนีไปด้วยกันพฤติการณ์ดังกล่าวฟังได้ว่าจำเลยร่วมกับ ม. ฆ่าผู้ตาย
การที่ ม. กับจำเลยโกรธแค้นผู้ตายที่มาพูดเชิงบังคับ ให้ชำระค่าอาหารที่ ม. ขอติดค้างต่อเจ้าของร้าน จึงไปเอาอาวุธปืนที่บ้านของ ม. กลับมายิงผู้ตายถึง แก่ความตายเพราะความโกรธแค้นในขณะที่ผู้ตายยังนั่ง รับประทานอาหารอยู่ที่ร้านเดิม การกระทำของ ม. กับ จำเลยจึงเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4)
การที่ ม. กับจำเลยโกรธแค้นผู้ตายที่มาพูดเชิงบังคับ ให้ชำระค่าอาหารที่ ม. ขอติดค้างต่อเจ้าของร้าน จึงไปเอาอาวุธปืนที่บ้านของ ม. กลับมายิงผู้ตายถึง แก่ความตายเพราะความโกรธแค้นในขณะที่ผู้ตายยังนั่ง รับประทานอาหารอยู่ที่ร้านเดิม การกระทำของ ม. กับ จำเลยจึงเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2280/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะจากความขัดแย้งในครอบครัว ศาลพิจารณาเหตุผลและลดโทษ
จำเลยกับผู้ตายมีความสัมพันธ์ฉันสามีภริยา ผู้ตายเป็นคนโมโหร้าย จำเลยจะกลับไปเยี่ยมมารดา แต่ผู้ตายไม่ให้ ไป และกล่าวหาจำเลยว่าจะไปมีชู้ ด่าว่าจำเลยพร้อมทั้งตบตี จำเลยใช้ปืนของผู้ตายยิงผู้ตายเพียงนัดเดียว เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ เพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง ด้วยเหตุ อันไม่เป็นธรรม ทั้งยิงผู้ตายในขณะนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3502/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขกฎหมายอาญาหลังกระทำผิดและผลกระทบต่อโทษจำคุก: กรณีจำเลยกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นและมีอาวุธปืน
ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฐานมีและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อลดโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกตลอดชีวิต จำคุก 8 เดือน และจำคุก 4 เดือนตามลำดับ เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นจำคุก 50 ปีตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวมจำคุก 51 ปี แต่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 ออกใช้บังคับ อันเป็นกฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิดและเป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิด ซึ่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 ให้ใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิดไม่ว่าในทางใด จึงลงโทษจำคุกจำเลย 50 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3) ที่แก้ไขใหม่หมายเหตุ โปรดดูฎีกาที่ 3703/2526 ซึ่งวินิจฉัยแตกต่างกับฎีกาฉบับนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3407/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังคำให้การพยานชั้นสอบสวนประกอบวิถีกระสุนเพื่อพิสูจน์ความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
คำให้การพยานชั้นสอบสวนไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไม่ให้รับฟังประกอบเป็นข้อพิจารณาของศาล ศาลรับฟังมาประกอบวิถีกระสุนจากบาดแผลของผู้ตายว่าจำเลยเป็นผู้ยิงผู้ตายถึงแก่ความตายได้