พบผลลัพธ์ทั้งหมด 233 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเนื่องจากศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะบทลงโทษโดยคงโทษเดิม ทำให้ฎีกาต้องห้ามในข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษว่าจำเลย ผิดก.ม.อาญา ม. 251,59 จำคุก 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยผิด ม.249,47,59 แต่คงลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี6 เดือน เท่าเดิม คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบกันวิ่งราวทรัพย์: การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดและบทลงโทษในชั้นอุทธรณ์และการยืนตามคำพิพากษาเดิมในชั้นฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยสมคบกันวิ่งราวทรัพย์ผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 297,63 จำคุก 3 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ว่า จำเลยผิดเพียงฐานสมรู้และแก้โทษเป็นจำคุก 2 ปี ดังนี้เป็นการแก้บทและแก้กำหนดโทษ จึงเป็นการแก้มาก คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 896/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอลงโทษจำเลยฐานสมคบกันลักทรัพย์ โจทก์ต้องขอตามบทลงโทษที่ต้องการในฟ้อง
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกันลักแตงกวาซึ่งปลูกไว้ในนาขอให้ลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 292 ไม่ได้ขอมาตรา 293(11) มาด้วยต้องฟังว่า โจทก์ไม่ประสงค์ที่จะให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 293. คงพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 292 ตามที่โจทก์ขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องคดีอาญาต้องระบุเหตุแห่งความผิดให้ชัดเจน หากฟ้องไม่ครบองค์ความผิด ศาลต้องยกฟ้อง แม้มีบทลงโทษอื่น
ฟ้องที่ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 319(3) นั้นต้องบรรยายว่าเข้ามาตรา 319(3) เพราะเหตุใดมิฉะนั้นถือว่า ฟ้องบรรยายไม่ครบองค์ความผิดตามมาตรานี้
ฎีกาของโจทก์ที่ขอฉะเพาะให้ลงโทษจำเลยตามมาตราใดมาตราหนึ่งนั้น เมื่อลงโทษตามบทมาตราที่โจทก์ขอไม่ได้แล้ว จะลงโทษตามมาตราอื่นที่ไม่ได้ขอมาได้หรือไม่ ไม่เป็นประเด็นที่จะวินิจฉัย ศาลต้องยกฟ้อง
ฎีกาของโจทก์ที่ขอฉะเพาะให้ลงโทษจำเลยตามมาตราใดมาตราหนึ่งนั้น เมื่อลงโทษตามบทมาตราที่โจทก์ขอไม่ได้แล้ว จะลงโทษตามมาตราอื่นที่ไม่ได้ขอมาได้หรือไม่ ไม่เป็นประเด็นที่จะวินิจฉัย ศาลต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1869/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดบทลงโทษในความผิดหลายบท ศาลต้องใช้บทที่มีโทษหนักที่สุด แม้ความผิดอื่นจะอยู่ในอำนาจศาลแขวง
ในกรณีที่ฟ้องอ้างว่าจำเลยกระทำความผิดซึ่งเป็นการละเมิด ก.ม. หลายบทด้วยกันนั้น หากพิจารณาได้ข้อเท็จจริงตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์แล้ว ศาลก็ต้องใช้อาญาที่เป็นบทนักลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 70 ฉะนั้นเมื่อความผิดตามบท ก.ม. ที่หนักนั้นเกินอำนาจศาลแขวงแม้ความผิดบทเบา จะอยู่ในอำนาจศาลแขวง ศาลแขวงก็ต้องพิพากษายกฟ้องเสีย เพราะต้องถือว่าเป็นคดีเกินอำนาจศาลแขวง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1148/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายใหม่เข้ามาใช้กลางคดี โทษเบากว่าใช้บังคับย้อนหลังได้
ในระหว่างพิจารณาคดีในชั้นศาลฎีกา ได้มีพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2493 ประกาศออกใช้เป็นกฎหมายแล้ว โดยยกเลิก พระราชบัญญัติภาษีชั้นใน จ.ศ.1248 และ พระราชบัญญัติภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ.2476 ที่โจทก์ฟ้องอ้างเป็นบทลงโทษจำเลยแล้ว มีบัญญัติความผิดและกำหนดโทษไว้ใหม่ตามมาตรา 32 ซึ่งมีโทษเบากว่ามาตรา 8 พระราชบัญญัติภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2476 จึงต้องใช้กฎหมายใหม่เป็นบทลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 8
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในความผิดเดิม แม้บทลงโทษต่างกัน ศาลยกฟ้องตามหลักกฎหมายอาญามาตรา 39(4)
จำเลยนำเอาความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จไปแจ้งและร้องเรียนต่อปลัดอำเภอว่า ฮ. กับพวกปล้นทรัพย์ ปลัดอำเภอจึงจับ ฮ.กับพวกควบคุมไว้ โจทก์ได้ฟ้องขอให้ลงโทษฐานแจ้งความเท็จ ซึ่งศาลได้พิพากษาลงโทษไปแล้ว ดังนี้ โจทก์จะมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำให้ ฮ. กับพวกเสื่อมเสียอิสสระภาพไม่ได้เพราะการกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดกฎหมายหลายบท โจทก์ได้เลือกฟ้องขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามบทใดบทหนึ่งเสร็จไปแล้ว ต้องวินิจฉัยว่าได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดของจำเลย ซึ่งโจทก์ได้เลือกฟ้องนั้นแล้ว ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 39 (4).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1622/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ราคาซื้อขายฝิ่นในคดีฝิ่น การปรับบทลงโทษตามอัตราขั้นต่ำเมื่อโจทก์มิได้บรรยายราคาที่ชัดเจน
เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่าราคามูลฝิ่นที่รัฐบาลขายในท้องที่เกิดเหตุและเวลาเกิดเหตุกรัมละ 4 บาท เป็นแต่กล่าวว่ารัฐบาลจำหน่ายเวลานี้กรัมละ 4 บาท จำหน่ายแห่งใดก็ไม่ทราบ ทั้งจำเลยก็ไม่ได้ให้การรับราคาตามที่โจทก์ฟ้องโจทก์มีหน้าที่สืบให้สมแต่ไม่สืบ จึงควรปรับจำเลยตามอัตราขั้นต่ำคือ 50 บาท(อ้างฎีกาที่1037/2482และ1038/2482)
คู่ความรับกันว่า กรมสรรพสามิตมีนโยบายให้เจ้าของร้านฝิ่นมาฝิ่นออกนอกร้านได้ดังนี้ นโยบายนั้นหาลบล้างกฎหมายได้ไม่
คู่ความรับกันว่า กรมสรรพสามิตมีนโยบายให้เจ้าของร้านฝิ่นมาฝิ่นออกนอกร้านได้ดังนี้ นโยบายนั้นหาลบล้างกฎหมายได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 852/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดวิวาททำร้ายร่างกายหลายคน: การกำหนดบทลงโทษตามฟ้องที่ไม่ชัดเจน
การวิวาทต่อสู้กันระหว่างคนตั้งแต่สามคนขึ้นไปอันเป็นความผิดตามมาตรา 258 นั้น ฝ่ายที่ถูกทำร้ายสาหัสคือคนที่ถูกทำร้ายสาหัสก็คงมีความผิดตาม ม. 258
ในกรณีที่บุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไปวิวาทต่อสู้กันจนบาดเจ็บสาหัสในที่วิวาทต่อสู้กัน ถ้าฟ้องมิได้บรรยายให้เป็นกิจลักษณะชัดเจนลงไปว่า จำเลยคนใดทำร้ายคนใดมีบาดเจ็บอย่างไรแล้ว แม้จำเลยจะรับสารภาพว่าได้ทำร้ายคู่ต่อสู้คนใดมีบาดเจ็บหรือบาดเจ็บสาหัส ก็ลงโทษตาม ม. 254, 256 ไม่ได้ ต้องลงโทษตาม ม. 258
ฟ้องข้อให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 254, 256 แต่ตามคำบรรยายฟ้องและทางพิจารณาได้ความว่าเป็นความผิด ตาม ม. 258 ศาลลงโทษตาม ม. 258 ได้
ในคดีที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 256, 254 นั้น หากตามฟ้องลงโทษตาม ม. 256, 254 ไม่ได้ คงลงโทษจำเลยตาม ม.258 ได้ เช่นนี้ แม้จำเลยบางคนจะมิได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลสูงก็มีอำนาจที่จะแก้บทลงโทษแก่จำเลยที่มิได้อุทธรณ์, ฎีกาขึ้นมาด้วยได้ เพราะเป็นเหตุในส่วนลักษณะคดี
ในกรณีที่บุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไปวิวาทต่อสู้กันจนบาดเจ็บสาหัสในที่วิวาทต่อสู้กัน ถ้าฟ้องมิได้บรรยายให้เป็นกิจลักษณะชัดเจนลงไปว่า จำเลยคนใดทำร้ายคนใดมีบาดเจ็บอย่างไรแล้ว แม้จำเลยจะรับสารภาพว่าได้ทำร้ายคู่ต่อสู้คนใดมีบาดเจ็บหรือบาดเจ็บสาหัส ก็ลงโทษตาม ม. 254, 256 ไม่ได้ ต้องลงโทษตาม ม. 258
ฟ้องข้อให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 254, 256 แต่ตามคำบรรยายฟ้องและทางพิจารณาได้ความว่าเป็นความผิด ตาม ม. 258 ศาลลงโทษตาม ม. 258 ได้
ในคดีที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 256, 254 นั้น หากตามฟ้องลงโทษตาม ม. 256, 254 ไม่ได้ คงลงโทษจำเลยตาม ม.258 ได้ เช่นนี้ แม้จำเลยบางคนจะมิได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลสูงก็มีอำนาจที่จะแก้บทลงโทษแก่จำเลยที่มิได้อุทธรณ์, ฎีกาขึ้นมาด้วยได้ เพราะเป็นเหตุในส่วนลักษณะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 652/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองยาสูบไม่ปิดแสตมป์ แม้โจทก์มิได้อ้างบทลงโทษโดยตรง ศาลลงโทษได้ตามบทที่อ้างในฟ้อง
มียาสูบตั้งแต่สองกิโลกรัมไว้ในครอบครอง โดยไม่ปิดแสตมป์ยาสูบเป็นผิดตาม พ.ร.บ.ยาสูบ ม. 36 และ 40
โจทก์ฟ้องบรรยายความผิดอันต้องด้วยบทห้ามตามกฎหมายแม้มิได้อ้างบทห้ามมาในฟ้องแต่อ้างบทกำหนดโทษมา ก็ลงโทษได้
โจทก์หาจำเลยรับบางข้อปฏิเสธบางข้อ ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพะยานโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษในความผิด ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธแต่มิได้ขอสืบพะยานดังนี้ ศาลฎีกาย่อมพิจารณาฉะเพาะตามฟ้องและคำให้การ
โจทก์ฟ้องบรรยายความผิดอันต้องด้วยบทห้ามตามกฎหมายแม้มิได้อ้างบทห้ามมาในฟ้องแต่อ้างบทกำหนดโทษมา ก็ลงโทษได้
โจทก์หาจำเลยรับบางข้อปฏิเสธบางข้อ ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพะยานโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษในความผิด ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธแต่มิได้ขอสืบพะยานดังนี้ ศาลฎีกาย่อมพิจารณาฉะเพาะตามฟ้องและคำให้การ