คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลูกจ้าง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,226 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1842/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสั่งไล่ออกลูกจ้าง: การปฏิบัติตามระเบียบและคำสั่งมอบอำนาจของผู้ว่าการรถไฟฯ
โจทก์เป็นลูกจ้างของการรถไฟแห่งประเทศไทยจำเลยที่ 1 โจทก์ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานทุจริตต่อหน้าที่และประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงอันเป็นความผิดซึ่งมีโทษถึงไล่ออกเมื่อมีการตั้งกรรมการสอบสวนกรณีที่โจทก์ถูกกล่าวหาดังกล่าวและจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาได้พิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวนแล้วเห็นว่าโจทก์ทำความผิดจริงก็มีคำสั่งไล่โจทก์ออกจากงานได้ตามที่ได้รับมอบอำนาจ โดยมิต้องนำเรื่องเสนอที่ประชุมผู้อำนวยการฝ่ายและหัวหน้าสำนักงานให้พิจารณาเสียก่อนไม่เป็นการฝ่าฝืนระเบียบการและคำสั่งของจำเลยที่ 1 แต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1802/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดนายจ้างต่อการละเมิดของลูกจ้างในการปฏิบัติงานตามอาชีพ แม้ไม่ได้ระบุในฟ้องโดยชัดแจ้ง
ฟ้องของโจทก์ซึ่งบรรยายว่า จำเลยเป็นเจ้าของรถยนต์บรรทุกน้ำและเป็นผู้มีอาชีพบรรทุกน้ำไปขาย จำเลยเป็นนายจ้างของ ป. ป. ขับรถยนต์นั้นบรรทุกน้ำไปเพื่อขาย ได้ขับรถยนต์โดยประมาท ชน ว. ตาย เป็นการกระทำละเมิดให้โจทก์เสียหาย จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างจะต้องรับผิดต่อโจทก์ร่วม กับ ป. เป็นฟ้องที่มีข้อหาว่า ป. ลูกจ้างของจำเลยได้ทำละเมิดต่อโจทก์ในทางการที่จ้างของจำเลย ถูกต้องสมบูรณ์แล้ว แม้จะไม่ได้กล่าวระบุข้อความว่าเป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยลงไปด้วย ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
จำเลยให้การตั้งประเด็นต่อสู้คดีไว้ว่าจำเลยไม่ต้องร่วมรับผิดชอบในผลแห่งการกระทำละเมิดของ ป. ในขณะเกิดเหตุรถยนต์บรรทุกน้ำของจำเลยอยู่ในความครอบครองรับผิดชอบของผู้อื่นเช่าซื้อไป จำเลยมิได้เป็นนายจ้างของ ป. และมีได้มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน หาได้ตั้งประเด็นต่อสู้ว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดชอบในผลแห่งการกระทำละเมิดของ ป. เพราะ ป. มิได้ทำการในทางการที่จ้างของจำเลยไม่ การนำสืบของจำเลยในข้อนี้จึงเป็นการนำสืบนอกประเด็น รับฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1802/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดนายจ้างต่อการละเมิดของลูกจ้างในการปฏิบัติงานตามสัญญาจ้าง
ฟ้องของโจทก์ซึ่งบรรยายว่า จำเลยเป็นเจ้าของรถยนต์บรรทุกน้ำและเป็นผู้มีอาชีพบรรทุกน้ำไปขาย จำเลยเป็นนายจ้างของ ป. ป. ขับรถยนต์นั้นบรรทุกน้ำไปเพื่อขาย ได้ขับรถยนต์โดยประมาทชน ว. ตาย เป็นการทำละเมิดให้โจทก์เสียหาย จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างจะต้องรับผิดต่อโจทก์ร่วมกับ ป. เป็นฟ้องที่มีข้อหาว่า ป. ลูกจ้างของจำเลยได้ทำละเมิดต่อโจทก์ในทางการที่จ้างของจำเลย ถูกต้องสมบูรณ์แล้ว แม้จะไม่ได้กล่าวระบุข้อความว่าเป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยลงไปด้วย ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
จำเลยให้การตั้งประเด็นต่อสู้คดีไว้ว่าจำเลยไม่ต้องร่วมรับผิดชอบในผลแห่งการกระทำละเมิดของ ป. ในขณะเกิดเหตุรถยนต์บรรทุกน้ำของจำเลยอยู่ในความครอบครองรับผิดชอบของผู้อื่นซึ่งเช่าซื้อไป จำเลยมิได้เป็นนายจ้างของ ป. และมิได้มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน หาได้ตั้งประเด็นต่อสู้ว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดชอบในผลแห่งการทำละเมิดของ ป. เพราะ ป. มิได้ทำการในทางการที่จ้างของจำเลยไม่ การนำสืบของจำเลยในข้อนี้จึงเป็นการนำสืบนอกประเด็น รับฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1681/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำของลูกจ้างในทางการที่จ้าง แม้เลยเวลาทำงานปกติ
จำเลยที่ 1 มีหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์ของนายจ้างไปส่งของตามที่มีผู้สั่ง และได้รับอนุญาตให้ใช้รถจักรยานยนต์ดังกล่าวขับกลับบ้านด้วย วันเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านในเวลาเลิกงานตามปกติ แต่ได้แวะไปดื่มเหล้ากับเพื่อน หลังจากดื่มเหล้าเสร็จแล้วขับรถกลับบ้านจึงเกิดเหตุ แม้ขณะเกิดเหตุจะเป็นเวลาประมาณ 20 นาฬิกาซึ่งเป็นการนอกเวลาทำงานตามปกติ แต่จำเลยที่ 1 ได้รับอนุญาตจากนายจ้างให้ขับรถจักรยานยนต์ไปเก็บที่บ้าน การที่จำเลยที่ 1 ขับรถกลับบ้านจึงเป็นไปตามคำสั่งอนุญาตของนายจ้าง ทั้งนี้เพื่อจะนำรถดังกล่าวขับกลับมาทำงานให้นายจ้างตามปกติในวันรุ่งขึ้น จึงต้องถือว่าอยู่ในกรอบแห่งทางการที่จ้างของนายจ้าง ความหมายของทางการที่จ้างนั้นมิได้จำกัดอยู่เฉพาะในเวลาทำงานของนายจ้างเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อละเมิดของลูกจ้าง แม้ลูกจ้างนอกเหนือจากหน้าที่ แต่ยังอยู่ในขอบเขตความไว้วางใจ
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2 วันเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ได้ใช้ให้จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ไปเดินสายไฟฟ้าในวัดแห่งหนึ่ง จำเลยที่ 1 เดินสายไฟฟ้าเสร็จแล้วไม่กลับทันที ได้ขับรถออกนอกเส้นทางไปดื่มสุรากับเพื่อนจนเมา แล้วจึงขับรถกลับระหว่างทางขับรถประมาทชนร้านค้าของ บ. ทำให้เครื่องเล่นตู้เพลงของโจทก์เสียหายด้วย ดังนี้ ยังถือได้ว่า เป็นการปฏิบัติที่จำเลยที่ 1 ได้กระทำไปในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง จำเลยที่ 2 จะต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของนายจ้างต่อการละเมิดของลูกจ้าง แม้ลูกจ้างนอกเหนือจากหน้าที่ แต่ยังอยู่ในขอบเขตที่นายจ้างไว้วางใจ
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2 วันเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ได้ใช้ให้จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ไปเดินสายไฟฟ้าในวัดแห่งหนึ่ง จำเลยที่ 1 เดินสายไฟฟ้าเสร็จแล้วไม่กลับทันที ได้ขับรถออกนอกเส้นทางไปดื่มสุรากับเพื่อนจนเมา แล้วจึงขับรถกลับระหว่างทางขับรถประมาทชนร้านค้าของ บ. ทำให้เครื่องเล่นตู้เพลงของโจทก์เสียหายด้วยดังนี้ยังถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติที่จำเลยที่ 1 ได้กระทำไปในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง จำเลยที่ 2 จะต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะลูกจ้างรัฐวิสาหกิจสิทธิรับเงินชดเชย แม้เรียกตำแหน่งอื่น และอายุความการฟ้องเรียกเงินชดเชย
คำว่านายจ้าง ลูกจ้าง ตามความหมายของกฎหมายแรงงาน หมายรวมถึงบุคคลบุคลลผู้เข้าทำงานให้แก่บุคคลอื่นในงานอุตสาหกรรมหรือพาณิชยกรรม โดยได้ได้รับค่าจ้างเป็นผลประโยชน์ตอบแทนทั่วไป หากลูกจ้างประเภทใดที่ไม่ต้องการให้อยู่ในบังคับของกฎหมายแรงงานก็กำหนดเป็นข้อยกเว้นไว้ อันมีข้าราชการส่วนท้องถิ่นรวมอยู่ด้วย แม้ฐานะของโจทก์จะเรียกว่า พนักงานมิได้เรียกลูกจ้างโดยตรง ก็ต้องถือว่าโจทก์เป็นลูกจ้าง ของจำเลย ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ได้รับความคุ้มครองของกฎหมายแรงงาน ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ข้อ 3 แก้ไขฉบับที่ 3 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2507่ข้อ 2 เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์ โดยโจทก์มิได้กระทำการอันต้องด้วยข้อยกเว้นที่นายจ้างจะไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยแล้ว จำเลยก็ต้องจ่าย เงินชดเชยค่าโจทก์ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยข้างต้น ข้อ 12
เงินชดเชยเป็นสิทธิของโจทก์ที่จะได้รับตามกฎหมาย มิใช่เป็นเป็นสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทดนหรือค่าเสียหายฐานละเมิด และกฎหมายมิได้กำหนดอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงต้องใช้อายุความตามหลักทั่ว ไปที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 คือมีกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่อาจบังคับตามสิทธิเรียกร้องขึ้นได้
เงินที่จำเลยจ่ายให้โจทก์ ตามข้อบังคับว่าด้วยการสงเคราะห์พนักงานและคนงานของจำเลย ที่พระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 มาตรา 42 กำหนดให้จัดตั้งกองทุนขึ้น โดยนำเงินสะสมที่หักไว้จากเงินเดือนของโจทก์ทุกเดือน กับเงินของจำเลยอีกจำนวนหนึ่งเป็นเงินสมทบจ่าย มีหลักเกณฑ์ และวิธีการแตกต่างกันไปจากเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน เงินสงเคราะห์จึงเข้าลักษณะเป็นเงินประเภทอื่นต่างหากจากเงินชดเชย ดังกำหนดไว้ในประกาศกระทรวงมหาดไทย ข้อ 2 ดังกล่าว เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์ จำเลยจึงต้องจ่ายเงินชดเชยให้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลูกจ้างรัฐวิสาหกิจมีสิทธิได้รับเงินชดเชย แม้ไม่ได้ทำสัญญาจ้างแรงงานโดยตรง และเงินสะสมกองทุนสงเคราะห์ไม่ใช่เงินชดเชย
คำว่า นายจ้าง ลูกจ้าง ตามความหมายของกฎหมายแรงงานหมายรวมถึงบุคคลผู้เข้าทำงานให้แก่บุคคลอื่นใน งานอุตสาหกรรมหรือพาณิชยกรรมโดยได้รับค่าจ้างเป็นผลประโยชน์ตอบแทนทั่วไป หากลูกจ้างประเภทใดที่ไม่ต้องการให้อยู่ในบังคับของกฎหมายแรงงานก็กำหนดเป็นข้อยกเว้นไว้ อันมีข้าราชการและข้าราชการส่วนท้องถิ่นรวมอยู่ด้วย แม้ฐานะของโจทก์จะเรียกว่า พนักงาน มิได้เรียกลูกจ้างโดยตรง ก็ต้องถือว่าโจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลย ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจได้รับความคุ้มครองของกฎหมายแรงงาน ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ข้อ 3 แก้ไขฉบับที่ 3 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2507 ข้อ 2 เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์ โดยโจทก์มิได้กระทำการอันต้องด้วยข้อยกเว้นที่นายจ้างจะไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยแล้วจำเลยก็ต้องจ่ายเงินชดเชยให้แก่โจทก์ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยข้างต้น ข้อ 12
เงินชดเชยเป็นสิทธิของโจทก์ที่จะได้รับตามกฎหมาย มิใช่เป็นสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนหรือค่าเสียหายฐานละเมิดและกฎหมายมิได้กำหนดอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงต้องใช้อายุความตามหลักทั่วไปที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 คือมีกำหนด 10 ปีนับแต่วันที่อาจบังคับตามสิทธิเรียกร้องขึ้นได้
เงินที่จำเลยจ่ายให้โจทก์ ตามข้อบังคับว่าด้วยการสงเคราะห์พนักงานและคนงานของจำเลย ที่พระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ.2494 มาตรา 42 กำหนดให้จัดตั้งกองทุนขึ้น โดยนำเงินสะสมที่หักไว้จากเงินเดือนของโจทก์ทุกเดือน กับเงินของจำเลยอีกจำนวนหนึ่งเป็นเงินสมทบจ่าย มีหลักเกณฑ์และวิธีการแตกต่างกันไปจากเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน เงินสงเคราะห์นี้จึงเข้าลักษณะเป็นเงินประเภทอื่นต่างหากจากเงินชดเชย ดังกำหนดไว้ในประกาศกระทรวงมหาดไทย ข้อ 2 ดังกล่าว เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์ จำเลยจึงต้องจ่ายเงินชดเชยให้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ประกอบการขนส่งต้องรับผิดต่อความเสียหายจากอุบัติเหตุ แม้เช่ารถและคนขับ ไม่ใช่ลูกจ้าง
จำเลยเป็นผู้ประกอบกิจการรับขนส่งคนโดยสาร จำเลยต้องรับผิดต่อคนโดยสารในความเสียหายที่เกิดขึ้นจะปฏิเสธความรับผิดโดยอ้างว่ารถโดยสารคันนั้นเช่ามา และคนขับไม่ใช่ลูกจ้างของตนหาได้ไม่ ต้องใช้ค่าเสียหายที่โจทก์ขาดอุปการะเลี้ยงดูจากภริยาและบุตรที่ถูกรถชนตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของบริษัทขนส่งต่อความเสียหายจากอุบัติเหตุที่เกิดจากลูกจ้างขับรถประมาท และค่าเสียหายที่เหมาะสม
ลูกจ้างของบริษัทเดินรถโดยสาร เป็นสารวัตรควบคุมการเดินรถและตรวจตั๋วขับรถโดยประมาทในเส้นทางของบริษัทในทางค้าปกติเพราะคนขับไม่อยู่บริษัทต้องรับผิดในความเสียหายที่รถตก คนโดยสารต้องตัดแขนตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 634 ต้องใช้ค่าเสียหายรวมถึงการที่โจทก์ได้รับความเสียหายต้องตัดข้อมือขวาใช้แขนเทียมแทนเสียความสามารถประกอบการงาน และความเสียหายที่มิใช่ตัวเงินด้วย
of 223