พบผลลัพธ์ทั้งหมด 247 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 250/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมรสที่จดทะเบียนแล้วมีผลสมบูรณ์จนกว่าศาลพิพากษาเป็นอื่น แม้มีการได้เสียกับผู้อื่นภายหลัง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1488 หมายความว่าตราบใดที่ศาลยังไม่ได้พิพากษาว่า การสมรสเป็นโมฆะหรือโมฆียะ การสมรสที่จดทะเบียนแล้วย่อมสมบูรณ์อยู่เสมอ ส่วนมาตรา 1445(3)(4) เป็นแต่เพียงเหตุที่จะฟ้องขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าการสมรสที่ได้จดทะเบียนแล้วเป็นโมฆะหาใช่เหตุที่แสดงในตัวเองว่า การสมรสเป็นโมฆะไม่
โจทก์เป็นภริยาของนายถนอมอยู่ตั้งแต่พ.ศ.2480 โดยจดทะเบียนสมรสกันแม้ต่อมานายถนอมจะได้ตายไป แล้วโจทก์มาได้เสียกับนายธรรมอีก ภายหลังใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ5 แล้ว การได้เสียกันดังนี้ ไม่ทำให้โจทก์เป็นภริยานายธรรม โจทก์จึงไม่ใช่ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายธรรมในเวลาที่นายธรรมถึงแก่ความตาย
โจทก์เป็นภริยาของนายถนอมอยู่ตั้งแต่พ.ศ.2480 โดยจดทะเบียนสมรสกันแม้ต่อมานายถนอมจะได้ตายไป แล้วโจทก์มาได้เสียกับนายธรรมอีก ภายหลังใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ5 แล้ว การได้เสียกันดังนี้ ไม่ทำให้โจทก์เป็นภริยานายธรรม โจทก์จึงไม่ใช่ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายธรรมในเวลาที่นายธรรมถึงแก่ความตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 443/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญชาติไทยไม่สิ้นสุดจากการสมรสกับชาวจีนและการถือใบสำคัญคนต่างด้าว
ตามกฎหมายจีนว่าด้วยสัญชาติฉบับลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1929 หญิงต่างประเทศสมรสกับคนสัญชาติจีน ยังหาได้เข้าถือสัญชาติจีนทีเดียวไม่ นอกจากทำคำร้องยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ขอถือเอาสัญชาติจีนและได้รับอนุมัติจากกระทรวงมหาดไทยจีนด้วย จึงจะมีสัญชาติจีนตามสามีได้
หญิงไทยแต่งงานกับชายสัญชาติจีนยังไม่ขาดจากสัญชาติไทยเพราะยังมิได้ขอเข้าถือเอาสัญชาติจีนตามสามีแม้จะขอใบสำคัญประจำคนต่างด้าวไว้ย่อมไม่เป็นการรับใบสำคัญตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าวและไม่ขาดจากสัญชาติไทยตามมาตรา 16 ทวิ พระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่2) พ.ศ.2496 เพราะกฎหมายฉบับนี้ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2499 แล้ว และเป็นกรณีไม่มีการสมัครใจ จึงไม่มี ความผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำคนต่างด้าว
(อ้างฎีกาที่ 1576ถึง1590/2498)
หญิงไทยแต่งงานกับชายสัญชาติจีนยังไม่ขาดจากสัญชาติไทยเพราะยังมิได้ขอเข้าถือเอาสัญชาติจีนตามสามีแม้จะขอใบสำคัญประจำคนต่างด้าวไว้ย่อมไม่เป็นการรับใบสำคัญตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าวและไม่ขาดจากสัญชาติไทยตามมาตรา 16 ทวิ พระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่2) พ.ศ.2496 เพราะกฎหมายฉบับนี้ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2499 แล้ว และเป็นกรณีไม่มีการสมัครใจ จึงไม่มี ความผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำคนต่างด้าว
(อ้างฎีกาที่ 1576ถึง1590/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 806/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทนในการสมรส การครอบครองที่ดิน และอำนาจฟ้องคดี
มารดาหญิงตกลงยกที่ดินมีโฉนดให้เป็นกองทุน ชายก็มีเงินเป็นกองทุน ดังนี้ เป็นสัญญาต่างตอบแทนไม่ใช่ให้โดยเสน่หา เมื่อสมรสแล้วชายฟ้องบังคับให้โอนโฉนดได้
บุตรเขยฟ้องมารดาของภริยาให้โอนที่ดินกองทุนได้ไม่เป็นอุทลุม
โจทก์สืบพยานได้ 4 ปาก ศาลสั่งงดไม่สืบพยานต่อไปพิพากษายกฟ้อง ในส่วนข้อเท็จจริงวินิจฉัยว่าพยานเบิกความแตกต่างกันฟังไม่ได้ แต่โจทก์ยังขอสืบพยานในข้อเดียวกันและข้ออื่นอีก ศาลจะรู้ได้อย่างไรว่าพยานที่จะสืบต่อไปฟังไม่ได้ จึงต้องให้คู่ความสืบพยานต่อไป แล้วพิพากษาใหม่
บุตรเขยฟ้องมารดาของภริยาให้โอนที่ดินกองทุนได้ไม่เป็นอุทลุม
โจทก์สืบพยานได้ 4 ปาก ศาลสั่งงดไม่สืบพยานต่อไปพิพากษายกฟ้อง ในส่วนข้อเท็จจริงวินิจฉัยว่าพยานเบิกความแตกต่างกันฟังไม่ได้ แต่โจทก์ยังขอสืบพยานในข้อเดียวกันและข้ออื่นอีก ศาลจะรู้ได้อย่างไรว่าพยานที่จะสืบต่อไปฟังไม่ได้ จึงต้องให้คู่ความสืบพยานต่อไป แล้วพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723-737/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสียสัญชาติจากการสมรสกับชาวต่างชาติและสถานะคนต่างด้าว: การพิสูจน์สัญชาติของคู่สมรสและการแจ้งสถานะ
การที่จำเลยแต่งงานกับคนต่างด้าว (จีน) อันจะทำให้จำเลยศูนย์เสียสัญชาติตาม ม.4 แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ. 2456 นั้น โจทก์จะต้องสืบให้แน่ชัดว่า ข้อเท็จจริงที่ว่า ในขณะที่แต่งงานกฎหมายสัญชาติของคู่แต่งงานของจำเลยบัญญัติ ให้จำเลยมีสัญชาติของสามี มิฉะนั้นศาลไม่ถือว่าจำเลยศูนย์เสียสัญชาติเพราะการแต่งงาน
แม้เมื่อจำเลยแต่งงานกับคนต่างด้าวแล้วเข้าใจผิดว่าตนศูนย์เสียสัญชาติและไปรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมา ก็ไม่ทำให้จำเลยกลายเป็นคนต่างด้าว อันจะต้องต่อใบสำคัญเมื่อหมดอายุ
การที่จำเลยไปรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หากจะเป็นกรณีเข้า ม.5 แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.2496 ซึ่งบัญญัติ ให้จำเลยกลายเป็นคนต่างด้าว ก็เป็นเรื่องต้องถือว่าจำเลยเพิ่งเป็นคนต่างด้าวเมื่อใช้ พ.ร.บ.สัญชาติ พงศ. 2496 ซึ่ง จำเลยจะต้องไปแจ้งความเพื่อขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวจากเจ้าพนักงานใน 30 วัน จำเลยไม่ไปจัดการดังกล่าวก็ย่อมมีผิด แต่ข้อนี้โจทก์ไม่ได้ฟ้องมา จึงลงโทษจำเลยยังไม่ได้
แม้เมื่อจำเลยแต่งงานกับคนต่างด้าวแล้วเข้าใจผิดว่าตนศูนย์เสียสัญชาติและไปรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมา ก็ไม่ทำให้จำเลยกลายเป็นคนต่างด้าว อันจะต้องต่อใบสำคัญเมื่อหมดอายุ
การที่จำเลยไปรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หากจะเป็นกรณีเข้า ม.5 แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.2496 ซึ่งบัญญัติ ให้จำเลยกลายเป็นคนต่างด้าว ก็เป็นเรื่องต้องถือว่าจำเลยเพิ่งเป็นคนต่างด้าวเมื่อใช้ พ.ร.บ.สัญชาติ พงศ. 2496 ซึ่ง จำเลยจะต้องไปแจ้งความเพื่อขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวจากเจ้าพนักงานใน 30 วัน จำเลยไม่ไปจัดการดังกล่าวก็ย่อมมีผิด แต่ข้อนี้โจทก์ไม่ได้ฟ้องมา จึงลงโทษจำเลยยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723-737/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสูญเสียสัญชาติจากการสมรสกับชาวต่างชาติ และผลของการไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว
การที่จำเลยแต่งงานกับคนต่างด้าว(จีน) อันจะทำให้จำเลยศูนย์เสียสัญชาติตาม มาตรา4 แห่ง พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2456 นั้นโจทก์จะต้องสืบให้แน่ชัดว่า ข้อเท็จจริงที่ว่าในขณะที่แต่งงานกฎหมายสัญชาติของคู่แต่งงานของจำเลยบัญญัติให้จำเลยมีสัญชาติของสามี มิฉะนั้นศาลไม่ถือว่าจำเลยสูญเสียสัญชาติเพราะการแต่งงาน
แม้เมื่อจำเลยแต่งงานกับคนต่างด้าวแล้วเข้าใจผิดว่าตนสูญเสียสัญชาติและไปรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมาก็ไม่ทำให้จำเลยกลายเป็นคนต่างด้าว อันจะต้องต่อใบสำคัญเมื่อหมดอายุ
การที่จำเลยไปรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวหากจะเป็นกรณีเข้า มาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2496 ซึ่งบัญญัติให้จำเลยกลายเป็นคนต่างด้าวก็เป็นเรื่องต้องถือว่าจำเลยเพิ่งเป็นคนต่างด้าวเมื่อใช้พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2496 ซึ่งจำเลยจะต้องไปแจ้งความเพื่อขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวจากเจ้าพนักงานใน 30 วัน จำเลยไม่ไปจัดการดังกล่าวก็ย่อมมีผิดแต่ข้อนี้โจทก์ไม่ได้ฟ้องมา จึงลงโทษจำเลยยังไม่ได้
แม้เมื่อจำเลยแต่งงานกับคนต่างด้าวแล้วเข้าใจผิดว่าตนสูญเสียสัญชาติและไปรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมาก็ไม่ทำให้จำเลยกลายเป็นคนต่างด้าว อันจะต้องต่อใบสำคัญเมื่อหมดอายุ
การที่จำเลยไปรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวหากจะเป็นกรณีเข้า มาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2496 ซึ่งบัญญัติให้จำเลยกลายเป็นคนต่างด้าวก็เป็นเรื่องต้องถือว่าจำเลยเพิ่งเป็นคนต่างด้าวเมื่อใช้พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2496 ซึ่งจำเลยจะต้องไปแจ้งความเพื่อขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวจากเจ้าพนักงานใน 30 วัน จำเลยไม่ไปจัดการดังกล่าวก็ย่อมมีผิดแต่ข้อนี้โจทก์ไม่ได้ฟ้องมา จึงลงโทษจำเลยยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1291/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์: การสมรสหลังใช้กฎหมายใหม่และการบังคับจดทะเบียน
โจทก์จำเลยจดทะเบียนสมรสกันภายหลังใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ต่อมาได้ตกลงทำหนังสือหย่ากันไว้โดยความยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย และมีพยานลงลายมือชื่อ 2 คนถูกต้องตาม มาตรา 1498 วรรคสอง แต่จำเลยบิดพริ้วไม่ยอมไปจดทะเบียนการหย่าตามมาตรา 1499 โจทก์ย่อมฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยไปจดทะเบียนการหย่าเพื่อความสมบูรณ์ตาม มาตรา 1499 ได้ และถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตาม ก็ให้ถือคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 213
ถ้าผัวเมียสมรสกันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 หนังสือหย่านี้จะใช้ได้สมบูรณ์ทันทีในขณะได้ทำหนังสือสัญญาหย่านี้เสร็จ(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2500)
ถ้าผัวเมียสมรสกันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 หนังสือหย่านี้จะใช้ได้สมบูรณ์ทันทีในขณะได้ทำหนังสือสัญญาหย่านี้เสร็จ(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2500)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1741/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญชาติไทยไม่สิ้นสุดเมื่อสมรสกับชาวต่างชาติและไม่ได้สัญชาติสามี
หญิงเกิดในราชอาณาจักรไทยแต่บิดาเป็นคนต่างด้าว ได้ทำการสมรสกับคนต่างด้าวแต่ไม่ปรากฎว่า ก.ม.ของประเทศสามียอมให้หญิงนั้นเข้าถือเอาสัญชาติของสามีได้ หญิงนั้นย่อมยังเป็นคนสัญชาติไทยอยู่ แม้ว่าจะได้ไปขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมาแล้ว ก็เป็นการได้ใบสำคัญมาโดยมิชอบด้วย ก.ม.ไม่มีหน้าที่ต้องไปต่ออายุใบสำคัญนั้นอีก และแม้ถ้าจะถือว่าหญิงนั้นได้ขาดสัญชาติไทยไปตาม พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ. 2495 ม.16 ทวิ แล้วก็ตามหากหญิงนั้นจะมีผิดก็ย่อมจะเป็นผิดฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตาม พ.ร.บ.การทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2493 ม.8 ไม่มีผิด ฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1741/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะสัญชาติหลังสมรสกับคนต่างด้าว และการถือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวโดยมิชอบ
หญิงเกิดในราชอาณาจักรไทยแต่บิดาเป็นคนต่างด้าว ได้ทำการสมรสกับคนต่างด้าวแต่ไม่ปรากฏว่า กฎหมาย ของประเทศสามียอมให้หญิงนั้นเข้าถือเอาสัญชาติของสามีได้ หญิงนั้นย่อมยังเป็นคนสัญชาติไทยอยู่ แม้ว่าจะได้ไปขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมาแล้วก็เป็นการได้ใบสำคัญมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีหน้าที่ต้องไปต่ออายุใบสำคัญนั้นอีก และแม้ถ้าจะถือว่าหญิงนั้นได้ขาดสัญชาติไทยไปตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2495 มาตรา 16ทวิ แล้วก็ตาม หากหญิงนั้นจะมีผิดก็ย่อมจะเป็นผิดฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตาม พระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ.2493 มาตรา 8 ไม่มีผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1741/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะสัญชาติกรณีสมรสกับคนต่างด้าวและการขอใบสำคัญคนต่างด้าว
หญิงเกิดในราชอาณาจักรไทยแต่บิดาเป็นคนต่างด้าว ได้ทำการสมรสกับคนต่างด้าวแต่ไม่ปรากฏว่า กฎหมาย ของประเทศสามียอมให้หญิงนั้นเข้าถือเอาสัญชาติของสามีได้ หญิงนั้นย่อมยังเป็นคนสัญชาติไทยอยู่ แม้ว่าจะได้ไปขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมาแล้วก็เป็นการได้ใบสำคัญมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีหน้าที่ต้องไปต่ออายุใบสำคัญนั้นอีก และแม้ถ้าจะถือว่าหญิงนั้นได้ขาดสัญชาติไทยไปตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2495 มาตรา 16ทวิ แล้วก็ตาม หากหญิงนั้นจะมีผิดก็ย่อมจะเป็นผิดฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตาม พระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ.2493 มาตรา 8 ไม่มีผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1661/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญชาติไทยไม่สิ้นสุดจากการสมรสกับชาวต่างชาติและการรับใบสำคัญคนต่างด้าว
เมื่อโจทก์อ้างว่าจำเลยเสียสัญชาติไทยโดยการสมรสกับคนต่างด้าว ดังนี้ปัญหาที่ว่าจำเลยยังเป็นคนไทยหรือต่างด้าวนั้นต้องพิจารณาตาม พ.ร.บ.สัญชาติซึ่งใช้อยู่ขณะจำเลยทำการสมรส กล่าวคือ พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ. 2456 ม.4เมื่อโจทก์ไม่ได้สืบตาม พ.ร.บ.นี้ให้ปรากฎว่า ก.ม.แห่งสัญชาติสามีบัญญัติให้หญิงไทยถือเอาสัญชาติของสามีได้ ดังนี้ถือว่าจำเลยสละสัญชาติไทยแล้วไม่ได้
พ.ร.บ.การทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2479 ม.7 ซึ่งบัญญัติว่า "หญิงซึ่งมีสัญชาติไทย ถ้าต้องสละสัญชาติไทยเพราะสมรสกับคนต่างด้าวให้ไปขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว" นั้นหาได้หมายความว่าหญิงไทยที่สมรสกับคนต่างด้าวและไปขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแล้วถือว่าสละสัญชาติไทยไม่
เมื่อถือว่าจำเลยไม่ได้สละสัญชาติไทยคือยังเป็นคนไทยอยู่ก็ไม่จำต้องให้จำเลยร้องฟ้องขอให้ได้มาซึ่งสัญชาติหรือฟ้งอร้องผู้โต้แย้งตนว่าไม่ใช่คนไทย
พ.ร.บ.การทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2479 ม.7 ซึ่งบัญญัติว่า "หญิงซึ่งมีสัญชาติไทย ถ้าต้องสละสัญชาติไทยเพราะสมรสกับคนต่างด้าวให้ไปขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว" นั้นหาได้หมายความว่าหญิงไทยที่สมรสกับคนต่างด้าวและไปขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแล้วถือว่าสละสัญชาติไทยไม่
เมื่อถือว่าจำเลยไม่ได้สละสัญชาติไทยคือยังเป็นคนไทยอยู่ก็ไม่จำต้องให้จำเลยร้องฟ้องขอให้ได้มาซึ่งสัญชาติหรือฟ้งอร้องผู้โต้แย้งตนว่าไม่ใช่คนไทย