พบผลลัพธ์ทั้งหมด 266 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2242/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีเช็ค – ผู้ทรงเช็คที่แท้จริง – ผู้เสียหาย
จำเลยสั่งจ่ายเช็คชำระหนี้ให้แก่บริษัท ก.ซึ่งมีโจทก์เป็นผู้จัดการ บริษัท ก.จึงเป็นผู้ทรงเช็ค โจทก์ในฐานะส่วนตัวไม่ใช่ผู้ทรงเช็ค. เมื่อธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินโจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงวันออกเช็คโดยผู้จัดการมรดกหลังผู้ทรงเช็คถึงแก่กรรม และอายุความฟ้องร้อง
ย.ผู้ทรงเช็คพิพาทตายก่อนที่จะนำเช็คพิพาทไปขึ้นเงิน เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของ ย.พบเช็คพิพาท ปรากฏว่าเช็คพิพาทมิได้ลงวันออกเช็คโจทก์จึงกรอกวันเดือนปีในเช็คพิพาทนำเข้าบัญชีเรียกเก็บเงิน ดังนี้ การที่จำเลยเว้นวันออกเช็คพิพาทไว้ก็โดยเจนนาจะให้ ย. ลงวันออกเช็คเอาเองในภายหลังโจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกชอบที่จะลงวันออกเช็คพิพาทได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 910 ประกอบ มาตรา 989
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งมอบเช็คชำระหนี้ทำให้ผู้รับเช็คเป็นผู้ทรงเช็คแต่ผู้เดียว โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย
การที่โจทก์ส่งมอบเช็คพิพาทชำระหนี้ให้แก่ ก. ถือได้ว่าโจทก์ได้ส่งมอบเช็คให้แก่ ก. ไปแล้วทั้งฉบับ ก.จึงเป็นผู้ทรงเช็คนั้นทั้งฉบับ ส่วนที่โจทก์มีข้อตกลงกับ ก. อย่างไร(โจทก์อ้างว่าชำระหนี้ไม่เต็มจำนวนเงินในเช็ค) นั้น เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับ ก. เมื่อ ก.เป็นผู้ที่นำเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ก. ซึ่งเป็นผู้ทรงเช็คจึงเป็นผู้เสียหายแต่ผู้เดียวโจทก์หาใช่ผู้เสียหายด้วยไม่(โปรดดูคำพิพากษาฎีกาที่ 671/2516 เทียบเคียง)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3934/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาทหลังเลิกสัญญาเช่าซื้อ: ผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิเรียกร้องเงินจากผู้ทำเช็ค
จำเลยเช่าซื้อรถยนต์แต่แล้วผิดสัญญา เจ้าของยึดรถคืนเมื่อจำเลยได้ออกเช็คพิพาทชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างก่อนเลิกสัญญาเช่าซื้อ และเจ้าของรถสลักหลังเช็คให้โจทก์ก่อนบอกเลิกสัญญา โจทก์ได้รับโอนเช็คมาเป็นการชำระหนี้จึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อธนาคาร ปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3809/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ค่าขายลดเช็คที่ไม่สมบูรณ์ และผลกระทบต่อสิทธิของผู้ทรงเช็ค
จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็คพิพาทชำระหนี้แก่จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 สลักหลังแล้วมอบให้ ช. พนักงานของจำเลยที่ 2 นำไปขายลดแก่โจทก์ซึ่งเป็นบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ช. นำเช็คพิพาทไปเสนอต่อบริษัทโจทก์แล้วบอกแก่พนักงานของโจทก์ว่า จะออกไปข้างนอกสักครู่แล้วจะกลับมารับเงินค่าขายลดเช็ค ระหว่างนั้นมีผู้ปลอมตัวแต่งเครื่องแบบเป็นพนักงานของจำเลยที่ 2 นำดอกเบี้ยค่าขายลดเช็คมาชำระและขอรับเงินค่าขายลดเช็ค เมื่อ ช. กลับมาที่บริษัทโจทก์ปรากฏว่าโจทก์มอบเช็คค่าขายลดเช็คให้แก่บุคคลผู้นั้นไปและมีผู้นำเช็คนั้นไปขึ้นเงินไปแล้ว ดังนี้โจทก์ขาดความระมัดระวังเช่นบุคคลผู้ประกอบธุรกิจการเงินจะต้องใช้ความระมัดระวัง เป็นผู้ผิดในการชำระหนี้ค่าขายลดเช็คพิพาทให้แก่ผู้ไม่มีอำนาจรับ ถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้จ่ายเงินค่าขายลดเช็คให้แก่จำเลยที่ 2 ไปแล้ว การขายลดเช็คพิพาทไม่สมบูรณ์โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทเพราะจำเลยที่ 1 แจ้งอายัดไว้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ใช้เงินตามเช็คนั้น
(ตามแนวคำพิพากษาฎีกาที่ 1024/2525)
(ตามแนวคำพิพากษาฎีกาที่ 1024/2525)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3734/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: มูลหนี้สัญญาเช่าซื้อ, การโอนสิทธิเรียกร้อง, ผู้ทรงเช็คโดยชอบ
จำเลยเช่าซื้อรถยนต์จากห้าง ท. มีข้อสัญญาว่า เมื่อสัญญาเช่าซื้อสิ้นสุดลงจำเลยยินยอมชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างอยู่จนถึงวันบอกเลิกสัญญาจนครบ ปรากฏว่าเช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยออกเพื่อชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างก่อนห้าง ท. บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อจึงเป็นเช็คที่ออกเนื่องจากมีมูลหนี้ ผูกพันกัน ห้าง ท. สลักหลังโอนเช็คพิพาทชำระหนี้แก่โจทก์ โจทก์ จึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3503/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: ผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิเรียกร้องเงินจากผู้สั่งจ่าย แม้จะมีการอ้างเหตุหลอกลวง
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือซึ่งจำเลยรับว่าตนเป็นผู้สั่งจ่าย เมื่อปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมาย และจำเลยนำสืบรับฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับเช็คพิพาทมาโดยคบคิดกันฉ้อฉลกับ บ.ผู้ทรงคนก่อนผู้ซึ่งจำเลยอ้างว่าออกเช็คให้เพราะจำเลยถูกหลอกลวงจำเลยจึงไม่อาจยกเหตุดังกล่าวขึ้นต่อสู้โจทก์โดยอาศัยความเกี่ยวพันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยกับ บ. ได้ จำเลยย่อมต้องรับผิดชำระเงินให้แก่โจทก์ผู้ทรงตามเนื้อความในเช็คพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900 วรรคแรก,914
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3421/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: สิทธิผู้ทรงเช็ค, ความรับผิดของผู้สลักหลัง, และการคิดดอกเบี้ยเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
เช็คพิพาทเป็นเช็คอันสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ ย่อมโอนให้แก่กันได้โดยการส่งมอบ เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทไว้ในครอบครอง โจทก์จึงเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 ถึงแม้โจทก์จะสลักหลังโอนเช็คให้ ป. และ ป. นำเช็คไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารไม่ได้ ซึ่งถือว่า ป. เป็นผู้เสียหายในขณะที่เช็คถูกปฏิเสธการจ่ายเงินก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทคืนมา โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิเช่นเดียวกับผู้ทรงในการที่จะบังคับเอาแก่ผู้ที่มีความผูกพันอยู่แล้วก่อนตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 967 ประกอบกับมาตรา 989
การที่โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญา หาทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีแพ่งไปด้วยไม่
จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อไว้ที่ด้านหลังเช็ค ย่อมเป็นผู้สลักหลังเมื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังอยู่ก่อนโจทก์ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์
หนี้เงินตามเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินนั้น จะคิดดอกเบี้ยได้ตั้งแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งถือว่าจำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด จะคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ลงในเช็คหาได้ไม่
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 901/2505)
การที่โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญา หาทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีแพ่งไปด้วยไม่
จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อไว้ที่ด้านหลังเช็ค ย่อมเป็นผู้สลักหลังเมื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังอยู่ก่อนโจทก์ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์
หนี้เงินตามเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินนั้น จะคิดดอกเบี้ยได้ตั้งแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งถือว่าจำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด จะคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ลงในเช็คหาได้ไม่
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 901/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3421/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: สิทธิผู้ทรงเช็ค การโอนสิทธิ และความรับผิดของผู้สลักหลัง
เช็คพิพาทเป็นเช็คอันสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ ย่อมโอนให้แก่กันได้โดยการส่งมอบ เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทไว้ในครอบครอง โจทก์จึงเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 ถึงแม้โจทก์จะสลักหลังโอนเช็คให้ ป. และ ป. นำเช็คไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารไม่ได้ ซึ่งถือว่า ป. เป็นผู้เสียหายในขณะที่เช็คถูกปฏิเสธการจ่ายเงินก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ได้รับเช็คพิพาทคืนมา โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิเช่นเดียวกับผู้ทรงในการที่จะบังคับเอาแก่ผู้ที่มีความผูกพันอยู่แล้วก่อนตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 967ประกอบกับมาตรา 989
การที่โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญา หาทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีแพ่งไปด้วยไม่
จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อไว้ที่ด้านหลังเช็ค ย่อมเป็นผู้สลักหลังเมื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังอยู่ก่อนโจทก์ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์
หนี้เงินตามเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินนั้น จะคิดดอกเบี้ยได้ตั้งแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งถือว่าจำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด จะคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ลงในเช็คหาได้ไม่(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 901/2505)
การที่โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญา หาทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีแพ่งไปด้วยไม่
จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อไว้ที่ด้านหลังเช็ค ย่อมเป็นผู้สลักหลังเมื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังอยู่ก่อนโจทก์ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์
หนี้เงินตามเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินนั้น จะคิดดอกเบี้ยได้ตั้งแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งถือว่าจำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด จะคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ลงในเช็คหาได้ไม่(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 901/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1637/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขเช็คให้สูงขึ้นโดยไม่ประจักษ์ ผู้ทรงเช็คมีสิทธิเรียกเก็บเงินได้เฉพาะจำนวนเดิม การรับเงินส่วนเกินเป็นอันไม่มีมูล
ผู้สั่งจ่ายออกเช็คล่วงหน้าสั่งธนาคารโจทก์จ่ายเงินจำนวนหนึ่งแก่ ช.ต่อมาได้มีการแก้ไขจำนวนเงินในเช็คให้สูงขึ้น แล้ว ส. ได้นำเช็คดังกล่าวมามอบให้ธนาคารจำเลยเพื่อเป็นประกันหนี้เบิกเงินเกินบัญชีของ ส. ครั้นเช็คถึงกำหนดจำเลยได้เรียกเก็บเงินจากโจทก์หักล้างหนี้ของ ส.ต่อมาผู้สั่งจ่ายทราบจึงเรียกเงินคืนจากโจทก์ โจทก์ได้จ่ายเงินจำนวนที่ถูกแก้ไขให้สูงขึ้นแก่ผู้สั่งจ่ายแล้วมาฟ้องเรียกคืนจากจำเลย ดังนี้ เมื่อการแก้ไขเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าจึงเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่ไม่ประจักษ์ในข้อสำคัญ เมื่อผู้สั่งจ่ายไม่ได้รู้เห็นยินยอมในการแก้ไขด้วย จำเลยผู้ทรงเช็คย่อมมีสิทธิบังคับการใช้เงินตามเช็คได้เพียงจำนวนเงินเดิมก่อนมีการแก้ไขเท่านั้น จำนวนที่เกินเป็นการรับไว้โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ เมื่อโจทก์มิได้จ่ายเงินให้จำเลยรับไปตามอำเภอใจ แต่จ่ายไปโดยเชื่อว่าผู้สั่งจ่ายออกเช็คสั่งจ่ายเงินตามจำนวนที่แก้ไข จำเลยจึงต้องคืนเงินส่วนที่รับเกินมาแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันที่โจทก์แจ้งให้ทราบ
แม้ผู้สั่งจ่ายเขียนเช็คเว้นช่องว่างหน้าตัวเลขและตัวหนังสือจำนวนเงินไว้มากเป็นเหตุให้มีการเพิ่มเติมจำนวนเงินได้ง่าย แต่จำนวนเงินส่วนเกินที่จำเลยรับก็เป็นการรับไว้โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ หากจำเลยได้รับความเสียหายจากความประมาทเลินเล่อของผู้สั่งจ่ายอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องว่ากล่าวเอาแก่ผู้สั่งจ่าย
แม้ผู้สั่งจ่ายเขียนเช็คเว้นช่องว่างหน้าตัวเลขและตัวหนังสือจำนวนเงินไว้มากเป็นเหตุให้มีการเพิ่มเติมจำนวนเงินได้ง่าย แต่จำนวนเงินส่วนเกินที่จำเลยรับก็เป็นการรับไว้โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ หากจำเลยได้รับความเสียหายจากความประมาทเลินเล่อของผู้สั่งจ่ายอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องว่ากล่าวเอาแก่ผู้สั่งจ่าย