พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,377 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1933/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการบังคับใช้ พ.ร.บ.ให้บำเหน็จฯ กับ พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร: เงินรางวัลยังคงใช้ได้
พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ.2490 มาตรา 30 หาได้มีความทับในเรื่องเงินรางวัลตาม พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489 ไม่ เพราะไม่ได้กล่าวถึงเงินรางวัลไว้ คงบัญญัติแต่ในเรื่องเงินสินบลอย่างเดียว เงินรางวัลตาม พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิดฯ จึงยังคงใช้ได้อยู่ และถือตามอัตราเดิม เพราะการบอกแก้ไขราชกิจจาฯ (ประกาศเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร) นั้นใช้ไม่ได้ (อ้างฎีกา 1073/2492)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 26/2492)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 26/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1895/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดแผลฟกช้ำเล็กน้อยไม่ถึงเจ็บตามกฎหมาย และการลงโทษจากคำรับสารภาพที่ไม่เป็นความจริง
บาดแผลที่ฟกช้ำลึกเพียง 1 หรือ 2 มิลลิเมตร์ไม่ถือว่าถึงบาดเจ็บตาม ม.254
แม้จำเลยรับสารภาพตามฟ้องหากปรากฎว่าจำเลยไม่มีความผิดแล้ว จะลงโทษจำเลยตามคำรับนั้นไม่ได้.
แม้จำเลยรับสารภาพตามฟ้องหากปรากฎว่าจำเลยไม่มีความผิดแล้ว จะลงโทษจำเลยตามคำรับนั้นไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1873/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้มีอำนาจตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน
ของอากรชั้นในตามมาตรา 35 พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ. 1248 หมายถึงสุราต่าง ๆ ตาม พ.ร.บ.ให้เสียภาษีชั้นใน ความประสงค์ของมาตรา 35 ก็เพื่อจะมิให้เจ้าของร้านซึ่งได้รับอนุญาตแล้ว ซื้อสุราจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายของเช่นนั้น หรือของอากรชั้นใน.
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ขายน้ำสุรา จำเลยบังอาจซื้อน้ำสุรามาจำหน่ายหรือขายจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายน้ำสุราเหล่านั้น โดยจำเลยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโดยไม่มีข้อแก้ตัวอย่างไร ซึ่งเท่ากับรับสารภาพว่า ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ขายน้ำสุราและบังอาจซื้อน้ำสุราอื่นมีชื่อต่าง ๆ ตามที่กล่าวในฟ้องจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายน้ำสุราเหล่านั้น ตรงตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ.1248 มาตรา 35 แล้ว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ขายน้ำสุรา จำเลยบังอาจซื้อน้ำสุรามาจำหน่ายหรือขายจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายน้ำสุราเหล่านั้น โดยจำเลยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโดยไม่มีข้อแก้ตัวอย่างไร ซึ่งเท่ากับรับสารภาพว่า ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ขายน้ำสุราและบังอาจซื้อน้ำสุราอื่นมีชื่อต่าง ๆ ตามที่กล่าวในฟ้องจากผู้ไม่มีอำนาจจะซื้อขายน้ำสุราเหล่านั้น ตรงตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ.1248 มาตรา 35 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1870/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเนรเทศผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร: ศาลพิพากษาไม่ได้
พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร 2490 มาตรา 31 ที่ให้เนรเทศผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นคนต่างด้าวไปนอกราชอาณาจักรนั้น ไม่ใช่กรณีที่บัญญัติให้ศาลพิพากษา ศาลจะพิพากษาให้เนรเทศมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1827/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจสอบสวนของตำรวจสันติบาลต้องมีฐานตามกฎหมาย โจทก์มีหน้าที่นำสืบ
ตำรวจสันติบาลจะมีอำนาจสอบสวนได้เพียงไรหรือไม่นั้นต้องเป็นไปตามข้อกำหนดหรือข้อบังคับ อันเป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องนำสืบตามกระบวนความ.
(อ้างฎีกา 521 - 923/91)
จำเลยคัดค้านตลอดมาว่า ตำรวจสันติบาลไม่มีอำนาจสอบสวน เป็นการสอบสวนที่ไม่ชอบ แต่โจทก์หาได้นำสืบหรืออ้างอิงหลักฐานประการใดไม่ ดังนี้ คดีฟังไม่ได้ว่า ได้มีการสอบสวนโดยชอบ ศาลจำต้องยกฟ้อง.
(อ้างฎีกา 521 - 923/91)
จำเลยคัดค้านตลอดมาว่า ตำรวจสันติบาลไม่มีอำนาจสอบสวน เป็นการสอบสวนที่ไม่ชอบ แต่โจทก์หาได้นำสืบหรืออ้างอิงหลักฐานประการใดไม่ ดังนี้ คดีฟังไม่ได้ว่า ได้มีการสอบสวนโดยชอบ ศาลจำต้องยกฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 180/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายควบคุมข้าว: ความสัมพันธ์ระหว่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค และ พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว และหลักการพิจารณาคดีอาญา
พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่น ๆ ในภาวะคับขัน 2488 กับ พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มิใช่กฎหมายที่ใช้แทนกันหรือขัดกัน
(อ้างฎีกา 197,198/2491)
คดีที่มีอัตราโทษอย่างสูงถึง 10 ปี แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็ต้องฟังพะยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง.
(อ้างฎีกา 197,198/2491)
คดีที่มีอัตราโทษอย่างสูงถึง 10 ปี แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็ต้องฟังพะยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1794/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแต่งตั้งกรรมการเวนคืนเกินกำหนด และการวางเงินค่าทำขวัญที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
การตั้งกรรมการเวนคืนตาม พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์นั้น แม้จะตั้งภายหลังกำหนด 3 เดือนก็เป็นกรรมการที่ชอบด้วยกฎหมาย
การวางเงินค่าทำขวัญตามมาตรา 24 เป็นเรื่องหาตัวผู้รับเงินค่าทำขวัญไม่พบ หากรู้ตัวและตำแหน่งแหล่งที่ของผู้รับเงินค่าทำขวัญแล้ว จะขอวางเงินค่าทำขวัญไม่ได้
เงินค่าทำขวัญซึ่งตกลงกำหนดกันเอง หรืออนุญาโตตุลาการกำหนดให้แล้ว ผู้รับเงินค่าทำขวัญไม่ยอมรับ จึงจะวางศาลได้ตามมาตรา 30 หากเป็นเงินที่โจทก์ไม่ได้ตกลงด้วย หรืออนุญาโตตุลาการไม่ได้กำหนดแล้ว จะวางศาลมิได้.
การวางเงินค่าทำขวัญตามมาตรา 24 เป็นเรื่องหาตัวผู้รับเงินค่าทำขวัญไม่พบ หากรู้ตัวและตำแหน่งแหล่งที่ของผู้รับเงินค่าทำขวัญแล้ว จะขอวางเงินค่าทำขวัญไม่ได้
เงินค่าทำขวัญซึ่งตกลงกำหนดกันเอง หรืออนุญาโตตุลาการกำหนดให้แล้ว ผู้รับเงินค่าทำขวัญไม่ยอมรับ จึงจะวางศาลได้ตามมาตรา 30 หากเป็นเงินที่โจทก์ไม่ได้ตกลงด้วย หรืออนุญาโตตุลาการไม่ได้กำหนดแล้ว จะวางศาลมิได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1753/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดจากกันตามกฎหมายผัวเมียจากกรณีทิ้งสามีไปมีสามีใหม่ทำให้ไม่มีสิทธิในสินสมรส
ภริยาซึ่งได้ทิ้งสามีไปมีสามีใหม่ตั้ง 20 ปี ก่อนใช้ ป.ม.แพ่ง ฯ บรรพ 5 ถือว่าขาดจากกันตามกฎหมายลักษณะผัวเมีย และไม่มีสิทธิได้ส่วนสมรส.
(อ้างฎีกาที่ 123/2464 และ ฎีกาที่ 409/129)
(อ้างฎีกาที่ 123/2464 และ ฎีกาที่ 409/129)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1714-1715/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจคณะกรรมการจังหวัดในการควบคุมการเคลื่อนย้ายโคกระบือต้องเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ การออกคำสั่งเกินอำนาจเป็นโมฆะ
ประกาศของคณะกรมการจังหวัดมีความว่าห้ามส่ง หรือยักย้ายโคกระบือออกไปนอกเขตจังหวัดนั้น ย่อมหมายความถึงห้ามการส่งออกไปนอกท้องที่ตามความหมายในมาตรา 4(6) พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯ 2488 ซึ่งบัญญัติให้เป็นอำนาจของ คณะกรรมการ คณะกรมการจังหวัดผู้ที่ได้รับแต่งตั้งจากกรรมการหามีอำนาจออกคำสั่งเช่นนี้ได้ไม่
ปัญหาว่า ประกาศของคณะกรมการจังหวัดออกโดยอาศัยอำนาจพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคฯ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย แม้คู่ความไม่ยกขึ้นอ้างอิง ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้
ปัญหาว่า ประกาศของคณะกรมการจังหวัดออกโดยอาศัยอำนาจพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคฯ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย แม้คู่ความไม่ยกขึ้นอ้างอิง ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1627-1632/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความไม่ชัดเจนของวันกระทำผิดในฟ้องอาญา ทำให้ฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2491 เวลากลางวัน จำเลยนี้ เป็นทหารกองเกินและได้รับหมายเรียกของคณะกรมการอำเภอให้มาให้คณะกรรมการ ตรวจเลือกเข้ากองประจำการทหารจำเลยบังอาจหลีกเลี่ยงไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกตามกำหนดเวลา ทั้งนี้เพื่อจะไม่เข้ารับราชการทหารกองประจำการตามพระราชบัญญัติ เหตุเกิด ฯลฯดังนี้จำเลยย่อมเข้าใจฟ้องของโจทก์ไม่ได้ดีว่าโจทก์หาว่าจำเลยกระทำผิดในวันใด ฟ้องโจทก์จึงไม่ถูกต้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158(5) ศาลต้องพิพากษายกฟ้อง