พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,218 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจสั่งยึดทรัพย์ก่อนคำพิพากษา: ศาลชั้นต้นมีอำนาจหน้าที่ก่อนสำนวนถึงศาลอุทธรณ์
การยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวนั้น ถ้าศาลอุทธรณ์ยังมิได้รับสำนวนลงสารบบก็เป็น
เรื่องอยู่ในอำนาจหน้าที่ของศาลชั้นต้น
การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเรื่องใดอย่างน้อยจะต้องมีคำฟ้องคำแก้ซึ่งศาลชั้นต้นส่งขึ้นมา
ศาลที่มีอำนาจออกหมายบังคับคดีหรือทำคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการบังคับคดี คือศาลที่พิจารณาคดีนั้นในชั้นต้น "ฯลฯ"
การที่กฎหมายบัญญัติ มาตรา 240 และ 302 ไว้ก็เพื่อจะมิให้มีการก้าวก่ายสับสนหน้าที่กัน
เรื่องอยู่ในอำนาจหน้าที่ของศาลชั้นต้น
การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเรื่องใดอย่างน้อยจะต้องมีคำฟ้องคำแก้ซึ่งศาลชั้นต้นส่งขึ้นมา
ศาลที่มีอำนาจออกหมายบังคับคดีหรือทำคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการบังคับคดี คือศาลที่พิจารณาคดีนั้นในชั้นต้น "ฯลฯ"
การที่กฎหมายบัญญัติ มาตรา 240 และ 302 ไว้ก็เพื่อจะมิให้มีการก้าวก่ายสับสนหน้าที่กัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการสั่งยึดทรัพย์ก่อนคำพิพากษา ต้องเป็นไปตามกระบวนการวิธีพิจารณา และศาลชั้นต้นมีอำนาจหน้าที่ก่อนศาลอุทธรณ์
การยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวนั้น ถ้าศาลอุทธรณ์ยังมิได้รับสำนวนลงสารบบก็เป็นเรื่องอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของศาลชั้นต้น
การที่ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยเรื่องใดอย่างน้อยจะต้องมีคำฟ้องคำแก้ซึ่งศาลชั้นต้นส่งขึ้นมา
ศาลที่มีอำนาจออกหมายบังคับคดีหรือทำคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการบังคับคดีคือศาลที่พิจารณาคดีนั้นในชั้นต้น "ฯลฯ"
การที่กฎหมายบัญญัติ มาตรา 240 และ 302 ไว้ก็เพื่อจะมิให้มีการก้าวก่ายสับสนหน้าที่กัน
การที่ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยเรื่องใดอย่างน้อยจะต้องมีคำฟ้องคำแก้ซึ่งศาลชั้นต้นส่งขึ้นมา
ศาลที่มีอำนาจออกหมายบังคับคดีหรือทำคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการบังคับคดีคือศาลที่พิจารณาคดีนั้นในชั้นต้น "ฯลฯ"
การที่กฎหมายบัญญัติ มาตรา 240 และ 302 ไว้ก็เพื่อจะมิให้มีการก้าวก่ายสับสนหน้าที่กัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 542/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์จำกัดเฉพาะข้อกฎหมายเมื่ออุทธรณ์เฉพาะข้อกฎหมาย ห้ามวินิจฉัยข้อเท็จจริงใหม่
คดีที่โจทก์อุทธรณ์ฉะเพาะข้อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์จะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดมา โดยไม่มีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 542/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์จำกัดเฉพาะข้อกฎหมายเมื่อโจทก์ไม่อุทธรณ์ข้อเท็จจริงเดิม
คดีที่โจทก์อุทธรณ์เฉพาะข้อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์จะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดมา โดยไม่มีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการถอนประกันและสั่งขัง ไม่ถือเป็นความผิดอาญาหากไม่มีเจตนาร้าย
ผู้พิพากษาสั่งถอนประกันแล้วสั่งขังจำเลยโดยไม่ปรากฏว่ามีเจตนาร้ายละเมิดอำนาจและหน้าที่ ย่อมไม่มีมูลเป็นความผิดทางอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแขวงพิจารณาคดีอาญาเกี่ยวกับทรัพย์สิน แม้โจทก์ขอราคาทรัพย์สูง
ในคดีเรื่องยักยอกทรัพย์ซึ่งอัตราโทษอยู่ในอำนาจศาลแขวงนั้น แม้โจทก์จะขอให้ใช้ราคาทรัพย์มากมายเพียงใดศาลแขวงก็มีอำนาจพิพากษาได้
ศาลแขวงลงโทษฐานยักยอกทรัพย์ แต่ไม่รับพิจารณาในเรื่องที่ขอให้ใช้ทรัพย์ เมื่อศาลสูงเห็นว่า การไม่รับพิจารณานั้นทำไม่ถูกต้อง ก็ย้อนสำนวนให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาในเรื่องใช้ทรัพย์ใหม่.
(อ้างฎีกาที่ 180/2490)
ศาลแขวงลงโทษฐานยักยอกทรัพย์ แต่ไม่รับพิจารณาในเรื่องที่ขอให้ใช้ทรัพย์ เมื่อศาลสูงเห็นว่า การไม่รับพิจารณานั้นทำไม่ถูกต้อง ก็ย้อนสำนวนให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาในเรื่องใช้ทรัพย์ใหม่.
(อ้างฎีกาที่ 180/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์มรดกและค่าเช่า: ศาลมีอำนาจยึดทรัพย์รวมถึงดอกผลและสั่งให้ผู้เช่าชำระค่าเช่าให้เจ้าพนักงานบังคับคดีได้
การขอให้คุ้มครองก่อนพิพากษานั้น ศาลอาจสั่งให้ยึดหรืออายัติได้ทั้งสองอย่าง
เมื่อศาลสั่งยึดทรัพย์แล้วย่อมครอบถึงดอกผลนิตินัยด้วย เช่น ค่าเช่าเป็นต้น
เมื่อศาลสั่งยึดทรัพย์แล้วศาลย่อมมีอำนาจสั่งให้ผู้เช่าส่งค่าเช่าให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้โดยไม่ต้องดำเนินการไต่สวนอีก
คำสั่งของศาลที่ใช้ทรัพย์ทั้งหมดมาอยู่ในความดูแลของเจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมเป็นเรื่องยึดทรัพย์ ถ้าห้ามมิให้คนภายนอกทำการโอน, หรือชำระหนี้ ก็เป็นการอายัติ
เมื่อลักษณะของคำสั่งเป็นกรณีเรื่องใดแล้ว แม้จะเรียกชื่อคลาดเคลื่อนไป ก็ไม่สำคัญ
เมื่อศาลสั่งยึดทรัพย์แล้วย่อมครอบถึงดอกผลนิตินัยด้วย เช่น ค่าเช่าเป็นต้น
เมื่อศาลสั่งยึดทรัพย์แล้วศาลย่อมมีอำนาจสั่งให้ผู้เช่าส่งค่าเช่าให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้โดยไม่ต้องดำเนินการไต่สวนอีก
คำสั่งของศาลที่ใช้ทรัพย์ทั้งหมดมาอยู่ในความดูแลของเจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมเป็นเรื่องยึดทรัพย์ ถ้าห้ามมิให้คนภายนอกทำการโอน, หรือชำระหนี้ ก็เป็นการอายัติ
เมื่อลักษณะของคำสั่งเป็นกรณีเรื่องใดแล้ว แม้จะเรียกชื่อคลาดเคลื่อนไป ก็ไม่สำคัญ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดและอายัดทรัพย์มรดก: ศาลมีอำนาจสั่งยึดทรัพย์รวมถึงดอกผล และสั่งให้ชำระค่าเช่าแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้
การขอให้คุ้มครองก่อนพิพากษานั้น ศาลอาจสั่งให้ยึดหรืออายัดได้ทั้งสองอย่าง
เมื่อศาลสั่งยึดทรัพย์แล้วย่อมครอบถึงดอกผลนิตินัยด้วยเช่น ค่าเช่าเป็นต้น
เมื่อศาลสั่งยึดทรัพย์แล้วศาลย่อมมีอำนาจสั่งให้ผู้เช่าส่งค่าเช่าให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้โดยไม่ต้องดำเนินการไต่สวนอีก
คำสั่งของศาลที่ให้ทรัพย์ทั้งหมดมาอยู่ในความดูแลของเจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมเป็นเรื่องยึดทรัพย์ ถ้าห้ามมิให้คนภายนอก ทำการโอน หรือชำระหนี้ ก็เป็นการอายัด
เมื่อลักษณะของคำสั่งเป็นกรณีเรื่องใดแล้ว แม้จะเรียกชื่อคลาดเคลื่อนไป ก็ไม่สำคัญ
เมื่อศาลสั่งยึดทรัพย์แล้วย่อมครอบถึงดอกผลนิตินัยด้วยเช่น ค่าเช่าเป็นต้น
เมื่อศาลสั่งยึดทรัพย์แล้วศาลย่อมมีอำนาจสั่งให้ผู้เช่าส่งค่าเช่าให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้โดยไม่ต้องดำเนินการไต่สวนอีก
คำสั่งของศาลที่ให้ทรัพย์ทั้งหมดมาอยู่ในความดูแลของเจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมเป็นเรื่องยึดทรัพย์ ถ้าห้ามมิให้คนภายนอก ทำการโอน หรือชำระหนี้ ก็เป็นการอายัด
เมื่อลักษณะของคำสั่งเป็นกรณีเรื่องใดแล้ว แม้จะเรียกชื่อคลาดเคลื่อนไป ก็ไม่สำคัญ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 67/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาล: การโอนคดีจากศาลทหารไปศาลพลเรือน และข้อจำกัดในการอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณา
ศาลมณฑลทหารที่ 5 เพชรบุรี สั่งโอนคดีมาเป็นคดีของศาลจังหวัดเพชรบุรีอัยการเพชรบุรียื่นคำร้องคัดค้านว่าคดีนี้มีทหารประจำการกระทำผิดร่วมด้วย คดีอยู่ในอำนาจศาลทหาร ขอให้โอนคดีให้ศาลมณฑลทหารที่ 5ศาลเพชรบุรีสั่งยกคำร้อง โจทก์จะอุทธรณ์คำสั่งนี้ไม่ได้ เพราะเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน ต้องห้ามอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมแบบเขียนเอง: อำนาจศาลสั่งค่าธรรมเนียม-ทนายความเกินคำขอ
กรณีที่ว่าเป็นพินัยกรรมเขียนเอง
ข้อความในหนังสือที่ถือว่ามีลักษณะเป็นพินัยกรรม์
ศาลอุทธรณ์มีอำนาจสั่งให้ผู้แพ้คดีใช้ค่าธรรมเนียม,ค่าทนาย 2 ศาลแทนผู้อุทธรณ์ได้ แม้ผู้อุทธรณ์มิได้ขอมาในฟ้องอุทธรณ์ก็ตาม
ข้อความในหนังสือที่ถือว่ามีลักษณะเป็นพินัยกรรม์
ศาลอุทธรณ์มีอำนาจสั่งให้ผู้แพ้คดีใช้ค่าธรรมเนียม,ค่าทนาย 2 ศาลแทนผู้อุทธรณ์ได้ แม้ผู้อุทธรณ์มิได้ขอมาในฟ้องอุทธรณ์ก็ตาม