คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
จำหน่าย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 632 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6707/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนผสมอีเฟดรีนเป็นกรรมเดียว
จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 780 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และได้จำหน่ายให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อไปทั้งหมด เจ้าพนักงานตำรวจจับได้พร้อมยึดเมทแอมเฟตามีนทั้งหมดเป็นของกลาง ผลการตรวจพิสูจน์ของกลางทั้ง 780เม็ด พบว่ามีปริมาณเมทแอมเฟตามีนคำนวณเป็นน้ำหนักสารบริสุทธิ์ได้ 10.783 กรัมและมีปริมาณอีเฟดรีนคำนวณเป็นน้ำหนักสารบริสุทธิ์ได้ 0.618 กรัม โดยของกลางแต่ละเม็ดมีส่วนผสมของเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีน ดังนี้ เมื่อเมทแอมเฟตามีนของกลางทั้งหมดแต่ละเม็ดถูกผสมด้วยอีเฟดรีนบางส่วนก็เพื่อวัตถุประสงค์ให้เป็นเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 เมทแอมเฟตามีนที่มีอีเฟดรีนผสมอยู่จึงเป็นวัตถุอันเดียว การที่จำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวไปเป็นการกระทำคราวเดียวกัน จึงเป็นการกระทำผิดเพียงกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6707/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายยาเสพติดผสม (เมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีน) ถือเป็นกรรมเดียว แม้มีส่วนผสมหลายชนิด
จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 780 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และได้จำหน่ายให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อไปทั้งหมดเจ้าพนักงานตำรวจจับได้พร้อมยึดเมทแอมเฟตามีนทั้งหมดเป็นของกลาง ผลการตรวจพิสูจน์ของกลางทั้ง 780 เม็ดพบว่ามีปริมาณเมทแอมเฟตามีนคำนวณเป็นน้ำหนักสารบริสุทธิ์ได้ 10.783 กรัม และมีปริมาณอีเฟดรีนคำนวณเป็นน้ำหนักสารบริสุทธิ์ได้ 0.618 กรัม โดยของกลางแต่ละเม็ดมีส่วนผสมของเมทแอมเฟตามีนและอีเฟดรีน ดังนี้ เมื่อเมทแอมเฟตามีนของกลางทั้งหมดแต่ละเม็ดถูกผสมด้วยอีเฟดรีนบางส่วนก็เพื่อวัตถุประสงค์ให้เป็นเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 เมทแอมเฟตามีนที่มีอีเฟดรีนผสมอยู่จึงเป็นวัตถุอันเดียว การที่จำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวไปเป็นการกระทำคราวเดียวกัน จึงเป็นการกระทำผิด เพียงกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6651/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองกัญชาเพื่อจำหน่าย: พยานหลักฐานจากปริมาณ, การแบ่งบรรจุ, และคำรับสารภาพ
สภาพและลักษณะกัญชาของกลางมีปริมาณมากโดยมีน้ำหนัก รวมถึง 474.30 กรัม เกินกว่าวิสัยแห่งการมีไว้เพื่อเสพเอง แต่เป็นปริมาณมากพอจะนำไปจำหน่ายจ่ายแจกได้และกัญชาของกลาง ถูกจัดแบ่งบรรจุถุงเล็ก ๆ ไว้ถึง 23 ถุง ซึ่งรวมบรรจุใน ถุงหิ้วบรรจุกัญชาแห้งอีกส่วนหนึ่ง อันแสดงลักษณะว่าจำเลย ได้จัดแบ่งไว้เพื่อขายหรือจำหน่ายแก่บุคคลอื่น ประกอบกับ ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพในข้อหามี กัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และยังนำชี้ที่เกิดเหตุแสดงท่าทางประกอบคำรับสารภาพ ทั้งเจ้าพนักงานผู้จับกุมและพนักงานสอบสวนต่างก็เบิกความยืนยันว่าจำเลยให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจ จึงไม่มีเหตุสงสัยว่าจะเบิกความปรักปรำจำเลย ดังนั้น แม้โจทก์จะไม่มีพยานหลักฐานรู้เห็นว่าจำเลยได้จำหน่ายกัญชาก็ตาม พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาก็มีน้ำหนักมั่นคงรับฟังลงโทษจำเลยฐานมีกัญชาของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6583/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำหน่ายสุราปลอมและใช้ฉลากเครื่องหมายการค้าผู้อื่น การกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและพ.ร.บ.สุรา
จำเลยทั้งสองรู้อยู่แล้วว่าสุราของกลางที่จำเลยทั้งสองนำส่งออกไปขายแก่ผู้ซื้อต่างประเทศนั้นเป็นสุราปลอมซึ่งบรรจุขวดและปิดฉลากที่มีชื่อ รูป รอยประดิษฐ์และข้อความในการประกอบการค้าของโจทก์ร่วม เพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจว่าเป็นสินค้าสุราที่แท้จริงของโจทก์ร่วม เป็นความผิดฐานจำหน่ายสินค้าที่มีชื่อ รูป รอยประดิษฐ์หรือข้อความใด ๆในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 275 และเป็นความผิดฐานขายสุราที่รู้ว่าทำขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 31แต่ความผิดฐานเอาชื่อ รูป รอยประดิษฐ์หรือข้อความใด ๆในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้ ทำให้ปรากฏที่สินค้าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272(1) นั้น จำเลยกว้านซื้อสุราของกลางมาจากร้านค้าแล้วนำส่งออกไปขายแก่ผู้ซื้อในต่างประเทศไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองทำสุราปลอมเองหรือบรรจุขวดเป็นสินค้าของจำเลยเองแต่มีการปิดฉลากปลอม จึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นผู้เอาชื่อ รูป รอยประดิษฐ์หรือข้อความใด ๆในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้กับสินค้าของตนเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6543/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองฝิ่นดิบเกิน 100 กรัม ถือว่ามีไว้เพื่อจำหน่ายตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 17 วรรคสอง กำหนดให้มีการยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 ไว้ในครอบครองคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ตั้งแต่หนึ่งร้อยกรัม ขึ้นไป ให้ถือว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ดังนั้น การที่จำเลยมีฝิ่นหรือฝิ่นดิบของกลางซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษ ในประเภท 2 ไว้ในครอบครองคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 1,010 กรัม จึงต้องถือว่าจำเลยมีฝิ่นหรือฝิ่นดิบของกลางไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4747/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อสันนิษฐานทางกฎหมายยาเสพติด: ครอบครองสารบริสุทธิ์เกิน 20 กรัม ถือว่ามีไว้เพื่อจำหน่าย
พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสองที่บัญญัติว่า การผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ตั้งแต่ยี่สิบกรัมขึ้นไป ให้ถือว่าผลิต นำเข้าส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้น เป็นข้อสันนิษฐานของกฎหมายโดยเด็ดขาด โจทก์จึงไม่จำต้องนำสืบว่าจำเลยมีพฤติการณ์จำหน่ายเฮโรอีนอย่างใดบ้างเมื่อจำเลยรับว่ามีเฮโรอีนของกลางคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์หนัก 65.9 กรัม ไว้ในครอบครอง จึงต้องถือว่าและฟังได้ว่าจำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ส่วนข้อเท็จจริงที่ว่าเจ้าพนักงานตำรวจจะค้นพบเฮโรอีนของกลางได้ที่ใดและจำเลยมีพฤติการณ์จำหน่ายเฮโรอีนด้วยหรือไม่ ไม่ใช่ข้อสำคัญ เพราะจำเลยไม่อาจนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4747/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อสันนิษฐานทางกฎหมายยาเสพติด: ครอบครองสารบริสุทธิ์เกิน 20 กรัม ถือว่ามีไว้เพื่อจำหน่าย
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสองที่บัญญัติว่า การผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ตั้งแต่ยี่สิบกรัมขึ้นไป ให้ถือว่าผลิต นำเข้า ส่งออกหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้น เป็นข้อสันนิษฐานของกฎหมายโดยเด็ดขาด โจทก์จึงไม่จำต้องนำสืบว่าจำเลยมีพฤติการณ์จำหน่ายเฮโรอีนอย่างใดบ้าง เมื่อจำเลยรับว่ามีเฮโรอีนของกลางคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์หนัก 65.9 กรัมไว้ในครอบครอง จึงต้องถือว่าและฟังได้ว่าจำเลยมีไว้ ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ส่วนข้อเท็จจริงที่ว่า เจ้าพนักงานตำรวจจะค้นพบเฮโรอีนของกลางได้ที่ใดและจำเลยมีพฤติการณ์จำหน่ายเฮโรอีนด้วยหรือไม่ ไม่ใช่ข้อสำคัญเพราะจำเลยไม่อาจนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3814/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายยาเสพติดเป็นความผิดสองกรรมได้ แม้จะกระทำต่อเนื่องกัน
ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทพ.ศ. 2518 มาตรา 4 บัญญัตินิยามคำว่า "ขาย" ให้หมายความรวมถึงการมีไว้ขายด้วย การขายหรือมีไว้เพื่อขายจึงเป็นความผิดอย่างเดียวกัน ผู้ที่มีวัตถุออกฤทธิ์ไว้เพื่อขายแล้วได้ขายไปบางส่วนคงมีความผิดฐานขายเพียงสถานเดียว แต่ตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4 ได้บัญญัตินิยามคำว่า "จำหน่าย" หมายความว่า ขาย จ่าย แจก แลกเปลี่ยนให้เท่านั้น มิได้บัญญัติให้หมายความรวมถึงการมีไว้ใน ครอบครองเพื่อจำหน่ายด้วย การมียาเสพติดไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายและการจำหน่ายยาเสพติดเป็นความผิดซึ่งอาศัยเจตนาในการกระทำผิดแยกต่างหากจากกันได้ แม้เมทแอมเฟตามีนซึ่งเป็นยาเสพติดจำนวน 4 เม็ดที่จำเลยมอบให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อเป็นส่วนหนึ่งของเมทแอมเฟตามีนจำนวน 60 เม็ด ที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายไปในเวลาที่ต่อเนื่องกัน แต่การกระทำของจำเลยดังกล่าวก็มีเจตนาแยกต่างหากจากกันตั้งแต่จำเลยจำหน่ายแล้ว การกระทำของจำเลย จึงเป็นความผิดสองกรรม หาใช่เป็นความผิดกรรมเดียวไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3799/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีไว้เพื่อจำหน่ายกับการจำหน่ายยาเสพติดเป็นความผิดต่างกระทง
การมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายกับการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ลักษณะของการกระทำแตกต่างกัน เป็นการกระทำต่างขั้นตอนกัน สามารถแยกการกระทำแต่ละอย่างต่างหากจากกันได้ ทั้ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4 ไม่ได้นิยามความหมายของคำว่าจำหน่ายว่า ให้มีความหมายรวมถึงการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ดังเช่นที่บัญญัติไว้ในพ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 มาตรา 4 ดังนี้แสดงว่าพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มุ่งประสงค์จะลงโทษการมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและการจำหน่ายยาเสพติดให้โทษทั้งสองกรณี
การที่จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำเลยก็มีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายกระทงหนึ่งแล้วครั้นจำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวที่มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายไปบางส่วนให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อ จำเลยก็มีความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนอีกกระทงหนึ่ง การกระทำของจำเลยมิได้เป็นความผิดกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3799/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองเพื่อจำหน่ายกับจำหน่ายยาเสพติดเป็นความผิดต่างกระทง
การมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายกับการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ลักษณะของการกระทำแตกต่างกันเป็นการกระทำต่างขั้นตอนกัน สามารถแยกการกระทำแต่ละอย่างต่างหากจากกันได้ ทั้งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4 ไม่ได้นิยามความหมายของคำว่าจำหน่ายว่าให้มีความหมายรวมถึงการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายดังเช่นที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4 ดังนี้แสดงว่าพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มุ่งประสงค์จะลงโทษการมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและการจำหน่ายยาเสพติดให้โทษทั้งสองกรณี การที่จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำเลยก็มีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายกระทงหนึ่งแล้ว ครั้นจำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวที่มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายไปบางส่วนให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อ จำเลยก็มีความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนอีกกระทงหนึ่ง การกระทำของจำเลยมิได้เป็นความผิดกรรมเดียว
of 64