คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประโยชน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 280 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 511/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับสัญญาเช่าซื้อสูงเกินควรลดได้ ศาลพิจารณาประโยชน์ที่โจทก์ควรได้รับจริง
ข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อที่ว่า ยอมให้ผู้ให้เช่าซื้อริบเงินที่ค้างชำระก็เท่ากับกำหนดเงินเบี้ยปรับหรือค่าเสียหายไว้ล่วงหน้า. หากเบี้ยปรับที่ริบนั้นสูงเกินส่วนก็ชอบที่จะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรแก่ความเป็นธรรมได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 208/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาฐานปลอมพินัยกรรม: ทายาทโดยธรรมไม่มีสิทธิฟ้องหากไม่ได้ประโยชน์จากการปลอม
โจทก์เป็นน้องชายเจ้ามรดก โจทก์ย่อมเป็นทายาทโดยธรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1629. แต่โจทก์ไม่มีสิทธิรับมรดกในเมื่อยังมีทายาทโดยธรรมในลำดับก่อนตนยังมีชีวิตอยู่ตาม มาตรา 1630. และทั้งนี้ต้องต่อเมื่อเจ้ามรดกมิได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้โจทก์.
โจทก์ที่ 3 เป็นบุตรเจ้ามรดก. และโจทก์ที่ 1,2เป็นน้องชายเจ้ามรดกซึ่งมิได้ทำพินัยกรรมไว้. การที่จำเลยสมคบกันปลอมพินัยกรรมขึ้นว่าเจ้ามรดกยกทรัพย์ให้จำเลยที่4 ผู้เดียว. ย่อมทำให้โจทก์ที่ 3 เสียหาย. แต่ไม่ทำให้โจทก์ที่ 1,2 ผู้เป็นน้องชายเจ้ามรดกเสียหายด้วย.เพราะจำเลยจะปลอมหรือไม่ปลอม. โจทก์ที่ 1,2 ก็ไม่มีสิทธิรับมรดกอยู่แล้ว. และฟ้องมิได้บรรยายว่าเจ้ามรดกตั้งใจทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้โจทก์ที่ 1,2ด้วยแล้ว.จำเลยปลอมพินัยกรรมขึ้นเป็นอย่างอื่น. โจทก์ที่ 1,2 จึงมิใช่ผู้เสียหายที่จะฟ้องคดีอาญาฐานปลอมพินัยกรรม ตลอดถึงข้อหาฐานเบิกความเท็จเรื่องพินัยกรรมปลอมนี้ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเหตุไม่มีอำนาจฟ้องนอกเหนือจากประเด็นที่ได้ยกขึ้นต่อสู้ในศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ ถือเป็นการไม่ถือเอาประโยชน์
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้เงินกู้ยืมตามสัญญาจากจำเลยจำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่า หนี้ยังไม่ถึงกำหนดเวลาชำระตามสัญญาโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ดังนี้จำเลยจะยกปัญหาข้อนี้ขึ้นฎีกาไม่ได้เพราะจำเลยมิได้ยกเป็นข้อต่อสู้ในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ทั้งไม่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน (อ้างฎีกาที่ 1490/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 462/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพนักงานรัฐ ชั่งน้ำหนักอ้อยเกินจริงเพื่อประโยชน์ตนเอง
จำเลยเป็นลูกจ้างของโรงงานน้ำตาลสุพรรณบุรีอันเป็นโรงงานของบริษัทส่งเสริมเศรษฐกิจแห่งชาติจำกัด ซึ่งรัฐบาลมีทุนเกินกว่าร้อยละห้าสิบ. โดยจำเลยมีหน้าที่ซ่อมเครื่องจักรของโรงงานฯ. แต่ในระหว่างเกิดคดีนี้ได้รับคำสั่งจากผู้จัดการให้เป็นพนักงานชั่งอ้อยของโรงงาน. จำเลยมีรายได้ประจำจากโรงงาน. ดังนี้ ถือว่าจำเลยเป็นพนักงานตามความหมายของมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502.และการที่จำเลยได้ทำการชั่งอ้อยที่มีผู้นำมาส่งหรือขายให้แก่โรงงานนั้น. ได้ชื่อว่าจำเลยมีหน้าที่ทำ หรือจัดการทรัพย์ใดๆ ตามความหมายใน มาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัตินี้. การที่จำเลยถือโอกาสชั่งอ้อยจำนวนเดียวโดยโยกคันชั่ง 2 ครั้ง เป็นเหตุให้ได้สลิพการชั่งอ้อยเกินมา 1 ชุด. แล้วนำสลิพที่ได้เกินมานั้นไปใช้เป็นหลักฐาน ว่าเป็นการชั่งอ้อยของผู้มีชื่อในวันถัดมา. อันจะทำให้โรงงานต้องจ่ายเงินให้แก่ผู้มีชื่อเกินกว่าที่จะต้องจ่าย. หากมีผู้พบปะทราบการกระทำนั้นเสียก่อนที่โรงงานจะจ่ายเงินถือว่าเป็นความผิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 31/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษอาญาจากการให้การที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ถือเป็นการแก้ไขเล็กน้อยในดุลพินิจศาลอุทธรณ์ จึงไม่อาจฎีกาได้
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นว่า จำเลยได้กระทำผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จแล้ว และใช้ดุลพินิจลงโทษจำคุกจำเลยมา 3 ปี ยังไม่มีเหตุที่ศาลอุทธรณ์จะพึงแก้ไขแต่เห็นว่าการที่จำเลยให้การว่า จำเลยเข้าไปจับรถคันของผู้เสียหายออก และภายหลังได้นำเอาไปจอดไว้ที่เดิมนั้นเป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับว่ามีเหตุบรรเทาโทษซึ่งจำเลยสมควรจะได้รับการลดโทษ จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่าให้ลดโทษจำเลย 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยไว้ 2 ปี นั้น เป็นเรื่องที่ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงตามศาลชั้นต้น แล้วแก้ไขเล็กน้อยในการใช้ดุลพินิจลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คดีจึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ปัญหาว่าคำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาหรือไม่ ไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 31/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจำเลยเนื่องจากให้การที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ถือเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์แก้ไขได้
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยได้กระทำผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จแล้ว. และใช้ดุลพินิจลงโทษจำคุกจำเลยมา 3 ปี. ยังไม่มีเหตุที่ศาลอุทธรณ์จะพึงแก้ไข. แต่เห็นว่าการที่จำเลยให้การว่า จำเลยเข้าไปจับรถคันของผู้เสียหายออก. และภายหลังได้นำเอาไปจอดไว้ที่เดิมนั้นเป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา. นับว่ามีเหตุบรรเทาโทษซึ่งจำเลยสมควรจะได้รับการลดโทษ.จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่าให้ลดโทษจำเลย 1ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78. คงจำคุกจำเลยไว้2 ปี นั้น. เป็นเรื่องที่ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงตามศาลชั้นต้น. แล้วแก้ไขเล็กน้อยในการใช้ดุลพินิจลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78. คดีจึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218.
ปัญหาว่าคำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาหรือไม่. ไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1811/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการชำระหนี้ก่อนล้มละลายเพื่อประโยชน์เจ้าหนี้รายหนึ่ง
ลูกหนี้ผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวนำเงินเข้าบัญชีเดินสะพัดในธนาคารผู้ร้องคัดค้านภายในระยะเวลา 3 เดือนก่อนลูกหนี้ถูกฟ้องล้มละลายโดยลูกหนี้รู้ดีว่าธนาคารผู้ร้องคัดค้านซึ่งเป็นเจ้าหนี้ต้องหักยอดเงินออกจากจำนวนหนี้ทั้งหมดและลูกหนี้ไม่อาจถอนเงินได้อีกนั้น ถือได้ว่าลูกหนี้มุ่งหมายให้เจ้าหนี้คนหนึ่งคนใดได้เปรียบเจ้าหนี้อื่นแล้วเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการกระทำของลูกหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 115ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1811/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการชำระหนี้ก่อนล้มละลายเพื่อประโยชน์เจ้าหนี้รายหนึ่ง
ลูกหนี้ผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวนำเงินเข้าบัญชีเดินสะพัดในธนาคารผู้ร้องคัดค้านภายในระยะเวลา 3 เดือนก่อนลูกหนี้ถูกฟ้องล้มละลายโดยลูกหนี้รู้ดีว่าธนาคารผู้ร้องคัดค้านซึ่งเป็นเจ้าหนี้ต้องหักยอดเงินออกจากจำนวนหนี้ทั้งหมดและลูกหนี้ไม่อาจถอนเงินได้อีกนั้น ถือได้ว่าลูกหนี้มุ่งหมายให้เจ้าหนี้คนหนึ่งคนใดได้เปรียบเจ้าหนี้อื่นแล้วเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการกระทำของลูกหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 115 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1811/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการชำระหนี้ก่อนล้มละลายเพื่อประโยชน์เจ้าหนี้รายหนึ่ง
ลูกหนี้ผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวนำเงินเข้าบัญชีเดินสะพัดในธนาคารผู้ร้องคัดค้านภายในระยะเวลา 3 เดือนก่อนลูกหนี้ถูกฟ้องล้มละลายโดยลูกหนี้รู้ดีว่าธนาคารผู้ร้องคัดค้านซึ่งเป็นเจ้าหนี้ต้องหักยอดเงินออกจากจำนวนหนี้ทั้งหมดและลูกหนี้ไม่อาจถอนเงินได้อีกนั้น. ถือได้ว่าลูกหนี้มุ่งหมายให้เจ้าหนี้คนหนึ่งคนใดได้เปรียบเจ้าหนี้อื่นแล้ว.เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการกระทำของลูกหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 115ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ที่ไม่มีประโยชน์ ศาลมีอำนาจจำหน่ายคดีได้ แม้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาแล้ว
อุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายข้อใดที่ไม่เป็นสารแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย หรือไม่เป็นข้อแพ้ชนะ หรือไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของผู้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ข้อนั้น และถ้าศาลอุทธรณ์เห็นว่า อุทธรณ์ทุกข้อไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยต่อไปแล้ว ก็มีอำนาจที่จะไม่วินิจฉัยอุทธรณ์นั้นทั้งหมดได้
จำเลยฎีกาว่า ศาลชั้นต้นไม่มีอำนาจสั่งบังคับคดีในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นออกหมายจับจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเกินคำขอของโจทก์ เมื่อปรากฏว่าจำเลยได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาและคำบังคับของศาลชั้นต้นเสร็จสิ้นไปแล้ว และศาลชั้นต้นได้งดหมายจับนั้นแล้ว ทั้งไม่มีกรณีที่จะต้องบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือคำบังคับของศาลต่อไปอีก ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายของจำเลยจึงไม่มีประโยชน์แก่คดี ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้ยกฎีกานั้นโดยไม่ต้องวินิจฉัย
of 28