คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ริบของกลาง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 468 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2178/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งนายกฯ เกี่ยวกับก๊าซหุงต้ม ศาลฎีกาพิพากษาให้ริบได้
จำเลยกระทำความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งของนายกรัฐมนตรีที่ 3/2529เรื่อง กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2529 ข้อ 20 ออกตามความในมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516 ซึ่งระบุว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดนำก๊าซที่บรรจุในถังก๊าซหุงต้มไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานพาหนะ หรือถ่ายก๊าซออกจากถังก๊าซหุงต้มนอกสถานที่บรรจุก๊าซ ไม่ว่าจะกระทำด้วยวิธีใด ๆ ทั้งสิ้น" อันเป็นคำสั่งที่ห้ามเด็ดขาดไม่มีข้อยกเว้นให้อนุญาตให้ทำได้ จึงเป็นความผิดอยู่ในตัวมิใช่อยู่ที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ดังนั้น เครื่องมือเครื่องใช้ในการถ่ายก๊าซ คือ เครื่องสูบก๊าซท่อพักก๊าซ ถังเก็บก๊าซและจ่ายก๊าซ ถังก๊าซหุงต้ม เศษเหล็กของถังก๊าซซึ่งระเบิดเสียหาย สายสูบก๊าซพร้อมหัวสูบ เครื่องชั่งน้ำหนัก แท่นรองถังก๊าซและรถยนต์บรรทุกถังก๊าซ ของกลาง จึงเป็นทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด ศาลมีอำนาจริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลริบของกลาง: รถยนต์ใช้ในการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
แม้ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 295 จะมิได้บัญญัติถึงการริบของกลางไว้ แต่ ก็มิได้บัญญัติถึง เรื่องนี้ไว้เป็นอย่างอื่นดังนั้น เมื่อจำเลยใช้ รถยนต์บรรทุกบรรทุกน้ำหนักเกินอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย รถยนต์บรรทุกจึงเป็นทรัพย์สินที่จำเลยได้ ใช้ในการกระทำความผิด ศาลมีอำนาจริบรถยนต์บรรทุกนั้นได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ประกอบด้วย มาตรา 17 การที่ศาลพิพากษาให้ริบรถยนต์บรรทุกของกลางซึ่ง โจทก์ขอให้ริบตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 นั้น ศาลย่อมเห็นแล้วว่ารถยนต์บรรทุกของกลางเป็นทรัพย์ที่ใช้ ในการกระทำความผิด แม้จะมิได้ระบุบทกฎหมาย ก็มิใช่กรณีศาลพิพากษาไม่ชอบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4716/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเล่นการพนันบิลเลียดในสมาคม: การรู้เห็นเป็นใจและการริบของกลาง
ในการเล่นการพนันบิลเลียด มีคนมุงดูเพื่อเล่นการพนันประมาณ40-50 คน หลังจากผู้เล่นแทงลูกบิลเลียดลงรูแล้วคนเล่นที่ยืนรอบโต๊ะได้จ่ายเงินกัน เจ้าพนักงานตำรวจจึงเข้าจับกุมผู้แทงบิลเลียดพร้อมเงินสินพนันถึง 500 บาท ซึ่งมิใช่การเล่นพนันบิลเลียดเฉพาะตัวผู้แทงเท่านั้น จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการเล่นการพนันบิลเลียดเพื่อความรื่นเริงในสมาคมไม่อยู่ในบังคับของกฎกระทรวง ฉบับที่ 18 ข้อ 5ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 วรรค 3ดังนั้นบรรดาเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นการพนันก็ต้องริบตามพระราชบัญญัติ การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 10 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3349/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางและความรับผิดของผู้ให้ยืมเมื่อรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิด
เมื่ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางเป็นทรัพย์ที่ได้ใช้ในการกระทำความผิด และศาลสั่งริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 แม้โจทก์จะมิได้ขอให้ริบของกลางแต่เมื่อคู่ความมิได้อุทธรณ์และคดีถึงที่สุดแล้ว การขอคืนของกลางดังกล่าวย่อมตกอยู่ในบังคับแห่ง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36และในชั้นขอคืนของกลาง เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด ผู้ร้องจึงไม่อาจขอคืนของกลางได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2681/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโต้แย้งดุลพินิจศาลอุทธรณ์เรื่องการริบของกลางในคดีขับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน เป็นฎีกาต้องห้าม
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจำเลย 1,000 บาท และไม่ริบของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะของกลางเป็นให้ริบ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จำเลยฎีกาขอให้ไม่ริบของกลางเป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาล เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2681/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำพิพากษาเรื่องการริบของกลาง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากเป็นการโต้เถียงดุลพินิจและเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องห้ามฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจำเลย 1,000 บาท และไม่ริบของกลางศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะของกลางเป็นให้ริบ เป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จำเลยฎีกาขอให้ไม่ริบของกลาง เป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาล เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1028/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเล่นบิลเลียดเพื่อความรื่นเริงในสมาคมโดยไม่ผิด พ.ร.บ.การพนัน และการริบของกลาง
การเล่นการพนันบิลเลียดเพื่อความรื่นเริงในสมาคมที่สมาคมผู้ร้องซึ่งมีโต๊ะบิลเลียดทั้งหมด 5 โต๊ะเรียกเก็บค่าเกมตามสมควร ย่อมอยู่ในบังคับของกฎกระทรวงที่ให้จัดขึ้นได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตอันสามารถเล่นการพนันกันได้ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 วรรคสาม โต๊ะบิลเลียดลูกบิลเลียด และไม้คิวของกลางที่ผู้ร้องขอคืนจึงไม่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นการพนันโดยขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวซึ่งมาตรา 10 วรรคสอง บัญญัติให้ศาลมีอำนาจริบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1028/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเล่นบิลเลียดเพื่อความรื่นเริงในสมาคมโดยไม่ผิด พ.ร.บ.การพนัน การริบของกลาง
การเล่นการพนันบิลเลียดเพื่อความรื่นเริงในสมาคมที่สมาคมผู้ร้องซึ่งมีโต๊ะบิลเลียดทั้งหมด 5 โต๊ะเรียกเก็บค่าเกม ตามสมควรย่อมอยู่ในบังคับของกฎกระทรวงที่ให้จัดขึ้นได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตอันสามารถเล่นการพนันกันได้ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478มาตรา 4 วรรคสาม โต๊ะบิลเลียด ลูกบิลเลียด และไม้คิว ของกลางที่ผู้ร้องขอคืนจึงไม่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นการพนันโดยขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวซึ่งมาตรา 10 วรรคสองบัญญัติให้ศาลมีอำนาจริบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขฐานการริบของกลางในคดีอาญา จากมาตรา 32 เป็นมาตรา 33 เนื่องจากของกลางใช้ในการกระทำผิด
ของกลางเป็นทรัพย์สินที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดการที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ริบของกลางตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 จึงไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาแก้ไขให้ถูกต้องโดยปรับบทริบตามมาตรา 33.(ที่มา-เนติ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5877/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ผู้อื่นกระทำความผิดและประเด็นการริบของกลาง ศาลฎีกาวินิจฉัยการปรับบทลงโทษและอำนาจริบ
โจทก์อ้างผู้ที่จำเลยใช้ให้กระทำความผิดซึ่งถูกฟ้องในอีกคดีหนึ่งมาเป็นพยานโจทก์ในคดีที่จำเลยถูกฟ้องฐานเป็น ผู้ใช้ได้ ไม่ถือว่าเป็นการอ้างจำเลยเป็นพยานอันต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 232
ศาลจะสั่งริบของกลางซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้ริบไว้แล้วในอีกคดีหนึ่งไม่ได้
เมื่อปรับบทลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 แล้วก็ไม่ต้องปรับบทลงโทษตามมาตรา 288 อีก
of 47