พบผลลัพธ์ทั้งหมด 257 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3432/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดีและการไม่อนุญาตระบุพยานเพิ่มเติมหลังสืบพยานโจทก์เสร็จ
ชั้นสืบพยานจำเลยจำเลยขอเลื่อนคดีหลายครั้งจนในนัดสุดท้ายจำเลยแถลงรับรองต่อศาลว่าในนัดต่อไปจำเลยมีพยานมาศาลเท่าใดก็จะสืบเพียงนั้นแต่พอถึงวันนัดจำเลยยังคงไม่มีพยานมาสืบพร้อมกันนี้ทนายจำเลยก็ขอถอนตัวและจำเลยได้ตั้งทนายความใหม่ในโอกาสเดียวกันนี้ทนายจำเลยคนใหม่ก็ได้ยื่นคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติมและขอเลื่อนคดีซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตทั้งสองกรณีเห็นว่าการขอระบุพยานเพิ่มเติมนั้นเป็นเวลาภายหลังที่โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนนำสืบพยานเสร็จแล้วเหตุผลในคำร้องของจำเลยไม่เข้าเงื่อนไขตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา88วรรคท้ายที่ศาลจะอนุญาตตามคำขอได้เพราะจำเลยย่อมทราบดีแล้วในขณะสืบพยานโจทก์ว่าพยานที่จำเลยขอระบุเพิ่มเติมเป็นผู้รับสำนวนการสอบสวนจากพยานโจทก์ดำเนินการต่อมาจำเลยชอบที่จะขอยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมได้เสียแต่ตอนนั้นเมื่อจำเลยมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องแต่เพิ่งมายื่นบัญชีขอระบุพยานเพิ่มเติมเอาในนัดสุดท้ายซึ่งจำเลยได้แถลงรับรองต่อศาลแล้วว่าจะไม่ขอเลื่อนคดีอีกจึงเป็นพฤติการณ์ที่ส่อให้เห็นเจตนาที่จะประวิงคดีโดยตรง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2356/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: การสันนิษฐานหน้าที่ชำระหนี้, การสลักหลังเช็คเพื่อประกัน, และการประวิงคดี
พยานที่มิได้เกี่ยวข้องกับข้อต่อสู้ในมูลคดีแต่จะนำเข้าสืบเพื่อประโยชน์แห่งคดีอื่นศาลงดสืบพยานนี้เสียได้เพราะเป็นการนำสืบพยานอันไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาจำเลยมีหน้าที่นำสืบแต่ขอเลื่อนคดีหลายนัดติดต่อกันอ้างว่าตัวจำเลยป่วยบ้างทนายจำเลยป่วยบ้างหรือขอเลื่อนคดีอ้างว่าจะเจรจากับโจทก์เพื่อตรวจสอบหนี้สินแต่จำเลยก็มิได้ไปตรวจสอบหนี้สินตามที่โจทก์นัดเมื่อศาลชั้นต้นสั่งกำชับให้จำเลยนำพยานมาสืบให้เสร็จในวันนัดจำเลยนำพยานเข้าสืบแล้วขอเลื่อนคดีพฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการประวิงคดีศาลสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและตัดพยานจำเลยได้ จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาทต้องสันนิษฐานว่าได้ออกเช็คเพื่อชำระหนี้หากจำเลยจะอ้างว่าได้ออกเช็คเพื่อวัตถุประสงค์อื่นจำเลยต้องมีหน้าที่นำสืบ เช็คพิพาทเป็นเช็คผู้ถือซึ่งจำเลยสั่งจ่ายมอบให้โจทก์โจทก์นำไปแลกเงินจากส. โดยโจทก์ลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คพิพาทไว้อันเป็นการประกัน(อาวัล)สำหรับจำเลยผู้สั่งจ่ายเมื่อโจทก์ได้ใช้เงินตามเช็คและรับเช็คคืนมาจากส. เพราะธนาคารตามเช็คปฏิเสธการใช้เงินโจทก์ก็นับได้ว่าเป็นผู้ทรงเช็คนั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2356/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดชอบหากพิสูจน์ไม่ได้ว่าไม่มีมูลหนี้ และการประวิงคดีตัดพยานได้
จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนนัดสืบพยานจำเลยนัดแรกจำเลยอ้างว่าป่วยขอเลื่อนคดีนัดที่สองอ้างว่าทนายจำเลยป่วยขอเลื่อนคดีนัดที่สามจำเลยและโจทก์แถลงขอเลื่อนคดีเพื่อเจรจานัดที่สี่จำเลยยอมรับว่าจำเลยผิดนัดไม่ไปตรวจสอบหนี้สินตามที่โจทก์นัดศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยนำพยานเข้าสืบแต่จำเลยอ้างตนเองเบิกความเป็นพยานปากเดียวส่วนพยานอื่นไม่มาศาล.ศาลชั้นต้นมีคำสั่งกำชับให้จำเลยนำพยานมาสืบให้เสร็จในนัดหน้าถ้าพยานไม่มาให้ถือว่าจำเลยไม่ติดใจสืบนัดที่ห้าจำเลยนำพยานเข้าสืบ4ปากแล้วแถลงว่ายังติดใจสืบพยานอีก2ปากซึ่งมาศาลแล้วแต่กลับไปก่อนและติดธุระมาศาลไม่ได้ปรากฏว่าพยานที่จำเลยยังติดใจสืบนั้นก็เพื่อประโยชน์คดีอื่นของจำเลยไม่เกี่ยวกับเช็คพิพาทคดีนี้และไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีนี้พฤติการณ์ของจำเลยส่อเจตนาประวิงคดีชอบที่ศาลชั้นต้นจะตัดพยานจำเลยดังกล่าว. จำเลยลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คจึงต้องสันนิษฐานว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา900เมื่อจำเลยอ้างว่าออกเช็คให้โจทก์ยืมไปแลกเงินสดเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของโจทก์โดยจำเลยไม่มีมูลหนี้ที่จักต้องชำระเงินตามเช็คแก่โจทก์จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องนำสืบพิสูจน์ให้เห็นโดยชัดแจ้งเมื่อพิสูจน์ไม่ได้ก็ต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้น. โจทก์ฟ้องว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ให้แก่โจทก์การที่โจทก์นำสืบว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คมอบแก่โจทก์ไปแลกเงินสดจากส.ให้จำเลยโดยโจทก์ลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คนั้นเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโจทก์จึงได้ใช้เงินตามเช็คนั้นไปและรับมอบเช็คคืนมาเช็คดังกล่าวเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือโจทก์ได้เช็คไว้ในครอบครองก็นับว่าเป็นผู้ทรงมีอำนาจฟ้องเรียกร้องเงินตามเช็คจากจำเลยผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายได้ดังนี้คำบรรยายฟ้องและทางพิจารณาที่โจทก์นำสืบหาขัดแย้งกันไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสมควรเลื่อนคดี: การป่วยของจำเลยและพยานที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน ไม่ถือว่าประวิงคดี
ในวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรกซึ่งจำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ทนายจำเลยยื่นคำร้องว่าจำเลยเดินทางไปทำธุรกิจที่จังหวัดเลย แล้วป่วยกะทันหันไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ ขอเลื่อนคดี โจทก์แถลงคัดค้านว่าจำเลยประวิงคดี และไม่มีพยานมาสืบ โจทก์มิได้คัดค้านโดยตรงว่าจำเลยมิได้ป่วย ทั้งมิได้คัดค้านว่าคำร้องของจำเลยไม่เป็นความจริงฟังได้ว่าจำเลยป่วยมีอาการท้องเดินและอ่อนเพลียมาศาลไม่ได้จริง นับว่าจำเลยมีเหตุจำเป็นในการขอเลื่อนคดี พยานจำเลยตามบัญชีพยานปรากฏว่านอกจากจำเลยอ้างตนเองแล้วมี ส. อีกเพียงคนเดียว แม้ ส. เป็นพยานซึ่งจำเลยมีหน้าที่นำมาเบิกความต่อศาลแต่จำเลยไม่นำมา ก็ได้ความว่าในวันนั้น ส. อยู่ที่จังหวัดเลยเช่นเดียวกันเมื่อคำนึงถึงเหตุที่จำเลยป่วยประกอบด้วยแล้ว การที่จำเลยไม่นำ ส. มาเบิกความยังถือไม่ได้ว่าจำเลยประวิงคดีและไม่มีพยานมาสืบ นอกจากนี้หากพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ในเนื้อหาของคดีประกอบกับประโยชน์แห่งความยุติธรรมด้วย กรณีมีเหตุสมควรให้จำเลยเลื่อนคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีเนื่องจากป่วยและการประวิงคดี ศาลพิจารณาเหตุผลและความจำเป็นในการเลื่อนคดีประกอบกับประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ในวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรกซึ่งจำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนทนายจำเลยยื่นคำร้องว่าจำเลยเดินทางไปทำธุรกิจที่จังหวัดเลยแล้วป่วยกระทันหันไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ขอเลื่อนคดีโจทก์แถลงคัดค้านว่าจำเลยประวิงคดีและไม่มีพยานมาสืบโจทก์มิได้คัดค้านโดยตรงว่าจำเลยมิได้ป่วยทั้งมิได้คัดค้านว่าคำร้องของจำเลยไม่เป็นความจริงฟังได้ว่าจำเลยป่วยมีอาการท้องเดินและอ่อนเพลียมาศาลไม่ได้จริงนับว่าจำเลยมีเหตุจำเป็นในการขอเลื่อนคดีพยานจำเลยตามบัญชีพยานปรากฏว่านอกจากจำเลยอ้างตนเองแล้วมีส.อีกเพียงคนเดียวแม้ส.เป็นพยานซึ่งจำเลยมีหน้าที่นำมาเบิกความต่อศาลแต่จำเลยไม่นำมาก็ได้ความว่าในวันนั้นส.อยู่ที่จังหวัดเลยเช่นเดียวกันเมื่อคำนึงถึงเหตุที่จำเลยป่วยประกอบด้วยแล้วการที่จำเลยไม่นำส.มาเบิกความยังถือไม่ได้ว่าจำเลยประวิงคดีและไม่มีพยานมาสืบนอกจากนี้หากพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ในเนื้อหาของคดีประกอบกับประโยชน์แห่งความยุติธรรมด้วยกรณีมีเหตุสมควรให้จำเลยเลื่อนคดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3905/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดีและการรับผิดชอบต่อการกระทำของทนายความที่จำเลยแต่งตั้ง
จำเลยขอเลื่อนการสืบพยานจำเลยมาแล้ว 4 ครั้ง จนศาลมีคำสั่งกำชับว่านัดหน้าจะไม่ยอมให้เลื่อนคดีอีกไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ ครั้นถึงวันนัดตามที่เลื่อนมาทนายจำเลยกลับยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยและจำเลยก็ไม่มาศาลตามพฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาประวิงคดีให้ชักช้า ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลยโดยถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบชอบแล้ว
ในวันนัดสืบพยานจำเลย. จำเลยและทนายจำเลยมิได้มาศาล เพียงแต่ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยมายื่นโดยมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแต่ประการใด แม้คำร้องของทนายจำเลยที่ขอถอนตัวนั้นเท่ากับขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว. แต่ตราบใดที่ศาลยังมิได้สั่งอนุญาตให้ถอนตัว ทนายจำเลยก็ยังมีฐานะเป็นคู่ความอยู่ ศาลย่อมมีอำนาจที่จะพิเคราะห์สั่งเกี่ยวกับการพิจารณาคดีได้ว่าสมควรจะให้เลื่อนไปหรือไม่
เมื่อจำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าต่างและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้ง จำเลยจะอ้างว่าการที่ทนายจำเลยขอถอนตัวมิใช่ความผิดของจำเลยและจำเลยไม่ทราบล่วงหน้า ชอบที่ศาลจะให้สืบพยานจำเลยต่อไป หาได้ไม่
ในวันนัดสืบพยานจำเลย. จำเลยและทนายจำเลยมิได้มาศาล เพียงแต่ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยมายื่นโดยมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแต่ประการใด แม้คำร้องของทนายจำเลยที่ขอถอนตัวนั้นเท่ากับขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว. แต่ตราบใดที่ศาลยังมิได้สั่งอนุญาตให้ถอนตัว ทนายจำเลยก็ยังมีฐานะเป็นคู่ความอยู่ ศาลย่อมมีอำนาจที่จะพิเคราะห์สั่งเกี่ยวกับการพิจารณาคดีได้ว่าสมควรจะให้เลื่อนไปหรือไม่
เมื่อจำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าต่างและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้ง จำเลยจะอ้างว่าการที่ทนายจำเลยขอถอนตัวมิใช่ความผิดของจำเลยและจำเลยไม่ทราบล่วงหน้า ชอบที่ศาลจะให้สืบพยานจำเลยต่อไป หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3905/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดีโดยทนายจำเลยและการรับผิดชอบของจำเลยต่อการกระทำของทนาย
จำเลยขอเลื่อนการสืบพยานจำเลยมาแล้ว 4 ครั้ง จนศาลมีคำสั่งกำชับว่านัดหน้าจะไม่ยอมให้เลื่อนคดีอีกไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆครั้นถึงวันนัดตามที่เลื่อนมาทนายจำเลยกลับยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยและจำเลยก็ไม่มาศาลตามพฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาประวิงคดีให้ชักช้า ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลยโดยถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบชอบแล้ว
ในวันนัดสืบพยานจำเลย. จำเลยและทนายจำเลยมิได้มาศาลเพียงแต่ทนายจำเลยมอบฉันทะ ให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยมายื่นโดยมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแต่ประการใด แม้คำร้องของทนายจำเลยที่ขอถอนตัวนั้นเท่ากับขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว. แต่ตราบใดที่ศาลยังมิได้สั่งอนุญาตให้ถอนตัว ทนายจำเลยก็ยังมีฐานะเป็นคู่ความอยู่ ศาลย่อมมีอำนาจที่จะพิเคราะห์สั่งเกี่ยวกับการพิจารณาคดีได้ว่าสมควรจะให้เลื่อนไปหรือไม่
เมื่อจำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าต่างและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้งจำเลยจะอ้างว่าการที่ทนายจำเลยขอถอนตัวมิใช่ความผิดของจำเลยและจำเลยไม่ทราบล่วงหน้า ชอบที่ศาลจะให้สืบพยานจำเลยต่อไป หาได้ไม่
ในวันนัดสืบพยานจำเลย. จำเลยและทนายจำเลยมิได้มาศาลเพียงแต่ทนายจำเลยมอบฉันทะ ให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยมายื่นโดยมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแต่ประการใด แม้คำร้องของทนายจำเลยที่ขอถอนตัวนั้นเท่ากับขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว. แต่ตราบใดที่ศาลยังมิได้สั่งอนุญาตให้ถอนตัว ทนายจำเลยก็ยังมีฐานะเป็นคู่ความอยู่ ศาลย่อมมีอำนาจที่จะพิเคราะห์สั่งเกี่ยวกับการพิจารณาคดีได้ว่าสมควรจะให้เลื่อนไปหรือไม่
เมื่อจำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าต่างและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้งจำเลยจะอ้างว่าการที่ทนายจำเลยขอถอนตัวมิใช่ความผิดของจำเลยและจำเลยไม่ทราบล่วงหน้า ชอบที่ศาลจะให้สืบพยานจำเลยต่อไป หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3723/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดี การประวิงคดี และผลกระทบต่อการใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกา
ในวันนัดสืบพยานจำเลยซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อน จำเลยและทนายจำเลยไม่เข้าห้องพิจารณาตามที่เจ้าหน้าที่ศาลประกาศเรียก ทางเครื่องขยายเสียง คงมีแต่ทนายโจทก์เข้าห้องพิจารณาฝ่ายเดียว ถ้าหากทนายจำเลยทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำจนไม่ได้ยินประกาศเรียก จำเลยก็น่าจะเข้าไปในห้องพิจารณาและแถลงให้ศาลทราบ หากการขาดนัดมิได้เป็นไปโดยจงใจในระหว่างพิจารณาคดีฝ่ายเดียว จำเลยก็ชอบที่จะมาศาลและขอให้ศาลมีคำสั่งให้พิจารณาคดีนั้นใหม่ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา205วรรคสอง แทนที่จะปฏิบัติตามขั้นตอนที่กฎหมายบัญญัติไว้ กลับยื่นคำแถลงโต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นเพื่อจะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกา ดังนี้จำเลยมีเจตนาประวิงคดี เมื่อจำเลยไม่เข้าห้องพิจารณาตามเวลานัด การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาย่อมเป็นการชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลและการประวิงคดี: ศาลมีอำนาจงดสืบพยานได้
วันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรก ทนายจำเลยป่วยขอเลื่อน ศาลอนุญาตและมีคำสั่งกำชับให้ทนายจำเลยขอหมายเรียกพยานมาให้พร้อม ในวันสืบพยานนัดถัดมา จำเลยคงมีตัวจำเลยมาเบิกความปากเดียวเท่านั้น โดยมิได้นำหรือขอหมายเรียกพยานบุคคลอื่นของจำเลยมาศาลแม้แต่คนเดียว แล้วขอเลื่อนคดีอีกอ้างเหตุว่าพยานคนหนึ่งป่วย ดังนี้ แสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่นำพาที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของศาลชั้นต้น ส่อเจตนาที่จะประวิงคดี ศาลไม่ให้เลื่อนคดีและงดสืบพยาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: การรับโอนเช็คโดยชอบ และอำนาจศาลในการงดสืบพยานที่ประวิงคดี
ร.และจำเลยที่ 2 นำเช็คพิพาทซึ่งจำเลยทั้งสองเป็นผู้สั่งจ่ายไปแลกเงินสดจากโจทก์ โจทก์ย่อมเป็นผู้รับโอนเช็คพิพาทมาในฐานะผู้รับเงินตามเช็ค จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904
จำเลยทั้งสองลงลายมือชื่อในเช็ค ซึ่งเป็นตั๋วเงินประเภทหนึ่ง ย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในตั๋วเงินนั้น ตามมาตรา 900
ศาลต้องเลื่อนคดีเพราะพยานจำเลยปากหนึ่งไม่มาศาลถึง 6ครั้ง เนื่องจากพยานไม่เต็มใจมาเบิกความโดยพยานหลีกเลี่ยงไม่ยอมรับหมาย พยานเคยมีหนังสือแจ้งให้ศาลชั้นต้นทราบว่า พยานไม่เคยเกี่ยวข้องกับจำเลยและไม่ทราบว่าจำเลยจะอ้างเป็นพยานในประเด็นข้อใด แสดงว่าพยานปากนี้อาจจะมิใช่ผู้ที่รู้ข้อเท็จจริงในคดีก็ได้ ทั้งไม่ปรากฏจากคำแถลงหรือข้อนำสืบของจำเลยว่าพยานดังกล่าวเป็นพยานสำคัญเกี่ยวกับประเด็นแห่งคดีที่จะนำสืบอย่างไรฉะนั้นการที่จะให้ได้ตัวพยานปากนี้มาเบิกความนอกจากจะทำให้คดีต้องล่าช้าแล้ว คำเบิกความของพยานน่าจะไม่เป็นประโยชน์แก่คดีจำเลยแต่อย่างใด พยานดังกล่าวจึงเป็นพยานที่ประวิงให้ชักช้าแม้การที่ไม่ได้ตัวพยานมาเบิกความจะมิใช่ความผิดของจำเลย ศาลก็มีอำนาจที่จะงดสืบพยานเช่นว่านั้นเสียได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86วรรค 2
จำเลยทั้งสองลงลายมือชื่อในเช็ค ซึ่งเป็นตั๋วเงินประเภทหนึ่ง ย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในตั๋วเงินนั้น ตามมาตรา 900
ศาลต้องเลื่อนคดีเพราะพยานจำเลยปากหนึ่งไม่มาศาลถึง 6ครั้ง เนื่องจากพยานไม่เต็มใจมาเบิกความโดยพยานหลีกเลี่ยงไม่ยอมรับหมาย พยานเคยมีหนังสือแจ้งให้ศาลชั้นต้นทราบว่า พยานไม่เคยเกี่ยวข้องกับจำเลยและไม่ทราบว่าจำเลยจะอ้างเป็นพยานในประเด็นข้อใด แสดงว่าพยานปากนี้อาจจะมิใช่ผู้ที่รู้ข้อเท็จจริงในคดีก็ได้ ทั้งไม่ปรากฏจากคำแถลงหรือข้อนำสืบของจำเลยว่าพยานดังกล่าวเป็นพยานสำคัญเกี่ยวกับประเด็นแห่งคดีที่จะนำสืบอย่างไรฉะนั้นการที่จะให้ได้ตัวพยานปากนี้มาเบิกความนอกจากจะทำให้คดีต้องล่าช้าแล้ว คำเบิกความของพยานน่าจะไม่เป็นประโยชน์แก่คดีจำเลยแต่อย่างใด พยานดังกล่าวจึงเป็นพยานที่ประวิงให้ชักช้าแม้การที่ไม่ได้ตัวพยานมาเบิกความจะมิใช่ความผิดของจำเลย ศาลก็มีอำนาจที่จะงดสืบพยานเช่นว่านั้นเสียได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86วรรค 2