พบผลลัพธ์ทั้งหมด 251 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 110/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานและการอุทธรณ์ฎีกา ศาลต้องโต้แย้งคำสั่งระหว่างพิจารณาจึงจะอุทธรณ์ได้
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา คู่ความจะต้องโต้แย้งคำสั่งนั้นไว้จึงจะอุทธรณ์ฎีกาได้
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2514เวลา 10.00 นาฬิกา และพิพากษาคดีเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม2514 เวลา 13.30 นาฬิกา จำเลยย่อมมีโอกาสเพียงพอที่จะโต้แย้งคำสั่งนั้นได้ เมื่อมิได้โต้แย้งไว้จำเลยจะอุทธรณ์ฎีกาเพื่อขอสืบพยานต่อไปอีกมิได้
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยโอนขายที่ดินให้แก่โจทก์ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานของคู่ความ แล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี จำเลยอุทธรณ์ฎีกาขอให้สั่งศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ และโต้เถียงในเรื่องการเรียกค่าขึ้นศาล และการใช้แทนค่าฤชาธรรมเนียมโดยมิได้ขอให้ชี้ขาดแพ้ชนะในข้อหาแห่งคดีหรือขอให้พิพากษาให้จำเลยชนะคดี จำเลยควรเสียค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกา เพียงศาลละ 50 บาทตามตาราง 1 ข้อ 2 ก.ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2514เวลา 10.00 นาฬิกา และพิพากษาคดีเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม2514 เวลา 13.30 นาฬิกา จำเลยย่อมมีโอกาสเพียงพอที่จะโต้แย้งคำสั่งนั้นได้ เมื่อมิได้โต้แย้งไว้จำเลยจะอุทธรณ์ฎีกาเพื่อขอสืบพยานต่อไปอีกมิได้
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยโอนขายที่ดินให้แก่โจทก์ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานของคู่ความ แล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี จำเลยอุทธรณ์ฎีกาขอให้สั่งศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ และโต้เถียงในเรื่องการเรียกค่าขึ้นศาล และการใช้แทนค่าฤชาธรรมเนียมโดยมิได้ขอให้ชี้ขาดแพ้ชนะในข้อหาแห่งคดีหรือขอให้พิพากษาให้จำเลยชนะคดี จำเลยควรเสียค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกา เพียงศาลละ 50 บาทตามตาราง 1 ข้อ 2 ก.ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1304/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชัดแจ้ง: การโต้แย้งคำพิพากษาต้องมีเหตุผลรองรับ ไม่ใช่แค่สรุปข้อเท็จจริง
จำเลยฎีกาสรุปการฟังข้อเท็จจริงของศาลล่างทั้งสอง และว่าข้อเท็จจริงเช่นนี้ไม่เป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้องโดยมิได้ให้เหตุผลและข้ออ้างอิง ว่าทำไมจึงไม่ผิดเพื่อเป็นการคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริง: กรณีโต้แย้งการวินิจฉัยเจตนาฆ่าของศาลล่าง
คดีที่ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงต้องกันมาแล้วว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า การที่โจทก์ฎีกาว่าพฤติการณ์การกระทำของจำเลยแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า จึงเป็นฎีกาโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลล่างในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตแก้ไขฟ้องและการโต้แย้งคำสั่งศาลระหว่างพิจารณาคดี รวมถึงการรับฟังสัญญาซื้อขายผลส้ม
คำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา เมื่อจำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งศาลนี้ไว้ จำเลยจะอุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ไม่ได้ จำเลยจะอ้างว่าจำเลยได้ยื่นคำแถลงคัดค้านการขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องไว้ ก่อนศาลสั่งอนุญาตแล้วไม่ได้ เพราะในขณะนั้นศาลยังไม่ได้มีคำสั่ง จึงจะมีการโต้แย้งคำสั่งศาล ที่ศาลยังไม่ได้สั่งไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1839/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ระยะเวลาโต้แย้งคำสั่งศาล: ต้องมีระยะเวลาพอสมควร แม้กฎหมายไม่ได้กำหนด
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมิได้กำหนดระยะเวลาโต้แย้งคำสั่งระหว่างพิจารณาไว้ แต่ก็ต้องให้มีระยะเวลาพอสมควรสำหรับโต้แย้งได้
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานวันที่ 10 เวลา 13.30 น. และนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 13 เดือนเดียวกัน เวลา 13.00 น. เมื่อไม่ปรากฏเหตุขัดข้องอย่างใด ย่อมถือได้ว่ามีโอกาสและระยะเวลานานพอที่คู่ความฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยคำสั่ง จะโต้แย้งคำสั่งนั้นได้แล้ว
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานวันที่ 10 เวลา 13.30 น. และนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 13 เดือนเดียวกัน เวลา 13.00 น. เมื่อไม่ปรากฏเหตุขัดข้องอย่างใด ย่อมถือได้ว่ามีโอกาสและระยะเวลานานพอที่คู่ความฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยคำสั่ง จะโต้แย้งคำสั่งนั้นได้แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1839/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ระยะเวลาโต้แย้งคำสั่งศาล: ต้องมีเวลาพอสมควร แม้กฎหมายไม่ได้กำหนด
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมิได้กำหนดระยะเวลาโต้แย้งคำสั่งระหว่างพิจารณาไว้ แต่ก็ต้องให้มีระยะเวลาพอสมควรสำหรับโต้แย้งได้
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานวันที่ 10 เวลา 13.30 น. และนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 13 เดือนเดียวกัน เวลา 13.00 น. เมื่อไม่ปรากฏเหตุขัดข้องอย่างใด ย่อมถือได้ว่ามีโอกาสและระยะเวลานานพอที่คู่ความฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยคำสั่ง จะโต้แย้งคำสั่งนั้นได้แล้ว
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานวันที่ 10 เวลา 13.30 น. และนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 13 เดือนเดียวกัน เวลา 13.00 น. เมื่อไม่ปรากฏเหตุขัดข้องอย่างใด ย่อมถือได้ว่ามีโอกาสและระยะเวลานานพอที่คู่ความฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยคำสั่ง จะโต้แย้งคำสั่งนั้นได้แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดยื่นคำให้การและสิทธิอุทธรณ์: คำสั่งระหว่างพิจารณาที่มิได้โต้แย้งย่อมถึงที่สุด
ศาลได้มีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแล้ว จำเลยยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การ ศาลไต่สวนแล้วสั่งไม่อนุญาต จำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้านคำสั่งนี้ ทั้ง ๆ ที่จำเลยมีโอกาสจะโต้แย้งได้ จำเลยย่อมหมดสิทธิที่จะอุทธรณ์ขอยื่นคำให้การอีก เพราะคำสั่งนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา
เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนคำสั่งปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นแล้วคำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุด
เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนคำสั่งปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นแล้วคำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดยื่นคำให้การและการหมดสิทธิอุทธรณ์ กรณีจำเลยไม่โต้แย้งคำสั่งศาลระหว่างพิจารณา
ศาลได้มีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแล้ว จำเลยยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การ ศาลไต่สวนแล้วสั่งไม่อนุญาต จำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้านคำสั่งนี้ ทั้ง ๆ ที่จำเลยมีโอกาสจะโต้แย้งได้ จำเลยย่อมหมดสิทธิที่จะอุทธรณ์ขอยื่นคำให้การอีก เพราะคำสั่งนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา
เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนคำสั่งปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นแล้วคำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุด
เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนคำสั่งปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นแล้วคำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 446/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดค่าขึ้นศาลในคดีพิพาททรัพย์สิน: การโต้แย้งเรื่องประเภทคดีและการประเมินราคา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 2 เป็นภรรยาของโจทก์ ได้ทำนิติกรรมยกที่ดินซึ่งเป็นสินบริคณห์ให้จำเลยที่ 1 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์และโจทก์ได้บอกล้างแล้วขอให้ศาลแสดงว่านิติกรรมเป็นโมฆะจำเลยต่อสู้ว่าจำเลยที่ 2 ไม่ได้เป็นภรรยาของโจทก์และมีอำนาจทำนิติกรรมนั้นได้ เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์ที่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 77/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุม: การที่โจทก์มิได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นในประเด็นฟ้องเคลือบคลุม ทำให้ฎีกาต้องห้ามตามมาตรา 249
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ฟ้องของโจทก์นั้นเคลือบคลุมขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง แต่คำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์มิได้อุทธรณ์โต้แย้งว่าคำฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุมเพราะเหตุใด เพิ่งจะมายกขึ้นกล่าวในชั้นฎีกาดังนี้ จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249