คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลูกจ้าง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,226 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 803/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดของลูกจ้างและเจ้าของรถ กรณีรถถูกใช้ในทางการทำงาน
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของบริษัทซึ่งเช่ารถยนต์ของจำเลยที่ 2 ไปใช้ จำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ดาราไทยซึ่งบริษัทเป็นผู้จัดการ จำเลยที่ 2 กับสามีเป็นกรรมการบริษัท จำเลยที่ 1 ขับรถคันนี้กลับจากส่งหนังสือพิมพ์ดาราไทยทำให้โจทก์เสียหายโดยละเมิดในทางการที่บริษัทจ้าง บริษัทเป็นนิติบุคคลต่างหากจากจำเลยที่ 2จำเลยที่ 2 ไม่ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดนายจ้างต่อความประมาทลูกจ้าง และหลักเกณฑ์การคำนวณค่าสินไหมทดแทนจากความเสียหายทางกาย
หลักเกณฑ์การประกันภัยสากลในเรื่องรับประกันชีวิตบุคคลผู้มีอายุเกิน 40 ปีนั้น เป็นวิธีปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจเพื่อความมั่นคงของบริษัทรับประกันภัยหาใช่เกณฑ์คำนวณค่าสินไหมทดแทน ความเสียหายอันแท้จริง อันจะเป็นเหตุให้โจทก์ซึ่งมีอายุ 53 ปี ไม่ควรได้รับค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุเสื่อมเสียความสามารถในการประกอบการงานเป็นเวลา 10 ปี เนื่องจากการทำละเมิดของลูกจ้างของจำเลยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2518/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาษีที่หัก ณ ที่จ่ายถือเป็นเงินได้ลูกจ้าง ไม่เป็นการประเมินซ้ำซ้อน
นายจ้างต้องหักภาษีเงินได้ส่งภายใน 7 วัน ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 50,52 ซึ่งตาม มาตรา 60 ให้ถือภาษีที่ได้หักและนำส่งเป็นเงินได้ที่ได้รับ จึงต้องรวมกับเงินได้ของลูกจ้างในปีนั้น ไม่เป็นการประเมินภาษีซ้ำซ้อน
ฟ้องกรมสรรพากรเป็นจำเลยผู้เดียวในคดีขอให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ภาษีเงินได้ ไม่ต้องฟ้องเจ้าพนักงานเหล่านั้นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2379/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดนายจ้างต่ออุบัติเหตุลูกจ้างขณะเดินทางไปทำงาน การคุ้มครองแรงงาน
ลูกจ้างมีหน้าที่เดินตลาดและเก็บเงินจากลูกค้า นายจ้างมอบรถจักรยานยนต์ไว้ให้ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ โดยให้ดูแลรักษาและอนุญาตให้นำรถกลับบ้านและขับมาทำงานที่สำนักงานด้วย ขณะที่ลูกจ้างประสบอันตรายนั้นเป็นเวลาที่ลูกจ้างขับรถจักรยานยนต์จากบ้านจะไปสำนักงานเพื่อปฏิบัติงานตามปกติ มิได้ประสบอันตรายในขณะที่กำลังเดินทางไปหรือกลับจากการปฏิบัติงานตามคำสั่งของนายจ้าง จึงมิใช่เป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง และมิใช่เป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการป้องกันรักษาประโยชน์ให้แก่นายจ้าง นายจ้างไม่ต้องจ่ายเงินทดแทนให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2379/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดนายจ้างต่อการประสบอันตรายของลูกจ้างขณะเดินทางไปทำงาน ต้องเป็นการเดินทางตามคำสั่งหรือเพื่อประโยชน์ของนายจ้าง
ลูกจ้างมีหน้าที่เดินตลาดและเก็บเงินจากลูกค้า นายจ้างมอบรถจักรยานยนต์ไว้ให้ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ โดยให้ดูแลรักษาและอนุญาตให้นำรถกลับบ้านและขับมาทำงานที่สำนักงานด้วย ขณะที่ลูกจ้างประสบอันตรายนั้นเป็นเวลาที่ลูกจ้างขับรถจักรยานยนต์จากบ้านจะไปสำนักงานเพื่อปฏิบัติงานตามปกติ มิได้ประสบอันตรายในขณะที่กำลังเดินทางไปหรือกลับจากการปฏิบัติงานตามคำสั่งของนายจ้าง จึงมิใช่เป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง และมิใช่เป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการป้องกันรักษาประโยชน์ให้แก่นายจ้าง นายจ้างไม่ต้องจ่ายเงินทดแทนให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1942/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างไม่ต้องรับผิดต่อการทำร้ายร่างกายโดยลูกจ้าง หากการกระทำนั้นนอกเหนือจากหน้าที่และวัตถุประสงค์ของนายจ้าง
จำเลยที่ 4 เป็นนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการเดินรถโดยสารประจำทาง จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 4 โดยจำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นพนักงานเก็บเงินค่าโดยสาร จำเลยที่ 3 เป็นผู้ควบคุมรถ ได้ความว่าพนักงานขับรถซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 4 ขับรถเลี้ยวด้วยความเร็ว ทำให้โจทก์และผู้โดยสารอื่นตกจากม้านั่งการที่โจทก์ต่อว่าพนักงานขับรถเป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ไม่พอใจ และร่วมกันทำร้ายร่างกายของโจทก์จนได้รับอันตรายแก่กายนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกวัตถุประสงค์ของจำเลยที่ 4 ผู้เป็นนายจ้าง และมิใช่กิจการในหน้าที่ที่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ได้รับมอบหมาย การกระทำดังกล่าวอันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ จึงมิใช่เป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1942/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างไม่ต้องรับผิดต่อละเมิดลูกจ้าง หากการกระทำมิได้อยู่ในขอบเขตหน้าที่และวัตถุประสงค์ของนายจ้าง
จำเลยที่ 4 เป็นนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการเดินรถโดยสารประจำทาง จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 4 โดยจำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นพนักงานเก็บเงินค่าโดยสาร จำเลยที่ 3 เป็นผู้ควบคุมรถได้ความว่าพนักงานขับรถซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 4 ขับรถเลี้ยวด้วยความเร็ว ทำให้โจทก์และผู้โดยสารอื่นตกจากม้านั่ง การที่โจทก์ต่อว่าพนักงานขับรถเป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ไม่พอใจ และร่วมกันทำร้ายร่างกายโจทก์จนได้รับอันตรายแก่กายนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกวัตถุประสงค์ของจำเลยที่ 4 ผู้เป็นนายจ้าง และมิใช่กิจการในหน้าที่ที่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ได้รับมอบหมาย การกระทำดังกล่าวอันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ จึงมิใช่เป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 159/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างต้องรับผิดต่อละเมิดของลูกจ้างที่ปฏิบัติงานในทางการจ้าง แม้ไม่มีการขออนุญาตใช้รถ
รถคันที่เกิดเหตุเป็นรถสำหรับใช้ในราชการของกองสำรวจ กรมชลประทานมิใช่รถประจำตำแหน่งหัวหน้ากองสำรวจแต่ผู้เดียว วันเกิดเหตุตอนเช้า ส.ลูกจ้างกรมชลประทานจำเลยได้ขับรถคันดังกล่าวไปส่งหัวหน้ากองสำรวจที่ปากเกร็ด แล้วจอดรออยู่ พอตกบ่าย ส.ได้ขับรถคันดังกล่าวจากกองสำรวจปากเกร็ดจะมาที่กรมชลประทาน มีผู้ตายกับพวกซึ่งเป็นพนักงานกองสำรวจโดยสารมาในรถด้วย ส.ขับรถประมาทเป็นเหตุให้รถพลิกคว่ำ ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ เมื่อได้ความว่าในเวลาปฏิบัติราชการหัวหน้ากองได้มอบกุญแจให้อยู่ในความครอบครองของ ส.ตลอดเวลา การที่ ส.ขับรถคันดังกล่าวออกมาจะโดยเป็นความประสงค์ของ ส.เอง หรือของพนักงานกรมชลประทานคนใดก็ตาม ส.ก็ไม่ต้องขออนุญาตจากหัวหน้ากอง ย่อมถือได้โดยปริยายว่า กรมชลประทานจำเลยได้อนุญาตให้ ส.กระทำเช่นนั้นได้ ทั้งเหตุละเมิดที่เกิดขึ้นปรากฏว่าได้เกิดในระหว่าง ส.ปฏิบัติงานให้นายจ้าง การกระทำของ ส. เป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลย จำเลยในฐานะนายจ้างต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบิดาผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 159/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างต้องรับผิดต่อละเมิดของลูกจ้างที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน แม้จะไม่มีการขออนุญาตใช้รถ
รถคันที่เกิดเหตุเป็นรถสำหรับใช้ในราชการของกองสำรวจกรมชลประทาน มิใช่รถประจำตำแหน่งหัวหน้ากองสำรวจแต่ผู้เดียววันเกิดเหตุตอนเช้า ส. ลูกจ้างกรมชลประทานจำเลยได้ขับรถคันดังกล่าวไปส่งหัวหน้ากองสำรวจที่ปากเกร็ด แล้วจอดรออยู่พอตกบ่าย ส. ได้ขับรถคันดังกล่าวจากกองสำรวจปากเกร็ดจะมาที่กรมชลประทาน มีผู้ตายกับพวกซึ่งเป็นพนักงานกองสำรวจโดยสารมาในรถด้วย ส. ขับรถประมาทเป็นเหตุให้รถพลิกคว่ำผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ เมื่อได้ความว่าในเวลาปฏิบัติราชการหัวหน้ากองได้มอบกุญแจให้อยู่ในความครอบครองของ ส. ตลอดเวลาการที่ ส. ขับรถคันดังกล่าวออกมาจะโดยเป็นความประสงค์ของ ส. เอง หรือของพนักงานกรมชลประทานคนใดก็ตาม ส. ก็ไม่ต้องขออนุญาตจากหัวหน้ากองย่อมถือได้โดยปริยายว่า กรมชลประทานจำเลยได้อนุญาตให้ ส. กระทำเช่นนั้นได้ ทั้งเหตุละเมิดที่เกิดขึ้นก็ปรากฏว่าได้เกิดในระหว่าง ส. ปฏิบัติงานให้นายจ้าง การกระทำของ ส. เป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยจำเลยในฐานะนายจ้างต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบิดาผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1519/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับขนรับผิดชอบการลักทรัพย์โดยลูกจ้าง การมีผู้โดยสารไปด้วยไม่เปลี่ยนลักษณะการขนส่ง
ผู้รับขนของโดยรถยนต์ต้องรับผิดในการที่ของที่รับขนถูกลูกจ้างของผู้รับขนลักไป การที่ผู้ส่งให้คนของผู้ส่งขี่รถจักรยานยนต์ตามไปด้วย ไม่ทำให้เปลี่ยนลักษณะรับขนเป็นอย่างอื่น
of 223