พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,615 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงเช่าทรัพย์สิน: การเปลี่ยนแปลงข้อความในสัญญาเช่าที่ทำเป็นหนังสือ
การเช่าโรงเก็บสินค้าและการเช่าที่ดิน กฎหมายบังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538
ส่วนสัญญาเช่ามีข้อความชัดเจนว่าจำเลยตกลงรับเช่าโรงหลังคาสังกะสีซึ่งเป็นของโจทก์ ไม่ใช่แต่เพียงที่ดินเพื่อไปปลูกสร้างโรงขึ้นเองสัญญาเช่านี้ฝ่ายจำเลยรับรองว่าได้เซ็นชื่อเป็นผู้เช่านั้นในสัญญาเช่านั้นจริงดังนี้การที่จำเลยจะขอสืบว่าไม่ได้เช่าโรงเก็บสินค้าของโจทก์เช่าแต่ที่ดินเท่านั้น ถือว่าเป็นการขอสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารนั้น ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา94
จำเลยให้การต่อสู้แต่เพียงว่าจำเลยเช่าที่ดินไม่ใช่เช่าโรงเรือน สัญญาไม่ถูกต้องเฉยๆ เท่านี้มิได้แสดงโดยแจ้งชัดว่าไม่ถูกต้องอย่างไรเมื่อเอกสารสัญญาเช่ามีข้อความแจ้งชัดอยู่แล้วเช่นนี้จำเลยจะขอนำสืบให้เป็นอื่นได้ต่อเมื่อจำเลยได้กล่าวอ้างแสดงเหตุผลเป็นข้อต่อสู้โดยแน่ชัดว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นประการใดตาม มาตรา 94วรรคท้ายแต่กรณีนี้ไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นใน มาตรา94วรรคท้าย จำเลยจึงนำสืบไม่ได้ทั้ง กฎหมาย มิให้ศาลรับฟังเป็นพยานบุคคลในพฤติการณ์ดังกล่าว แม้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจะได้ยินยอมให้นำสืบกันได้ก็ดี (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2499)
ส่วนสัญญาเช่ามีข้อความชัดเจนว่าจำเลยตกลงรับเช่าโรงหลังคาสังกะสีซึ่งเป็นของโจทก์ ไม่ใช่แต่เพียงที่ดินเพื่อไปปลูกสร้างโรงขึ้นเองสัญญาเช่านี้ฝ่ายจำเลยรับรองว่าได้เซ็นชื่อเป็นผู้เช่านั้นในสัญญาเช่านั้นจริงดังนี้การที่จำเลยจะขอสืบว่าไม่ได้เช่าโรงเก็บสินค้าของโจทก์เช่าแต่ที่ดินเท่านั้น ถือว่าเป็นการขอสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารนั้น ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา94
จำเลยให้การต่อสู้แต่เพียงว่าจำเลยเช่าที่ดินไม่ใช่เช่าโรงเรือน สัญญาไม่ถูกต้องเฉยๆ เท่านี้มิได้แสดงโดยแจ้งชัดว่าไม่ถูกต้องอย่างไรเมื่อเอกสารสัญญาเช่ามีข้อความแจ้งชัดอยู่แล้วเช่นนี้จำเลยจะขอนำสืบให้เป็นอื่นได้ต่อเมื่อจำเลยได้กล่าวอ้างแสดงเหตุผลเป็นข้อต่อสู้โดยแน่ชัดว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นประการใดตาม มาตรา 94วรรคท้ายแต่กรณีนี้ไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นใน มาตรา94วรรคท้าย จำเลยจึงนำสืบไม่ได้ทั้ง กฎหมาย มิให้ศาลรับฟังเป็นพยานบุคคลในพฤติการณ์ดังกล่าว แม้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจะได้ยินยอมให้นำสืบกันได้ก็ดี (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การติดตามทรัพย์สินคืน vs. การฟ้องเรียกค่าเสียหาย: อายุความต่างกัน
โจทก์ฟ้องเรียกเรือนครัวพิพาท++ เมื่อฟังว่าเรือนครัวพิพาทจำเลย++ให้โจทก์ ดังนี้คดีของโจทก์ที่เกี่ยวกับอายุความต้องบังคับตาม ป.พ.พ. ม.1336 เพราะเป็นการติดตามทรัพย์ของตนคืน มิใช่เป็นการเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดตาม ป.พ.พ. ม.446.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 391/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดก: สิทธิของทายาทแต่ละคน และหลักการแบ่งทรัพย์สินโดยรวม
โจทก์ฟ้องว่าขอแบ่งมรดกจากจำเลยครึ่งหนึ่งของมรดก มีทายาทคนหนึ่งร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยอ้างว่ามีส่วนได้ส่วนเสียตาม ก.ม.ตามทางพิจารณาปรากฏว่าเจ้ามรดกรายนี้มีทายาทรวมทั้งหมด 5 คนคือโจทก์ จำเลย ผู้ร้องสอดและทายาทอื่นอีก 2 คน ที่มิได้เข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้ถือว่าการแบ่งทรัพย์มรดกรายนี้ต้องแบ่งให้เพียงเท่าที่คู่ความมีสิทธิควรจะได้จะแบ่งโดยเอาส่วนของทายาทอื่นไปให้ด้วยหาได้ไม่ เพราะไม่ใช่ส่วนได้ของคู่ความในคดีนี้และการแบ่งเช่นนี้มิใช่เป็นการกันส่วนแห่งทรัพย์มรดกไว้เพื่อทายาทอื่นตามความใน ป.พ.พ. ม.1749 ดังนั้นจะแบ่งเป็น 3 ส่วนโดยถือว่าทายาทอีก 2 คนฟ้องหรือร้องขึ้นมาอาจถูกยกอายุความฟ้องแบ่งมรดกหรือสิทธิอ้างอิงเหตุอื่นเป็นข้อต่อสู้อ้างอิงและไม่ให้ได้รับส่วนแบ่งหาได้ไม่ เพราะเหตุต่อสู้ผลของการต่อสู้ยังไม่ปรากฏมีขึ้นทั้งทายาทอาจตกลงแบ่งกันโดยดีหรือไม่ยกเหตุต่อสู้อะไรก็ได้จึงต้องแบ่งทรัพย์มรดกออกเป็น 5 ส่วนให้โจทก์จำเลยและผู้ร้องสอดได้คนละ 1 ส่วน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเองและทรัพย์สิน: โจทก์มีหน้าที่พิสูจน์ความผิด แม้จำเลยให้การรับสารภาพว่ากระทำผิดเพื่อป้องกัน
คดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10ปีขึ้นไปแม้จำเลยจะให้การภาคเสธรับว่าได้ใช้ปืนยิงผู้ตายโดยป้องกันชีวิตและทรัพย์ก็ยังเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้เป็นที่พอใจของศาลว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง
เมื่อจำเลยนำสืบได้ว่าผู้ตายกับพวกเป็นคนร้ายปล้นโคของจำเลยและขู่ว่าจะทำร้ายจำเลย ๆ จึงใช้ปืนยิงผู้ตาย ดังนี้ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ.
เมื่อจำเลยนำสืบได้ว่าผู้ตายกับพวกเป็นคนร้ายปล้นโคของจำเลยและขู่ว่าจะทำร้ายจำเลย ๆ จึงใช้ปืนยิงผู้ตาย ดังนี้ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของทรัพย์มรดก และการสืบพยานที่ขัดแย้งต่อการให้การเดิม
โจทก์ฟ้องว่าที่ดินเป็นมรดกของผู้ตาย จำเลยให้การว่าเป็นของจำเลยแต่ลงชื่อผู้ตายไว้ในฐานะนิติกรรมอำพรางและปรากฏตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำให้การว่าจำเลยออกเงินซื้อในชั้นนำสืบจำเลยสืบว่าที่ทำเช่นนี้เพื่อปกปิดสามีดังนี้ไม่เป็นการสืบนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องว่าทรัพย์บางอย่างเป็นมรดกของผู้ตาย จำเลยให้การว่าทรัพย์เช่นว่านั้นไม่มีอยู่ที่จำเลย แต่ชั้นนำสืบจำเลยนำสืบว่าทรัพย์เหล่านี้ผู้ตายยกให้บุตรจำเลย เช่นนี้ฟังไม่ได้เพราะเป็นการปิดบังเอาเปรียบโจทก์ในเชิงคดีทั้งๆ ที่จำเลยรู้ดีแล้วว่าทรัพย์อยู่ที่ไหน
โจทก์ฟ้องว่าทรัพย์บางอย่างเป็นมรดกของผู้ตาย จำเลยให้การว่าทรัพย์เช่นว่านั้นไม่มีอยู่ที่จำเลย แต่ชั้นนำสืบจำเลยนำสืบว่าทรัพย์เหล่านี้ผู้ตายยกให้บุตรจำเลย เช่นนี้ฟังไม่ได้เพราะเป็นการปิดบังเอาเปรียบโจทก์ในเชิงคดีทั้งๆ ที่จำเลยรู้ดีแล้วว่าทรัพย์อยู่ที่ไหน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2146-2147/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำตามคำสั่งเจ้าหน้าที่โดยสุจริตไม่ถึงขั้นต้องรับผิดชอบในความเสียหายต่อทรัพย์สิน
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านนำราษฎรเข้าทำทำนบในนาของเอกชนตามคำสั่งของนายอำเภอซึ่งสั่งการไปตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมายและเชื่อตามคำสั่งนั้นโดยสุจริต ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไม่ต้องรับผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2026/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขรก.ไม่มีหน้าที่ดูแลทรัพย์สิน จึงไม่ต้องรับผิดตาม ม.132 แม้รับเงินค่าแสตมป์แล้วนำแสตมป์ใช้แล้วมาปิด
บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีหน้าที่แต่เพียงเชิญชวนแนะนำให้ผู้ร้องปิดแสตมป์ ก.ศ.ส.ในคำร้องเท่านั้นแม้จะได้ความจริงก็หาลงโทษจำเลยได้ไม่ เพราะจำเลยไม่มีหน้าที่จัดซื้อหรือทำหรือปกครองรักษาทรัพย์สิ่งใด ๆ ตามความหมายใน ม.132.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2499)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2026/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่จำกัดของข้าราชการ: การกระทำผิดมาตรา 132 ต้องมีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินโดยตรง
บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีหน้าที่แต่เพียงเชิญชวนแนะนำให้ผู้ร้องปิดแสตมป์ ก.ศ.ส. ในคำร้องเท่านั้น แม้จะได้ความจริงก็หาลงโทษจำเลยได้ไม่ เพราะจำเลยไม่มีหน้าที่จัดซื้อหรือทำหรือปกครองรักษาทรัพย์สิ่งใดๆ ตามความหมายในมาตรา 132 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1778/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ของลูกจ้างดูแลโกดังแทนนายจ้าง และความรับผิดชอบทางอาญาที่แตกต่างจากลักทรัพย์
ลูกจ้างผู้ได้รับมอบหมายจากนายจ้างให้ดูแลครอบครองทรัพย์ที่มีผู้นำมาฝากไว้ในโกดังแทน ได้เอาทรัพย์ที่รับฝากไว้ให้ผู้ที่สมคบกันไปขาย โดยนายจ้างมิได้อนุญาต ทั้งลูกจ้างและผู้ที่สมคบย่อมมีความผิดฐานยักยอก มิใช่ลักทรัพย์
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์ ทางพิจารณาได้ความว่า เป็นยักยอกทรัพย์ จะลงโทษจำเลยไม่ได้ ต้องยกฟ้อง
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์ ทางพิจารณาได้ความว่า เป็นยักยอกทรัพย์ จะลงโทษจำเลยไม่ได้ ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1709/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: สัญญาโมฆะกับการเรียกร้องกรรมสิทธิ์ทรัพย์สิน
โจทก์เคยฟ้องจำเลยเรียกราคาทรัพย์ ศาลพิพากษาถึงที่สุดว่าสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นโมฆะบังคับไม่ได้ให้ยกฟ้อง โจทก์กลับมาฟ้องเรียกทรัพย์นั้นคืนจากจำเลยใหม่ได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ