คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทรัพย์สิน

แพซุงของจำเลยขาดลอยตามน้ำที่ไหลเชี่ยว ไปกระทบเสาเรือนโจทก์เสียหายแม้โจทก์จะไม่มีพยานสืบว่า เป็นเพราะเหตุใดแพจึงขาดจำเลยก็ต้องรับผิด เพราะเป็นหน้าที่จำเลยจะต้องระวังรักษาไม่ให้แพซุงขาดลอยไปตามกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว
จ้างคนดูแลรักษาแพซุง มีหนังสือสัญญารับฝากให้ค่าจ้างเฝ้าเป็นรายเดือน เป็นการจ้างแรงงาน นายจ้างต้องรับผิดในละเมิดของลูกจ้าง

ในคดีเรื่องลักเล่นการพนัน จำเลยขอรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้อง แต่แล้วได้กล่าวบรรยายในคำให้การต่อไปเป็นความว่า การเล่นรายนี้ก็โดยพนันว่าจะซื้อโคล่ามาเลี้ยงกันรอบวงเท่านั้น และเล่นกันเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเอาเงินรวมซื้อโคล่า เช่นนี้ จะฟังว่าจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องยังไม่ได้ ซึ่งถ้าหากเป็นความจริงตามที่จำเลยบรรยายไว้ในคำให้การ การกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นผิดตามฟ้อง กล่าวคือ เพียงแต่เล่นพนันเพื่อเอาเงินไปซื้อโคล่ามาเลี้ยงระหว่างกันเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการพนันเอาทรัพย์สินกัน เมื่อโจทก์ไม่สืบพยาน ศาลก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
แม้จำเลยอื่นซึ่งให้การทำนองนี้และมิได้อุทธรณ์ขึ้นมา ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจยกขึ้นพิจารณาพิพากษาว่าไม่มีความผิดด้วยได้.

ซื้อที่ดินบ้านเรือนจากลูกหนี้ตามคำพิพากษาโดยรู้ว่าศาลพิพากษาให้ใช้หนี้แล้วราคาที่ซื้อต่ำกว่าครึ่งและหักหนี้มิได้วางเงินกันเจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดเรือนบังคับคดีได้

จุดไฟเผาไม้ในสวนของตนซึ่งอยู่ติดต่อกับสวนของผู้อื่นเห็นได้ว่าเพลิงอาจลุกลามไปไหม้สวนผู้อื่นได้
ดังนี้ เป็นการเพียงพอที่จะฟังว่าทำไปโดยฐานประมาทตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 201

เป็นสามีภรรยากันก่อนใช้ ป.พ.พ. การหย่าขาดจึงเป็นเพียงตกลงยินยอมทำหนังสือหย่ากันเองก็ใช้ได้ แม้ต่อมาภายหลังจะกลับมาได้เสียกันใหม่ก็จะถือว่ายังคงเป็นสามีภรรยากันตลอดมาหาได้ไม่

เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยบังอาจเข้าไปในเคหะสถานที่อยู่อาศัยของนางสินโดยเจ้าของมิได้อนุญาตให้เข้าไปแล้วลักเอาสร้อยคอ 1 เส้นราคา 600 บาทของนางสินไปโดยใช้กริยาฉกฉวยพาหนีไปต่อหน้า ขอให้ลงโทษตาม กฎหมายอาญามาตรา 294,297,60
ดังนี้แม้ข้อเท็จจริงฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยมึนเมาสุราแล้วถือวิสาสะเข้าไปลวนลามเจ้าทรัพย์จำเลยไม่มีเถยยะจิตต์คิดจะเอาทรัพย์แต่อย่างใดแต่จำเลยรับว่าได้เข้าไปในเคหะของเจ้าทรัพย์จริงและฟังไม่ได้ว่าเจ้าทรัพย์เรียกจำเลยเข้าไปคุยด้วยก็ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตามมาตรา329(2) ได้

เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ที่ถูกยึดไปโดยมิได้แจ้งให้โจทก์จำเลยทราบ โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะขอให้ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งให้ขายทอดตลาดทรัพย์นั้นเสีย แล้วให้ประกาศขายใหม่ได้

เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ที่ถูกยึดไปโดยมิได้แจ้งให้โจทก์จำเลยทราบโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะขอให้ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งให้ขายทอดตลาดทรัพย์นั้นเสียแล้วให้ประกาศขายใหม่ได้

คดีมรดกต้องฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันเจ้ามรดกตายหรือนับแต่เมื่อทายาทโดยชอบธรรมได้รู้หรือควรจะได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดกตาม ม. 1754
โจทก์เป็นสามีผู้ตายเจ้ามรดกเวลาเจ้ามรดกตายโจทก์ก็รู้และนับแต่วันตายมาถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกิน 1 ปีแล้ว ทั้งมรดกที่พิพาทกันโจทก์ก็มิได้เป็นผู้ครอบครองร่วมกับจำเลย(มารดาผู้ตาย) เช่นนี้ โจทก์จะอ้างว่าโจทก์ถูกปิดบังทรัพย์ โจทก์เพิ่งทราบว่าผู้ตายมีทรัพย์มรดกอยู่เมื่อระยะภายใน 1 ปีนี้เอง อายุความตาม ม.1754 ไม่บังคับถึงนั้นไม่ได้.

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกและทำลายทรัพย์ให้เสียหายรวมเป็นเงิน 2400 บาท ขอให้ลงโทษและเรียกค่าเสียหาย เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังว่าที่พิพาทเป็นของฝ่ายจำเลย พิพากษาฟ้องว่าดังนี้แม้โจทก์จะฎีกาเฉพาะที่เกี่ยวกับส่วนแพ่งอ้างว่าทุนทรัพย์ของโจทก์ที่เรียกร้องมีถึง 2400 บาทก็ตามคดีของ โจทก์ในส่วนแพ่งก็ไม่มีทางชนะได้เพราะในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาตาม ม.46.