พบผลลัพธ์ทั้งหมด 241 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 64/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสมควรที่โจทก์มาศาลล่าช้า: ศาลควรให้โอกาสพิจารณาคดีใหม่
โจทก์คดีความผิดฐานใช้เช็คไม่มีเงินมาศาลช้าไปครึ่งชั่วโมงเพราะเหตุขัดข้องการจราจรติดขัดกว่าปกติเนื่องจากฝนตกหนัก ศาลยกฟ้องไปแล้ว เป็นเหตุสมควรที่จะดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 107/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดยื่นคำให้การ: ศาลใช้ดุลพินิจอนุญาตยื่นคำให้การได้หากมีเหตุสมควร แม้เกินกำหนด
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ในวันนัดสืบพยานโจทก์จำเลยยื่นคำร้องว่าตนมิได้จงใจขาดนัดเพราะเป็นคนยากจน มีความรู้น้อยเมื่อได้รับหมายเรียกสำเนาฟ้องจำเลยไม่มีเงินว่าจ้างทนายความ และไม่มีความรู้เกี่ยวกับวิธีการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาล ได้ดิ้นรนหาค่าพาหนะเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากคณะกรรมการช่วยเหลือชาวนาชาวไร่ที่กรุงเทพฯ จนได้รับความช่วยเหลือจัดหาทนายความและทำคำให้การให้ ขอได้รับคำให้การของจำเลย คำร้องของจำเลยเช่นนี้มีเหตุผลอันสมควรที่จะรับไว้ไต่สวนต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์อนุญาตอ้างพยานเพิ่มเติมในชั้นอุทธรณ์ และเหตุสมควรในการไม่อนุญาต
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 240(2) ประกอบด้วยมาตรา 88 วรรคสาม ศาลอุทธรณ์มีอำนาจอนุญาตให้คู่ความอ้างพยานเพิ่มเติมในชั้นอุทธรณ์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2591/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้าและผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
นัดสืบพยานวันที่ 28 ยื่นบัญชีระบุพยานในวันที่ 25 ก่อนวันนัดสืบพยานเพียง 2 วัน จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคหนึ่ง
เมื่อโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคหนึ่งแล้ว ก็ชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นแสดงว่าเหตุใดจึงยื่นบัญชีระบุพยานภายในกำหนดเวลาไม่ได้ เพื่อจะได้มีข้อเท็จจริงให้ศาลได้วินิจฉัยว่าข้ออ้างของโจทก์มีเหตุอันสมควรที่จะรับบัญชีระบุพยานไว้หรือไม่ การที่อ้างว่าโจทก์มิได้จงใจฝ่าฝืนระเบียบทั้งจำเลยไม่เสียเปรียบเพราะโจทก์ยังไม่ได้สืบพยาน เพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งคดีเป็นไปโดยเที่ยงธรรม แล้วอนุญาตให้รับบัญชีระบุพยานของโจทก์ไว้ จึงไม่ชอบ และจะกลายเป็นข้อยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 88 และโจทก์จงใจฝ่าฝืนหรือไม่ย่อมไม่แน่นอน ส่วนข้อได้เปรียบเสียเปรียบในทางคดีก็มีอยู่อย่างชัดแจ้ง ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับบัญชีระบุพยานโจทก์ชอบแล้ว
เมื่อโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคหนึ่งแล้ว ก็ชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นแสดงว่าเหตุใดจึงยื่นบัญชีระบุพยานภายในกำหนดเวลาไม่ได้ เพื่อจะได้มีข้อเท็จจริงให้ศาลได้วินิจฉัยว่าข้ออ้างของโจทก์มีเหตุอันสมควรที่จะรับบัญชีระบุพยานไว้หรือไม่ การที่อ้างว่าโจทก์มิได้จงใจฝ่าฝืนระเบียบทั้งจำเลยไม่เสียเปรียบเพราะโจทก์ยังไม่ได้สืบพยาน เพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งคดีเป็นไปโดยเที่ยงธรรม แล้วอนุญาตให้รับบัญชีระบุพยานของโจทก์ไว้ จึงไม่ชอบ และจะกลายเป็นข้อยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 88 และโจทก์จงใจฝ่าฝืนหรือไม่ย่อมไม่แน่นอน ส่วนข้อได้เปรียบเสียเปรียบในทางคดีก็มีอยู่อย่างชัดแจ้ง ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับบัญชีระบุพยานโจทก์ชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1362/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการยิงเพื่อป้องกันตัวเป็นเหตุสมควร
จำเลยเป็นน้องเขยผู้ตาย คืนก่อนเกิดเหตุผู้ตายและจำเลยต่างไปงานแต่งงานรายเดียวกันจำเลยช่วยเป็นผู้ลงบัญชีผู้ออกเงินช่วยงานและได้เกิดเป็นปากเสียงกับผู้ตายโดยผู้ตายหาว่าได้ออกเงินช่วยในงานแล้วจำเลยไม่ลงชื่อในบัญชีให้คืนนั้นผู้ตายอยู่บ้านงานตลอดคืน ดื่มสุราเมา รุ่งเช้าเดินกลับบ้าน มาสวนทางกับจำเลยซึ่งเดินอยู่คนละฝั่งคันคู เนื่องจากผู้ตายมีนิสัยเมาแล้วมักอาละวาดเมื่อพบจำเลยซึ่งผู้ตายข้องใจเรื่องไม่ลงชื่อในบัญชีคนช่วยงานให้จึงต่อว่าและชักมีดโดดข้ามคูไปแทงทำร้ายจำเลย จำเลยจึงยิงผู้ตาย 1 นัดเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ จำเลยไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2287/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีจากความเข้าใจผิดเรื่องวันนัด: เหตุสมควรให้พิจารณาใหม่ได้
โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลจึงสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนและมีคำสั่งให้พิจารณาใหม่ อ้างว่าโจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณาเพราะโจทก์และทนายโจทก์จดวันนัดสืบพยานโจทก์ผิดไป ดังนี้ เป็นการอ้างว่าโจทก์เข้าใจวันนัดสืบพยานผิดไปถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ดังโจทก์อ้าง ย่อมถือได้ว่าโจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณา กรณีมีเหตุสมควรที่จะให้พิจารณาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2141/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุเลื่อนคดี – ความเจ็บป่วยทนาย – การแถลงไม่สืบพยาน – ศาลมีดุลพินิจ – เหตุสมควรเลื่อนคดี
ในวันนัดสืบพยานโจก์คดีอาญา โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อน อ้างเหตุว่าทนายป่วย ศาลพิจารณาใบรับรองแพทย์ที่โจทก์ยื่นประกอบคำร้องแล้ว ไม่อนุญาตให้เลื่อนการพิจารณา แล้วสั่งให้โจทก์นำพยานเข้าสืบ โจทก์แถลงว่า "เมื่อทนายโจทก์ไม่มาศาลวันนี้ โจทก์ก็ไม่สืบพยาน" ข้อความดังนี้มีความหมายว่าในวันนั้นเมื่อทนายโจทก์ไม่มา โจทก์ก็ไม่สืบพยาน มิใช่หมายความว่าโจทก์ไม่ติดใจสืบพยานทั้งคดี ถ้าศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ขอเลื่อนคดีโดยมีเหตุผลเพียงพอ ย่อมพิพากษาให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1465/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับบัญชีระบุพยานแม้ยื่นล่าช้า หากมีเหตุสมควรและไม่ทำให้คู่ความเสียหาย
คำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลนั้น คู่ความจะต้องโต้แย้งไว้เสียก่อน จึงจะอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้ในภายหลัง แต่ศาลจะต้องให้คู่ความมีโอกาสและเวลาพอสมควรที่จะโต้แย้งคำสั่งได้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับบัญชีระบุพยานจำเลย และนัดตัดสินในวันรุ่งขึ้น ถือได้ว่าจำเลยไม่มีเวลาพอที่จะโต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นแม้จำเลยมิได้โต้แย้งไว้ก็มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้
จำเลยไม่มีทนายและมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้ ก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายมีหน้าที่นำสืบก่อนหนึ่งวันทนายจำเลยซึ่งเพิ่งได้รับแต่งตั้งยื่นคำร้องต่อศาลขอยื่นบัญชีระบุพยานโดยอ้างเหตุว่าเพิ่งได้รับเป็นทนายจำเลยในวันที่ยื่นคำร้องและจำเลยมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์กรณีเช่นนี้ ไม่เป็นการทำให้โจทก์เสียหายแต่อย่างใด ชอบที่ศาลจะสั่งรับบัญชีระบุพยานของจำเลยไว้เพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นได้เป็นไปโดยเที่ยงธรรม หากโจทก์เห็นว่าจำเลยยื่นบัญชีระบุพยานเช่นนี้เพื่อเอาเปรียบโจทก์และโจทก์จะเสียหายโจทก์ก็มีทางแก้ไขได้โดยขอเลื่อนคดีไปหรือขอระบุพยานเพิ่มเติมเข้ามาอีก
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับบัญชีระบุพยานจำเลย และนัดตัดสินในวันรุ่งขึ้น ถือได้ว่าจำเลยไม่มีเวลาพอที่จะโต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นแม้จำเลยมิได้โต้แย้งไว้ก็มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้
จำเลยไม่มีทนายและมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้ ก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายมีหน้าที่นำสืบก่อนหนึ่งวันทนายจำเลยซึ่งเพิ่งได้รับแต่งตั้งยื่นคำร้องต่อศาลขอยื่นบัญชีระบุพยานโดยอ้างเหตุว่าเพิ่งได้รับเป็นทนายจำเลยในวันที่ยื่นคำร้องและจำเลยมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์กรณีเช่นนี้ ไม่เป็นการทำให้โจทก์เสียหายแต่อย่างใด ชอบที่ศาลจะสั่งรับบัญชีระบุพยานของจำเลยไว้เพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นได้เป็นไปโดยเที่ยงธรรม หากโจทก์เห็นว่าจำเลยยื่นบัญชีระบุพยานเช่นนี้เพื่อเอาเปรียบโจทก์และโจทก์จะเสียหายโจทก์ก็มีทางแก้ไขได้โดยขอเลื่อนคดีไปหรือขอระบุพยานเพิ่มเติมเข้ามาอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2222/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตเลื่อนคดี: เหตุสมควรและประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนการสืบพยานโจทก์ก่อนวันกำหนดนัด3 วัน อ้างเหตุติดว่าความคดีอื่นในวันเดียวกันนั้น ศาลชั้นต้นสั่ง " สำเนาให้จำเลยสั่งในวันนัด " ครั้นวันนัดโจทก์ ทนายโจทก์ และพยานไม่ไปศาล ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนทนายไปฟังคำสั่งศาลและกำหนดวันนัดแทน ดังนี้ เป็นเรื่องทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรกทั้งยื่นไว้ก่อนวันนัดหลายวัน มีเหตุสมควร และเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่จะอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1520/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนการพิจารณาคดีอาญาเนื่องจากทนายจำเลยติดว่าความคดีอื่น ศาลต้องอนุญาตหากมีเหตุสมควร
ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาโดยอ้างว่าในวันนัดนั้น ทนายจำเลยติดว่าความที่ศาลอื่น ข้ออ้างของทนายจำเลยเป็นความจริงทั้งเป็นกรณีที่มีเหตุอันสมควร ชอบที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาสืบพยานโจทก์ไปได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 175 วรรค 2 แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและทำการพิจารณาพิพากษาไปเลย จึงเป็นการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาศาลฎีกาจึงให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาพิพากษาใหม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 208(2)