คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้ซื้อ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 310 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1266/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความล่าช้าในการสั่งซื้อสินค้าทำให้เสียสิทธิยกเว้นภาษีอากร ผู้ซื้อไม่ต้องรับผิดชอบ
จำเลยได้ซื้อเครื่องปรับอากาศ 6 เครื่องจากโจทก์ในราคาซึ่งไม่รวมภาษีขาเข้า โดยมีข้อตกลงกันว่า จำเลยซึ่งได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรมและมีสิทธิได้รับยกเว้นอากรขาเข้า ภาษีการค้าและอื่นๆ ตกลงให้โจทก์สั่งเครื่องปรับอากาศในนามของจำเลยเพื่อชดใช้แทนเครื่องปรับอากาศ 6 เครื่องที่รับไปจากโจทก์ เมื่อสินค้าที่สั่งมาถึงจำเลยจะเป็นผู้ดำเนินเรื่องเกี่ยวกับการยกเว้นภาษีให้แก่โจทก์จนกว่าจะแล้วเสร็จ โจทก์ได้ตรวจดูบัตรส่งเสริมการลงทุนฯ ของจำเลยแล้ว ปรากฏว่ามีเวลาสั่งซื้อสินค้าทันกำหนดเวลาในบัตรส่งเสริมการลงทุนฯ ดังนี้ ตามข้อตกลงดังกล่าวมีความหมายว่า โจทก์จะต้องสั่งเครื่องปรับอากาศเข้ามาให้ทันระยะเวลาที่กำหนดไว้ในบัตรส่งเสริมการลงทุนฯ ซึ่งโจทก์ทราบดีอยู่แล้วว่าจะหมดอายุเมื่อใด การที่โจทก์สั่งสินค้าล่าช้าเป็นเหตุให้สินค้ามาถึงประเทศไทยเลยกำหนดระยะเวลาในบัตรส่งเสริมการลงทุนฯจำเลยจึงติดต่อขอยกเว้นเงินอากรขาเข้า และภาษีการค้าไม่สำเร็จ จึงเป็นความผิดของโจทก์เอง จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ในค่าอากรขาเข้า ภาษีการค้า ภาษีเทศบาลและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่โจทก์ต้องเสียไปเพื่อนำเครื่องปรับอากาศออกมา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งที่ดินกรรมสิทธิ์รวมไม่ผูกพันผู้ซื้อจากจำเลย จึงไม่อนุญาตให้ร้องสอด
คำพิพากษาในคดีที่โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินอันเป็นกรรมสิทธิ์รวมไม่ผูกพันผู้ที่อ้างว่าซื้อที่พิพาทจากจำเลย จึงไม่อนุญาตให้ร้องสอดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1041/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาด: สิทธิของผู้สู้ราคา & ผลของการไม่ชำระราคาตามกำหนด
ในการขายทอดตลาดของศาล ว.ผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยให้ราคาสูงสุด ช.ให้ราคารองลงมา ศาลสั่งอนุญาตให้ขายแก่ ว. ให้ ว.วางเงินมัดจำในวันนั้น หากไม่นำเงินมาวางก็เป็นอันยกเลิกไม่ขายให้ ว.และให้ขายแก่ ช. ให้ ช. วางมัดจำในวันที่กำหนดให้ ว. ขอผัดวางเงิน ศาลไม่อนุญาต ดังนี้ ศาลจะสั่งให้ขายให้แก่ ช. โดยมิได้ขายทอดตลาดใหม่หาได้ไม่ เพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 514 เมื่อ ว. ได้สู้ราคาสูงขึ้นไปกว่า ช. ช.ย่อมพ้นความผูกพันในราคาที่ตนสู้ และศาลก็ได้สั่งให้ขายให้ ว. เมื่อ ว. ไม่ชำระราคาตามกำหนด และศาลไม่อนุญาตให้ผัดการวางเงินออกไปอีก ว. จึงเป็นผู้สู้ราคาสูงสุดที่ได้ละเลยเสียไม่ใช้ราคา ศาลจะต้องเอาทรัพย์นั้นออกขายอีกซ้ำ ตามมาตรา 516 ถ้าได้เงินเป็นจำนวนสุทธิไม่คุ้มราคาและค่าขายทอดตลาดชั้นเดิม จำเลยโดย ว.ผู้รับมอบอำนาจจะต้องรับผิดในส่วนที่ขาดนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2093/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบังคับคดีจำกัดเฉพาะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดไม่มีสิทธิบังคับคดีแทนเจ้าหนี้
ผู้ร้องเป็นผู้รับซื้อที่ดินของจำเลยได้จากการขายทอดตลาดเป็นบุคคลภายนอกคดี ไม่ใช่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ไม่มีสิทธิขอให้ศาลบังคับจำเลยลูกหนี้ตามคำพิพากษาขนย้ายเครื่องจักรออกจากที่ดินซึ่งผู้ร้องซื้อไว้ ผู้ร้องชอบที่ไปฟ้องร้องเป็นคดีต่างหาก จะใช้สิทธิขอบังคับในคดีนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2092/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการบังคับคดีของผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาด: ผู้ซื้อไม่มีอำนาจบังคับจำเลยแทนเจ้าหนี้เดิม
ผู้ร้องยื่นคำแถลงต่อศาลว่า ศาลมีคำสั่งให้จำเลยขนย้ายเครื่องจักรออกจากที่ดินที่ผู้ร้องซื้อจากการขายทอดตลาดของศาล ครบกำหนดแล้วจำเลยไม่ขนย้าย ผู้ร้องจึงทำการขนย้ายเครื่องจักรออกไปฝากคลังสินค้า โดยผู้ร้องเสียค่าใช้จ่ายและค่าเช่าโกดัง ขอให้จำเลยชำระ ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยปฏิบัติ แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำสั่งศาลชั้นต้นให้ผู้ร้องรับผิดค่าใช้จ่ายในการขนย้ายเครื่องจักรและค่ารักษาที่ฝากคลังสินค้าถึงวันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ส่วนค่ารักษาเครื่องจักรนับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถึงวันรับเครื่องจักรคืนจากคลังสินค้าให้จำเลยรับผิดคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังกล่าวเป็นการบังคับผู้ร้องและจำเลยให้ต้องรับผิดปฏิบัติตามคำสั่งและคำพิพากษาแต่ปรากฏว่าผู้ร้องเป็นผู้ซื้อที่ดินได้จากการขายทอดตลาดของศาลหาใช่เป็นผู้มีอำนาจขอให้บังคับจำเลยได้ไม่ เพราะผู้ร้องมิใช่คู่ความหรือบุคคลผู้เป็นฝ่ายชนะ(เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา) แต่เป็นบุคคลภายนอกคดี ไม่มีสิทธิบังคับคดีในคดีนี้ได้.เมื่อมีข้อโต้แย้งสิทธิเกิดขึ้นระหว่างผู้ร้องกับจำเลย ผู้ร้องก็ชอบที่จะฟ้องจำเลยเป็นคดีต่างหากจากคดีเดิม จะใช้สิทธิขอบังคับจำเลยในคดีนี้ไม่ได้ ศาลชอบที่จะยกคำแถลงของผู้ร้องเสียแต่ต้นเมื่อตามกฎหมายผู้ร้องไม่มีอำนาจขอให้ศาลบังคับจำเลยในคดีนี้ได้แล้ว แม้จำเลยจะมิได้ฎีกาในข้อที่ศาลอุทธรณ์ให้ต้องรับผิดก็ตาม กรณีเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาเห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยให้จำเลยไม่ต้องรับผิดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดโดยไม่สุจริต ผู้ซื้อไม่ได้รับสิทธิในทรัพย์นั้น
คำว่า โดยสุจริตของผู้ซื้อทรัพย์สินในการขายทอดตลาดของศาลหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1330 นั้น หมายความว่า ผู้ซื้อไม่รู้ว่ามิใช่ทรัพย์ของจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบุคคลผู้ล้มละลาย และในการวินิจฉัยว่าผู้ซื้อสุจริตหรือไม่ย่อมอาศัยพฤติการณ์ต่างๆ ทั้งก่อนและในขณะซื้อประกอบกัน หาใช่ต้องพิจารณาเฉพาะแต่ในเวลาซื้อเท่านั้นไม่ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์รู้มาแต่แรกก่อนเข้าประมูลซื้อแล้วว่าที่พิพาทที่เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดมิใช่ของลูกหนี้ ตามคำพิพากษา ย่อมฟังไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้ซื้อโดยสุจริตในการขายทอดตลาดทรัพย์สินดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2292/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอนสิทธิผู้ซื้อรถยนต์โดยสุจริตจากผู้ขาย จำเลยต้องรับผิดชำระราคาและค่าเสียหาย
โจทก์ซื้อรถยนต์โดยสุจริตจากจำเลยซึ่งเป็นพ่อค้าผู้ขายของชนิดนั้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มายึดรถยนต์นั้นจากโจทก์ไปเป็นของกลางในคดีอาญา และศาลอาญาพิพากษาให้คืนรถยนต์แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริงแม้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332โจทก์มีสิทธิ์ไม่จำต้องคืนรถยนต์ที่ซื้อขายให้แก่เจ้าของที่แท้จริงเว้นแต่เจ้าของจะชดใช้ราคาที่ซื้อมาแต่วัตถุประสงค์ของโจทก์ในการซื้อรถยนต์ก็เพื่อจะได้รถยนต์มาเป็นกรรมสิทธิ์ หาใช่เพื่อรับชดใช้ราคาคืนไม่ และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 475ก็มิได้ บัญญัติว่า ผู้ซื้อทรัพย์โดยสุจริตตามมาตรา 1332 ไม่ อยู่ในฐานะที่จะถูกรอนสิทธิดังนั้น เมื่อเจ้าของที่แท้จริงมารบกวนขัดสิทธิโจทก์ผู้ซื้อและโจทก์จำต้องคืนรถยนต์ให้ไปตามคำพิพากษาของศาลไม่ว่าโจทก์จะได้รับชดใช้ราคาที่ซื้อมาหรือมีสิทธิได้รับชดใช้ราคาหรือไม่ก็ต้องถือว่าโจทก์ถูกรอนสิทธิซึ่งจำเลยผู้ขายต้องรับผิดในผลนั้น
การที่โจทก์จำต้องยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดรถยนต์ไปและศาลอาญาได้พิพากษาให้คืนแก่เจ้าของที่แท้จริงไปแล้ว รถยนต์ที่ซื้อขายจึงหลุดไปจากโจทก์ผู้ซื้อ จำเลยผู้ขายต้องรับผิดชำระราคารถยนต์คืนให้โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 479 และใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ตามมาตรา 475
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 26/2515)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1074/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์: ผู้ซื้อที่ดินทิ้งร้าง ย่อมเสียสิทธิให้แก่ผู้ครอบครองทำประโยชน์ต่อเนื่อง
โจทก์ซื้อที่นามือเปล่าได้จากการขายทอดตลาดของศาลศาลได้ทำหนังสือถึงนายอำเภอมอบให้โจทก์เพื่อนำไปให้อำเภอทำสัญญาซื้อขายให้ แต่โจทก์ก็มิได้นำหนังสือของศาลไปให้อำเภอทำสัญญาซื้อขายแต่อย่างใด ส่วนที่นานั้นโจทก์คงปล่อยทิ้งร้างไว้มิได้เข้าครอบครองเลยหลังจากโจทก์ซื้อแล้ว จำเลยได้เข้าครอบครองที่นานั้นติดต่อกันมาเป็นเวลา 4 ปี ดังนี้ จำเลยย่อมได้ไปซึ่งสิทธิครอบครอง โจทก์จะฟ้องขับไล่จำเลยมิได้ และโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1895/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายทรัพย์สินที่ถูกลักมา ผู้ขายต้องรับผิดชอบการรอนสิทธิ ผู้ซื้อไม่ต้องชำระเงิน
มีผู้ลักปากกามาขายให้โจทก์ โจทก์ซื้อไว้แล้วนำมาขายให้กับจำเลยโดยจำเลยไม่รู้ ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจยึดปากกาไปจากจำเลยและคืนให้เจ้าของไป ถือว่าเป็นการรอนสิทธิจำเลยโจทก์ซึ่งเป็นผู้ขายต้องรับผิด จึงไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายเป็นค่าปากกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะขายที่ดินและการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ขาย ผู้ซื้อ และการจัดสรรที่ดิน โดยไม่ถือว่าเป็นการเชิดตัวแทน
จำเลยเคยทำหนังสือสัญญาจะขายที่ดินที่พิพาทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนดเลขที่ 1717 ของโจทก์ให้แก่ ด. มีข้อความในสัญญาจะขายว่าผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อมีสิทธิครอบครองเหนือที่ดินแปลงนี้และเข้าทำประโยชน์ได้ทุกอย่าง ผู้ขายจะไปทำการรังวัดแบ่งแยกชี้แนวเขตให้กับผู้ซื้อนั้นแม้จำเลยรู้ว่า ด. นำที่ดินดังกล่าวไปจัดสรรแบ่งขายตลอดจนกระทำการรังวัดแบ่งแยกที่ดินเป็นแปลง ๆ ในนามของจำเลยก็ดี ไม่พอที่จะถือว่าจำเลยเชิด ด. เป็นตัวแทนจัดสรรที่ดิน การรังวัดแบ่งแยกเป็นเรื่องที่จำเลยปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งจำเลยมีหน้าที่ไปทำการรังวัดแบ่งแยกให้ ด.
of 31