พบผลลัพธ์ทั้งหมด 241 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องคดีอาญาขัดแย้งในตัว ระบุความผิดยักยอกและลักทรัพย์ ทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหา
ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดฐานยักยอกหรือลักทรัพย์โดยบรรยายฟ้องในตอนต้นกล่าวหาว่า จำเลยรับมอบหมายทรัพย์แล้วยักยอกทรัพย์ แต่ตอนหลังกลับกล่าวหาว่าจำเลยลักทรัพย์แล้วอ้างบทมาตราขอให้ลงโทษทั้งความผิดฐานลักทรัพย์และยักยอกดังนี้ เป็นฟ้องที่ขัดแย้งกันอยู่ในตัว ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามฟ้องเป็นอย่างไรแน่ และจำเลยต้องหาว่าได้กระทำการอย่างใดแน่ อันจะเป็นความผิดฐานยักยอกหรือลักทรัพย์คำฟ้องเช่นนี้จึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5) วรรคแรก ศาลจะรับไว้พิจารณาเอาโทษจำเลยมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาความผิดส่วนตัว ต้องมีการร้องทุกข์ของผู้เสียหายอย่างถูกต้อง
ในคดีฐานทำให้เสียอิสรภาพนั้น แม้โจทก์จะกล่าวในฟ้องว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้ว และจำเลยไม่ได้ต่อสู้ว่า ไม่มีการร้องทุกข์ก็ดี หากทางพิจารณาได้ความเพียงผู้เสียหายไปแจ้งต่อเจ้าพนักงาน เฉพาะเรื่องทำร้ายยังฟังไม่ได้ว่า ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ในความผิดส่วนตัว อ้ยการไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาความผิดส่วนตัวต้องมีการร้องทุกข์ที่ชัดเจน อัยการจึงจะมีอำนาจฟ้อง
ในคดีฐานทำให้เสียอิสรภาพนั้นแม้โจทก์จะกล่าวในฟ้องว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้ว และจำเลยไม่ได้ต่อสู้ว่าไม่มีการร้องทุกข์ก็ดีหากทางพิจารณาได้ความเพียงผู้เสียหายไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานเฉพาะเรื่องถูกทำร้ายยังฟังไม่ได้ว่า ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ในความผิดส่วนตัว อัยการไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาโดยไม่มีการชันสูตรพลิกศพ และการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
กฎหมายหาได้ห้ามไม่ให้ฟ้องในกรณีที่ไม่มีการชันสุตรพลิกศพไม่ และแม้การชันสูตรพลิกศพจะไม่ชอบ ก็ไม่มีกฎหมายห้ามไม่ให้ฟ้อง
ศาลเดิมลงโทษจำคุกสิบปี ศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะกำหนดโทษให้จำคุก 5 ปีโดยมิได้แก้บท ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
ศาลเดิมลงโทษจำคุกสิบปี ศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะกำหนดโทษให้จำคุก 5 ปีโดยมิได้แก้บท ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 27/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาต้องสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่นำสืบ หากข้อเท็จจริงไม่สอดคล้องกัน แม้จำเลยไม่มีความผิด ศาลก็ไม่สามารถสั่งริบของกลางได้
คดีที่หาว่า จำเลยกระทำผิดพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวเมื่อข้อเท็จจริงที่ได้ความทางพิจารณาต่างกับที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และศาลต้องยกฟ้องแล้ว ศาลจะริบข้าวและเรือของกลางมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1699/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายลักษณะความผิดในฟ้องคดีอาญา ไม่จำต้องลอกเลียนตัวบท หากบรรยายครบถ้วนและถูกต้องตามกฎหมาย
การบรรยายฟ้องคดีอาญานั้นไม่จำต้องเขียนข้อความล้อหรือเลียนให้เหมือนถ้อยคำที่บัญญัตไว้ในตัวบทกฎหมาย เมื่อได้กล่าวบรรยายลักษณะของความผิดครบถ้วนและถูกต้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 แล้วก็ใช้ได้
การฟ้องคดีหาว่าจำเลยเบิกความเท็จนั้นแม้ในฟ้องจะมิได้ใช้คำว่าถ้อยคำที่จำเลยเบิกความนั้นจำเลยรู้อยู่ว่าเป็น เท็จแต่เมื่อถ้อยคำทั้งหลายในฟ้องแสดงให้เห็นชัดว่าจำเลยเบิกความโดยจงใจนำความเท็จมากล่าวว่าเป็นความ จริง ซึ่งเท่ากับเอาความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จมาเบิกความนั่นเอง ไม่มีความหมายผิดแผกแตกต่างอะไรกันฉะนั้นเมื่อฟ้องบรรยายลักษณะความผิดครบถ้วนและถูกต้องตามมาตรา 158 แห่ง ป.ม.วิ.อาญาแล้วก็ใช้ได้
การฟ้องคดีหาว่าจำเลยเบิกความเท็จนั้นแม้ในฟ้องจะมิได้ใช้คำว่าถ้อยคำที่จำเลยเบิกความนั้นจำเลยรู้อยู่ว่าเป็น เท็จแต่เมื่อถ้อยคำทั้งหลายในฟ้องแสดงให้เห็นชัดว่าจำเลยเบิกความโดยจงใจนำความเท็จมากล่าวว่าเป็นความ จริง ซึ่งเท่ากับเอาความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จมาเบิกความนั่นเอง ไม่มีความหมายผิดแผกแตกต่างอะไรกันฉะนั้นเมื่อฟ้องบรรยายลักษณะความผิดครบถ้วนและถูกต้องตามมาตรา 158 แห่ง ป.ม.วิ.อาญาแล้วก็ใช้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1699/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องคดีอาญา ไม่จำต้องใช้ถ้อยคำตามกฎหมาย หากบรรยายลักษณะความผิดครบถ้วน
การบรรยายฟ้องคดีอาญานั้น ไม่จำต้องเขียนข้อความล้อหรือเลียนให้เหมือนถ้อยคำที่บัญญัติไว้ในตัวบทกฎหมาย เมื่อได้กล่าวบรรยายลักษณะของความผิดครบถ้วนและถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้วก็ใช้ได้
การฟ้องคดีหาว่า จำเลยเบิกความเท็จนั้น แม้ในฟ้องจะมิได้ใช้คำว่า ถ้อยคำที่จำเลยเบิกความนั้นจำเลยรู้อยู่ว่าเป็นเท็จ แต่เมื่อถ้อยคำทั้งหลายในฟ้องแสดงให้เห็นชัดว่า จำเลยเบิกความโดยจงใจนำความเท็จมากล่าวว่าเป็นความจริง ซึ่งเท่ากับเอาความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จมาเบิกความนั่นเอง ไม่มีความหมายผิดแผกแตกต่างอะไรกัน ฉะนั้นเมื่อฟ้องบรรยายลักษณะความผิดครบถ้วนและถูกต้องตามมาตรา 158 แห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แล้วก็ใช้ได้
การฟ้องคดีหาว่า จำเลยเบิกความเท็จนั้น แม้ในฟ้องจะมิได้ใช้คำว่า ถ้อยคำที่จำเลยเบิกความนั้นจำเลยรู้อยู่ว่าเป็นเท็จ แต่เมื่อถ้อยคำทั้งหลายในฟ้องแสดงให้เห็นชัดว่า จำเลยเบิกความโดยจงใจนำความเท็จมากล่าวว่าเป็นความจริง ซึ่งเท่ากับเอาความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จมาเบิกความนั่นเอง ไม่มีความหมายผิดแผกแตกต่างอะไรกัน ฉะนั้นเมื่อฟ้องบรรยายลักษณะความผิดครบถ้วนและถูกต้องตามมาตรา 158 แห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แล้วก็ใช้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1610/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฟ้องคดีอาญา - การลงโทษเกินฟ้อง และการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยทำร้ายร่างกายเขามีบาดเจ็บ ถึงสาหัสแล้ว เขาทนพิษบาดแผลไม่ไหว ได้ถึงแก่ความตายในเวลาต่อมานั้นเอง ไม่มีข้อความว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเขาแม้ท้ายฟ้องจะระบุ กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 ก็ถือไม่ได้ว่า เป็นฟ้องที่ขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาคงถือได้ว่าเป็นฟ้องที่ขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 251 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 977/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชัณสูตรพลิกศพที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีอาญาฐานฆ่าคนได้
ปลัดอำเภอได้ทำการชัณสูตรบาดแผลผู้ตายไว้ก่อนตาย และเมื่อผู้ตายถึงแก่ความตาย ก็ได้บันทึกต่อไว้ว่า ตายเวลาไหน เพราะเหตุใด แต่ในการชัณสูตรนี้ไม่มีแพทย์ร่วมด้วย พฤตติการณ์ดังนี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องทำการชัณสูตรพลิกศพยังไม่เสร็จ เป็นแต่ทำไม่ถูกต้อง หรือเท่ากับไม่มีการชัณสูตรพลิกศพเลย โจทก์ย่อมฟ้องจำเลยในความผิดฐานฆ่าคนได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาและการรับรองคำร้องทุกข์ของผู้เสียหาย กรณีฉ้อโกงทรัพย์ของหน่วยงานราชการ
ตามกฎหมายไม่ได้บังคับไว้ว่า ฟ้องต้องบรรยายไว้ด้วยว่า ได้มีการสอบสวนแล้ว เมื่อคดีปรากฎว่า ก่อนฟ้องได้มีการสอบสวนแล้วก็เป็นอันใช้ได้.
ฉ้อโกงทรัพย์ของการไฟฟ้าหลวงสามเสน ซึ่งขึ้นอยู่แก่กรมโยธาเทศบาล ( ครั้งนั้นยังเป็นกรมโยธาธิการ ) อธิบดีแห่งกรมดังกล่าวย่อมร้องทุกข์ได้
คำร้องทุกข์ของอธิบดีกรมโยธาธิการ ซึ่งมีข้อความว่า "......ได้ทราบจากเจ้าพนักงานสอบสวนว่า คดีนายเทื้อมกับพวก ซึ่งต้องหาว่า ทุจจริตต่อหน้าที่และปลอมหนังสือนั้น ได้มีข้อหาเพิ่มเติมอีกว่า ทำการฉ้อโกงทรัพย์ด้วย ฉัน ในฐานะเป็นอธิบดีกรมโยธาธิการ จึงเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ ฉันขอมอบคดีฐานฉ้อโกงให้ตำรวจและอัยยการดำเนินคดีต่อไป. (ลงชื่อ ล.บูรกัมโกวิท) " เป็นคำร้องทุกข์ที่ชอบด้วยมาตรา 123 ป.ม.วิ.อาญาแล้ว.
ฉ้อโกงทรัพย์ของการไฟฟ้าหลวงสามเสน ซึ่งขึ้นอยู่แก่กรมโยธาเทศบาล ( ครั้งนั้นยังเป็นกรมโยธาธิการ ) อธิบดีแห่งกรมดังกล่าวย่อมร้องทุกข์ได้
คำร้องทุกข์ของอธิบดีกรมโยธาธิการ ซึ่งมีข้อความว่า "......ได้ทราบจากเจ้าพนักงานสอบสวนว่า คดีนายเทื้อมกับพวก ซึ่งต้องหาว่า ทุจจริตต่อหน้าที่และปลอมหนังสือนั้น ได้มีข้อหาเพิ่มเติมอีกว่า ทำการฉ้อโกงทรัพย์ด้วย ฉัน ในฐานะเป็นอธิบดีกรมโยธาธิการ จึงเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ ฉันขอมอบคดีฐานฉ้อโกงให้ตำรวจและอัยยการดำเนินคดีต่อไป. (ลงชื่อ ล.บูรกัมโกวิท) " เป็นคำร้องทุกข์ที่ชอบด้วยมาตรา 123 ป.ม.วิ.อาญาแล้ว.