พบผลลัพธ์ทั้งหมด 356 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5642/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่สมบูรณ์ ขาดรายละเอียดข้อโต้แย้ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ฎีกาของจำเลยมีใจความสำคัญสรุปได้เพียงว่า จำเลยไม่เห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำเลยยังขาดเอกสารสำคัญเกี่ยวกับคดีได้ติดต่อไปยังทนายจำเลยแล้วแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ เกรงว่าอายุฎีกาจะสิ้นสุดลงจึงได้ยื่นฎีกาไว้ก่อน ส่วนข้อโต้แย้งคัดค้านอันเป็นข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างอิงในฎีกานั้นจำเลยจะยื่นรายละเอียดอีกในภายหลัง จำเลยมิได้กระทำความผิดตามฟ้องเท่านั้นมิได้ระบุข้อเท็จจริงโดยย่อหรือข้อกฎหมายที่ยกอ้างอิงไว้เลยว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีไม่ชอบหรือขัดต่อกฎหมายอย่างไร รายละเอียดที่จำเลยอ้างว่าจะยื่นเข้ามาในภายหลังก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ยื่นเข้ามาภายในอายุฎีกาและมิได้ขอขยายเวลายื่นฎีกาแต่อย่างใด ฎีกาของจำเลยจึงไม่เป็นฎีกาที่คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยป.วิ.อ. มาตรา 193 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225 และมาตรา 216ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4342/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคิดอายุความค่าจ้าง: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์เนื่องจากไม่ได้โต้แย้งประเด็นคำพิพากษาเดิม
คู่ความท้ากันให้ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า การคิดอายุความฟ้องเรื่องค่าจ้างต้องคิดอายุความตามความเห็นของโจทก์ หรือของจำเลยที่ 1 ถ้าต้องคิดตามความเห็นของโจทก์จำเลยยอมจ่ายเงินให้แก่โจทก์ ถ้าต้องคิดตามความเห็นของจำเลยที่ 1 ให้พิพากษายกฟ้องศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า การคิดอายุความจะต้องคิดตามความเห็นของจำเลยที่ 1 จึงพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ว่าฟ้องของโจทก์ยังไม่ขาดอายุความเนื่องจากการที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์อายุความในการฟ้องร้องได้สะดุดหยุดอยู่ ดังนี้ อุทธรณ์ของโจทก์หาได้โต้แย้งคำพิพากษาของศาลแรงงานกลางไม่ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 386/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้แย้งโทษจำคุกที่ศาลอุทธรณ์แก้ไข ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยเพราะเป็นการโต้เถียงดุลพินิจ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะโทษที่ลงแก่จำเลยมิได้แก้บทกฎหมายที่จำเลยกระทำความผิด เป็นการแก้ไขเล็กน้อยที่โจทก์ฎีกาว่าควรลงโทษจำเลยให้หนักขึ้นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามมิให้โจทก์ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา(ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2532 มาตรา 11.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3710/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นฟ้องเคลือบคลุมที่ไม่ได้ยกขึ้นในอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ที่จำเลยฎีกาว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมนั้น ประเด็นข้อนี้แม้จำเลยจะได้เคยยกขึ้นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์แล้วก็ตาม แต่เนื่องจากจำเลยมิได้กล่าวโดยชัดแจ้งในอุทธรณ์ว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมอย่างไร เป็นเหตุให้ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยมาแล้ว ถือได้ว่าประเด็นข้อนี้เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นข้อพิพาทที่ไม่ได้ยกขึ้นในชั้นศาล และการเปลี่ยนแปลงประเด็นข้อสู้ในชั้นฎีกา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดเรื่องอายุความเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ในการชี้สองสถาน และจำเลยไม่ได้คัดค้าน จึงไม่มีประเด็นที่จะวินิจฉัยว่าคดีขาดอายุความแล้วหรือไม่ จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่ได้มอบอำนาจให้ อ. ฟ้องคดีนี้จำเลยจะฎีกาว่าหนังสือมอบอำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากผู้รับมอบอำนาจมิได้ลงลายมือชื่อในฐานะผู้รับมอบอำนาจหาได้ไม่เพราะไม่ใช่ประเด็นที่จำเลยให้การต่อสู้คดีไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกประเด็นใหม่ในชั้นฎีกาที่ต่างจากที่ให้การไว้ในชั้นต้นและอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ฎีกาของจำเลยทั้งสามในประเด็นที่ว่าคดีขาดอายุความแล้วปรากฏว่าในการชี้สองสถาน ศาลมิได้กำหนดเรื่องอายุความเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ และไม่ปรากฏว่าจำเลยโต้แย้งคำสั่งในการกำหนดประเด็นข้อพิพาท จึงไม่มีประเด็นที่จะวินิจฉัย ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้ จำเลยทั้งสามให้การว่า โจทก์มิได้มอบอำนาจให้ อ. ฟ้องคดีแต่ยกขึ้นเป็นประเด็นในชั้นฎีกาว่าหนังสือมอบอำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะผู้รับมอบอำนาจมิได้ลงลายมือชื่อในฐานะผู้รับมอบอำนาจเหตุที่จำเลยทั้งสามยกขึ้นฎีกาจึงเป็นคนละเรื่องกับที่จำเลยทั้งสามให้การสู้คดีไว้ ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 238/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเมื่อศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ยกฟ้องฐานหมิ่นประมาท แม้เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องในความผิดฐานหมิ่นประมาททั้งสองกระทง แม้ฎีกาของโจทก์ที่ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาททั้งสองกระทงจะเป็นฎีกาปัญหาข้อกฎหมายก็ตาม ก็ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ที่แก้ไขใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2293/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัย เหตุโจทก์ไม่ได้ยกเหตุผลโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เพียงกล่าวอ้างไม่เห็นด้วยกับคำสั่งศาลชั้นต้น
ฎีกาของโจทก์มิได้ยกเหตุผลขึ้นโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ชอบในข้อไหน อย่างไร คงกล่าวอ้างเพียงว่าโจทก์ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของศาลชั้นต้นแล้วเท้าความถึงการพิจารณาในศาลชั้นต้นนับแต่โจทก์ยื่นคำฟ้องจนกระทั่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกฟ้อง และว่าคำสั่งศาลชั้นต้นไม่เป็นธรรมแก่โจทก์ ขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งกลับคำสั่งศาลชั้นต้นว่าศาลชั้นต้นมีอำนาจพิจารณาคดีนี้ และให้รับฟ้องของโจทก์ไว้ดำเนินการต่อไป ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าเป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายโดยชัดแจ้งในฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1908/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเรื่องการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงสภาพการจ้างและการปรับอัตราเงินเดือน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากเป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าจำเลยไม่เคยประกาศใช้ข้อบังคับตามเอกสารหมาย จ.3 ที่กำหนดอัตราเงินเดือนไว้ 21 ขั้น และจำเลยได้ปรับอัตราเงินเดือนให้แก่โจทก์เกินอัตราขั้นสูง อันเป็นคุณแก่โจทก์มากแล้ว ซึ่งเป็นการรับฟังข้อเท็จจริงว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างโดยไม่ชอบ แต่อุทธรณ์ของโจทก์สรุปได้ว่าจำเลยได้เปลี่ยนแปลงข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างโดยไม่ชอบ จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5112/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อโต้แย้งเรื่องคู่สัญญาและมูลหนี้ที่ไม่ยกขึ้นสู่การพิจารณาของศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ปัญหาว่าหนี้ตามฟ้องมีมูลหนี้มาอย่างไร โจทก์เป็นคู่สัญญากับจำเลยหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องอำนาจฟ้องและไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อจำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.