คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ห้างหุ้นส่วน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 230 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1159/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญและการชำระบัญชีทรัพย์สินหลังการบอกเลิก
โจทก์จำเลยได้เข้าหุ้นส่วนกันซื้อโคกระบือส่งไปขายเพื่อเอากำไรแบ่งกันตามส่วนของเงินที่ลงทุน แม้ในสัญญาลงเข้าหุ้น จำเลยบอกโจทก์ด้วยว่าถ้ากิจการขาดทุนจะแบ่งเงินเป็นกำไรให้โจทก์ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 2,000 บาท ก็เป็นแต่เพียงคำรับรองของจำเลยต่อโจทก์เท่านั้นมิใช่ว่ากรณีจะไม่เข้าบทบัญญัติมาตรา 1025 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อันโจทก์จะไม่ต้องรับผิดชอบสำหรับหนี้ของห้างหุ้นส่วนต่อบุคคลภายนอกหามิได้
เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้หนึ่งบอกเลิกห้างหุ้นส่วนแล้ว ห้างหุ้นส่วนย่อมเลิกกันและตั้งผู้ชำระบัญชี แต่คำขอของโจทก์ที่ขอให้ให้จำเลยคืนเงินลงทุนของโจทก์ 62,500 บาทนั้น เนื่องจากจะต้องมีการชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนเสียก่อน จึงเป็นเรื่องที่ศาลจะสั่งคืนให้โจทก์ยังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 916/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ และผลของการผ่อนชำระหนี้ต่ออายุความ
จำเลยรับฝากผ้าไปขายและซื้อเชื่อผ้าไปจากร้านศิริเอเซียซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน มีโจทก์และโจทก์ร่วมเป็นหุ้นส่วนกัน แม้จำเลยจะอ้างว่าโจทก์จะไม่มีอำนาจฟ้องเรียกหนี้ในนามของตนเองแต่ผู้เดียว แต่ภายหลังโจทก์ร่วมขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม การฟ้องเรียกหนี้จึงเป็นการเรียกร้องเพื่อประโยชน์แก่ผู้เป็นหุ้นส่วนด้วยทุกคน โจทก์และโจทก์ร่วมย่อมมีสิทธิฟ้องได้
เมื่อจำเลยผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์ อายุความย่อมสะดุดหยุดลงและสิทธิเรียกร้องของโจทก์ไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าระงับเมื่อห้างหุ้นส่วนสิ้นสภาพบุคคล แม้ไม่มีการชำระบัญชี
ห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยเช่าตึกแถวพิพาทจากโจทก์เพื่อทำการค้าต่อมาผู้จัดการห้างจำเลยซึ่งเป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดถึงแก่กรรมเมื่อคดีไม่มีประเด็นเรื่องการเลิกห้างโดยมีการชำระบัญชีจึงย่อมจะถือว่าห้างจำเลยยังคงตั้งอยู่เท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชีไม่ได้และเมื่อห้างจำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าตึกรายนี้สิ้นสภาพบุคคลแล้วสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับห้างจำเลยก็ย่อมเป็นอันระงับไปบริวารของห้างจำเลยจึงย่อมไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในตึกแถวของโจทก์ได้โดยชอบต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 141/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระบัญชีห้างหุ้นส่วน: สิทธิฟ้องร้องก่อนปฏิบัติตามขั้นตอนตามกฎหมาย
ผู้เป็นหุ้นส่วนฟ้องห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียนเป็นจำเลยว่า ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนตกลงเลิกห้างหุ้นส่วนแต่ยังมิได้จดทะเบียนเลิกและชำระบัญชี โจทก์เตือนให้ไปจัดการ จำเลยก็เพิกเฉย ขอให้บังคับ จำเลยให้การแต่เพียงว่าผู้เป็นหุ้นส่วนได้ตกลงกันแบ่งทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนกันเอง หนี้สินของห้างหุ้นส่วนก็ไม่มี เป็นการเลิกและชำระบัญชีกันเองเสร็จแล้ว ไม่จำเป็นที่จะขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีตามฟ้องแล้ว ดังนี้ ในชั้นฎีกาจำเลยจะยกปัญหาเรื่องคำฟ้องของโจทก์ขึ้นฎีกาว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1061, 1251 หาใช่ห้างหุ้นส่วนเป็นผู้จัดการชำระบัญชีไม่ คำฟ้องของโจทก์กล่าวแต่เพียงว่าจำเลยไม่จัดการชำระบัญชี ต้องถือว่าโจทก์มิได้ปฏิบัติตามกฎหมายใน 2 มาตรานั้นก่อน จึงไม่มีสิทธินำคดีมาฟ้อง ดังนี้หาได้ไม่
ฟ้องของโจทก์กล่าวว่า ได้เตือนให้จำเลยไปจัดการจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนและชำระบัญชีกับตั้งผู้ชำระบัญชี แต่จำเลยเพิกเฉย ดังนี้ถือได้ว่า จำเลยไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 1061 แล้ว โจทก์ชอบที่จะนำคดีมาฟ้องได้ ส่วนการตั้งผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนที่จดทะเบียนต้องใช้มาตรา 1251 โจทก์มีอำานจฟ้องขอให้ตั้งกองหมายเป็นผู้ชำระบัญชีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 141/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องบังคับชำระบัญชีห้างหุ้นส่วน: สิทธิโจทก์เมื่อจำเลยเพิกเฉยต่อการชำระบัญชีตามกฎหมาย
ผู้เป็นหุ้นส่วนฟ้องห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียนเป็นจำเลยว่าผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนตกลงเลิกห้างหุ้นส่วน แต่ยังมิได้จดทะเบียนเลิกและชำระบัญชีโจทก์เตือนให้ไปจัดการ จำเลยก็เพิกเฉย ขอให้บังคับ จำเลยให้การแต่เพียงว่าผู้เป็นหุ้นส่วนได้ตกลงกันแบ่งทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนกันเองหนี้สินของห้างหุ้นส่วนก็ไม่มี เป็นการเลิกและชำระบัญชีกันเองเสร็จแล้ว ไม่จำเป็นที่จะขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีตามฟ้องแล้ว ดังนี้ ในชั้นฎีกาจำเลยจะยกปัญหาเรื่องคำฟ้องของโจทก์ขึ้นฎีกาว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1061,1251 หาใช่ห้างหุ้นส่วนเป็นผู้จัดการชำระบัญชีไม่ คำฟ้องของโจทก์กล่าวแต่เพียงว่าจำเลยไม่จัดการชำระบัญชีต้องถือว่าโจทก์มิได้ปฏิบัติตามความหมายใน 2มาตรานั้นก่อน จึงไม่มีสิทธินำคดีมาฟ้อง ดังนี้หาได้ไม่
ฟ้องของโจทก์กล่าวว่า ได้เตือนให้จำเลยไปจัดการจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนและชำระบัญชีกับตั้งผู้ชำระบัญชีแต่จำเลยเพิกเฉย ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 1061 แล้ว โจทก์ชอบที่จะนำคดีมาฟ้องได้ ส่วนการตั้งผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนที่จดทะเบียนต้องใช้มาตรา 1251 โจทก์มีอำนาจฟ้องขอให้ตั้งกองหมายเป็นผู้ชำระบัญชีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 125/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิไม่สุจริตในการต่อสู้คดี และการตีความกฎหมายเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนที่ไม่จดทะเบียน
ในศาลชั้นต้นไม่ได้ต่อสู้ว่าวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนผิดกฎหมาย แต่ครั้นแพ้คดีจึงยกขึ้น เช่นนี้ เป็นการใช้สิทธิแห่งตนไม่สุจริต
พระราชบัญญัติควบคุมการได้มาซึ่งที่ดินโดยห้างหุ้นส่วน ฯลฯ พ.ศ. 2485 และประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 นั้น เป็นกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน เพราะมีข้อห้ามกำหนดโทษเป็นความผิดทางอาญาไว้ แต่คำว่า "ห้างหุ้นส่วน" ในพระราชบัญญัติดังกล่าวนี้ หมายถึงห้างหุ้นส่วนที่จดทะเบียน อันถือว่าเป็นนิติบุคคล เพราะห้างหุ้นส่วนที่ไม่ได้จดทะเบียนย่อมไม่อาจได้มาซึ่งที่ดินและไม่อยู่ในฐานะที่จะถูกลงโทษทางอาญา ดังนั้น หุ้นส่วนรายนี้จึงไม่อยู่ในบังคับพระราชบัญญัติฉบับนี้ และตามความในประมวลกฎหมายที่ดินนั้น ห้างหุ้นส่วนนั้นต้องเป็นห้างหุ้นส่วนที่จดทะเบียนแล้ว การที่ทนายความแถลงรับข้อเท็จจริงนั้น ถือว่าเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาตามรูปความ มิใช่จำหน่ายสิทธิ ดังนั้นตัวความจะคัดค้านมิได้ เมื่อไม่ยกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1055 (5) ขึ้นต่อสู้ในศาลชั้นต้น การที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยจึงชอบแล้ว เพราะไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 125/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิไม่สุจริตในการต่อสู้คดี และการตีความกฎหมายเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนในการได้มาซึ่งที่ดิน
ในศาลชั้นต้นไม่ได้ต่อสู้ว่าวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนผิดกฎหมาย แต่ครั้นแพ้คดีจึงยกขึ้น เช่นนี้ เป็นการใช้สิทธิแห่งตนไม่สุจริต
พระราชบัญญัติควบคุมการได้มาซึ่งที่ดินโดยห้างหุ้นส่วนฯลฯพ.ศ.2485 และประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 นั้น เป็นกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนเพราะมีข้อห้ามกำหนดโทษเป็นความผิดทางอาญาไว้ แต่คำว่า 'ห้างหุ้นส่วน'ในพระราชบัญญัติดังกล่าวนี้ หมายถึงห้างหุ้นส่วนที่จดทะเบียนอันถือว่าเป็นนิติบุคคล เพราะห้างหุ้นส่วนที่ไม่ได้จดทะเบียนย่อมไม่อาจได้มาซึ่งที่ดินและไม่อยู่ในฐานะที่จะถูกลงโทษทางอาญา ดังนั้น หุ้นส่วนรายนี้จึงไม่อยู่ในบังคับพระราชบัญญัติฉบับนี้ และตามความหมายในประมวลกฎหมายที่ดินนั้นห้างหุ้นส่วนนั้นต้องเป็นห้างหุ้นส่วนที่จดทะเบียนแล้ว การที่ทนายความแถลงรับข้อเท็จจริงนั้นถือว่าเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาตามรูปความมิใช่จำหน่ายสิทธิ ดังนั้นตัวความจะคัดค้านมิได้เมื่อไม่ยกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1055(5) ขึ้นต่อสู้ในศาลชั้นต้นการที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัย จึงชอบแล้ว เพราะไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1038/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเริ่มนับโทษปรับรายวันตามกฎหมายห้างหุ้นส่วน ต้องเริ่มนับจากวันที่ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด
เมื่อกฎหมายไม่ระบุไว้ชัดเจน จะแปลให้เป็นโทษแก่จำเลยไม่ได้
จำเลยจะกระทำผิดหรือไม่ นั้น ศาลเป็นผู้ชี้ขาด
คำว่า "จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง" ในพระราชบัญญัตินี้ หมายความว่า ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่ศาลได้พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดจะนับตั้งแต่วันสอบสวนไม่ได้
ประชุมใหญ่ ครั้ง 23/2504

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งขอถอดถอนผู้ชำระบัญชีไม่กระทบความรับผิดต่อห้างหุ้นส่วน การฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับคำฟ้องเดิม
จำเลยถูกผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญฟ้องเรียกเงินคืน จำเลยจะฟ้องแย้ขอให้ถอดถอนผู้ชำระบัญชีนั้น ไม่ได้เพราะแม้จะรับฟ้องแย้งของจำเลยไว้ พิจารณาแล้วพิพากษาให้ถอดถอนผู้ชำระบัญชี ฟ้องของผู้ชำระบัญชีในคดีนี้ยังคงมีอยู่ การถอดถอนผู้ชำระบัญชีในภายหลัง หาได้กระทบกระเทือนความรับผิดของจำเลยต่อห้างหุ้นส่วนสามัญนั้นแต่ประการใดไม่ ถ้าหากผู้ชำระบัญชีซึ่งได้เป็นผู้ชำระบัญชีอยู่ในเวลาฟ้องนั้นมีอำนาจเรียกร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 191/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกห้างหุ้นส่วนและการชำระบัญชีเมื่อหุ้นส่วนถึงแก่กรรม ผู้รับมรดกไม่ต้องเป็นหุ้นส่วนแทน
การเป็นหุ้นส่วนกันนั้น เป็นเรื่องเฉพาะตัวของผู้เป็นหุ้นส่วนนั้น ๆ เอง ห้างหุ้นส่วนย่อมเลิกกันเมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งตาย ผู้รับมรดกก็ดีหรือผู้จัดการมรดกของผู้เป็นหุ้นส่วนที่ตายจะยืนยันถือสิทธิ์โดยลำพังเข้าไปเป็นหุ้นส่วนแทนที่ผู้ตายต่อไปนั้นไม่ได้ และนัยที่ตรงข้ามผู้เป็นหุ้นส่วนอื่นจะฟ้องขอให้บังคับให้ผู้รับมรดกหรือผู้จัดการมรดกเช่นว่านั้นเข้ามาเป็นหุ้นส่วนแทนที่ผู้ตายต่อไปก็ไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ตั้งผู้ชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วน ผู้จัดการมรดกและผู้รับมรดกจะต้องเข้ามาแทนที่ของหุ้นส่วนผู้ตายเพื่อการชำระบัญชี หลักกฎหมายในเรื่องการที่ต้องเข้ามาแทนที่เพื่อการชำระบัญชีเป็นคนละเรื่องกับการเข้ามาเป็นหุ้นส่วนแทนที่ผู้ตาย
โจทก์เป็นหุ้นส่วนกับผู้ตาย จำเลยซึ่งเป็นผู้รับมรดกและผู้จัดการมรดกของผู้ตายปฏิเสธไม่ยอมคิดบัญชี โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยได้
โจทก์ฟ้องและมีคำขอท้ายฟ้องให้ศาลแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีจัดการชำระบัญชีของหุ้นส่วนตามกฎหมายลอย ๆ เช่นนี้เป็นการเพียงพอแล้ว คำขอท้ายฟ้องของโจทก์เช่นว่านี้ ไม่ขัดต่อ ป.วิ.แพ่ง มาตรา 172 และการที่ศาลแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นผู้ชำระบัญชี ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องเกินคำขอแต่ประการใด
of 23