พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,432 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2743/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นอายุความและการครอบครองปรปักษ์: ศาลฎีกาตัดสินเรื่องการยกอุทธรณ์ที่ไม่ชอบ
เมื่อในชั้นชี้สองสถานศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นเรื่องคดีโจทก์ขาดอายุความไว้ และโจทก์ก็มิได้โต้แย้งคัดค้านนั้นปัญหาที่ว่าคำให้การจำเลยในเรื่องอายุความได้แสดงเหตุผลไว้โดยชัดแจ้งหรือไม่จึงไม่มีประเด็นในชั้นศาลอุทธรณ์ ทั้งปัญหานี้ไม่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ดังนั้นการที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกปัญหานี้ขึ้นวินิจฉัยแล้วพิพากษายกอุทธรณ์จำเลยจึงไม่ชอบ คดียังคงมีประเด็นที่ศาลอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยต่อไปในเรื่องอายุความ แต่เมื่อศาลฎีกาเห็นสมควรก็วินิจฉัยประเด็นข้อนี้ไปได้โดยไม่ต้องย้อนสำนวนคืนให้ศาลอุทธรณ์พิพากษา
การที่จำเลยต่อสู้คดีว่าที่พิพาทเป็นของมารดาจำเลยและจำเลยครอบครองแทนเกินกว่า 10 ปี จนได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382 แล้วนั้น เห็นได้ว่าจำเลยหรือมารดาจำเลยย่อมจะครอบครองปรปักษ์ในที่ดินของตนเองไม่ได้ กรณีจึงไม่ใช่เรื่องขาดอายุความ
การที่จำเลยต่อสู้คดีว่าที่พิพาทเป็นของมารดาจำเลยและจำเลยครอบครองแทนเกินกว่า 10 ปี จนได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382 แล้วนั้น เห็นได้ว่าจำเลยหรือมารดาจำเลยย่อมจะครอบครองปรปักษ์ในที่ดินของตนเองไม่ได้ กรณีจึงไม่ใช่เรื่องขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2710/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำและการยุติของข้อหา: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยข้อหาที่ยุติแล้ว แม้มีการอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยในข้อหาฐานลักทรัพย์แต่เพียงฐานเดียว เมื่อโจทก์ไม่อุทธรณ์ ต้องถือว่าข้อหาฐานรับของโจรเป็นอันยุติไปแล้ว การที่จำเลยอุทธรณ์ในข้อหาฐานรับของโจรว่าเป็นฟ้องซ้ำจึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดีแต่อย่างใด ไม่ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยให้ เมื่อโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานรับของโจรอีกศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2662/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีและการแก้ไขฟ้องหลังวันสืบพยาน ศาลฎีกาวินิจฉัยไม่ถือเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำหรือเป็นการไม่ชอบ
การที่ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี เพราะเหตุที่โจทก์ไม่มาศาล ไม่ใช่เป็นการวินิจฉัยชี้ขาดคดีหรือในประเด็นข้อใดแห่งคดี ดังนั้นแม้โจทก์จะได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่สั่งจำหน่ายคดีโดยผิดพลาด และศาลสั่งยกคำร้องไปครั้งหนึ่งแล้วก็ตาม โจทก์ก็มีสิทธิยื่นคำร้องใหม่ได้ ไม่ถือเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144
โจทก์ขอแก้ฟ้องจากคำว่า 'เช็คธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาวัดไทร' เป็น 'เช็คสหธนาคารกรุงเทพจำกัดสาขาวัดไทร' เป็นการขอแก้ถ้อยคำที่พิมพ์ผิดพลาดตกหล่นไปเล็กน้อย ย่อมแก้ได้เสมอแม้หลังวันสืบพยาน ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180
โจทก์ขอแก้ฟ้องจากคำว่า 'เช็คธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาวัดไทร' เป็น 'เช็คสหธนาคารกรุงเทพจำกัดสาขาวัดไทร' เป็นการขอแก้ถ้อยคำที่พิมพ์ผิดพลาดตกหล่นไปเล็กน้อย ย่อมแก้ได้เสมอแม้หลังวันสืบพยาน ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2642/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นความไม่สมบูรณ์ของพินัยกรรมต้องยกขึ้นต่อสู้ในชั้นศาลต้น หากไม่ยกขึ้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย แม้เป็นเรื่องความสงบเรียบร้อย
ปัญหาว่าพินัยกรรมเป็นโมฆะหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย อันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แต่ข้อเท็จจริงที่จะ นำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าว ซึ่งจำเลยฎีกาว่าผู้ทำพินัยกรรม มิได้ลงลายมือชื่อต่อหน้าพยานสองคนพร้อมกัน และมิได้ลงชื่อกำกับ รอยขีดฆ่าตกเติม จำเลยไม่ได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การ คงต่อสู้ เพียงว่า หากมารดาจำเลยลงชื่อในพินัยกรรมก็เกิดจากการฉ้อฉล ของโจทก์ ดังนี้ ศาลฎีกาไม่เห็นควรหยิบยกขึ้นวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2603/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคืนรถยนต์ของกลางที่ศาลฎีกายืนให้คืน และการชดใช้ค่าเสียหายจากการใช้รถทดแทน
คนขับรถยนต์ของโจทก์นำรถไปบรรทุกไม้ผิดกฎหมายศาลพิพากษาลงโทษและสั่งริบรถยนต์ ต่อมาศาลฎีกาพิพากษาให้คืนรถยนต์ของกลางแก่โจทก์ตามคำร้อง โจทก์ขอรับรถคืนสารวัตรสถานีตำรวจจำเลยที่ 3 ไม่คืนให้ เพราะได้ขายทอดตลาดไปแล้ว ดังนี้ กรมตำรวจจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ต้องร่วมกันคืนรถหรือใช้ราคารถตามสภาพขณะยึดมาเป็นของกลางไม่ใช่ตีราคาโดยอาศัยราคาที่ได้จากการขายทอดตลาด รวมทั้งค่าเสียหายที่ไม่ได้ใช้รถด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 255-256/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุม-ความรับผิดกรรมการสหภาพ: ศาลฎีกาวินิจฉัยการฟ้องต้องชัดเจน, ความรับผิดชอบกรรมการแยกต่างหาก
ฟ้องของโจทก์จะถูกต้องสมบูรณ์หรือเคลือบคลุมนั้น อยู่ที่ตัวฟ้องของโจทก์การที่จำเลยจะได้รับสำเนาฟ้องครบถ้วนหรือไม่หาทำให้ฟ้องที่ถูกต้องสมบูรณ์กลายเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมไปไม่
การกระทำโดยสหภาพแรงงานกับการกระทำโดยกรรมการสหภาพแรงงานนั้นไม่เหมือนกัน เพราะการกระทำโดยสหภาพแรงงานอาจเป็นการกระทำโดยมติของกรรมการอันมีเสียงข้างมากตามจำนวนที่กำหนดไว้ในระเบียบโดยที่กรรมการบางคนอาจไม่เห็นด้วย และคัดค้านการกระทำของสหภาพแรงงานนั้นก็เป็นได้ฉะนั้นการกระทำใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้างนั้น เป็นความรับผิดชอบของกรรมการผู้กระทำแต่ละคนไป ผู้ใดมิได้ร่วมกระทำด้วยก็หาต้องรับผิดชอบแต่ประการใดไม่
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์มีสิทธิได้รับเงินค่าวันหยุดพักผ่อนประจำปีตามจำนวนวันและเป็นเงินตามบัญชีรายละเอียดท้ายฟ้อง จำเลยยื่นบัญชีแสดงรายการวันเริ่มเข้าทำงาน อัตราค่าจ้าง และรายได้อื่น ๆ ของโจทก์ซึ่งบางรายการก็ตรงกับบัญชีของโจทก์อันเป็นการรับรองว่าถูกต้องบางรายการก็ไม่ตรงหรือไม่มี เท่ากับปฏิเสธว่าไม่ถูกต้อง สำหรับรายการเงินค่าวันหยุดพักผ่อนประจำปี จำเลยมิได้ระบุไว้ในบัญชี คงกล่าวไว้ในคำร้องที่ส่งบัญชีต่อศาลอันถือเป็นคำให้การว่านอกเหนือจากนั้นถือว่าปฏิเสธความถูกต้องทั้งสิ้น เพราะยังคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยปฏิเสธจำนวนวันและเงินค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี โจทก์จึงไม่ต้องนำสืบในข้อนี้
การกระทำโดยสหภาพแรงงานกับการกระทำโดยกรรมการสหภาพแรงงานนั้นไม่เหมือนกัน เพราะการกระทำโดยสหภาพแรงงานอาจเป็นการกระทำโดยมติของกรรมการอันมีเสียงข้างมากตามจำนวนที่กำหนดไว้ในระเบียบโดยที่กรรมการบางคนอาจไม่เห็นด้วย และคัดค้านการกระทำของสหภาพแรงงานนั้นก็เป็นได้ฉะนั้นการกระทำใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้างนั้น เป็นความรับผิดชอบของกรรมการผู้กระทำแต่ละคนไป ผู้ใดมิได้ร่วมกระทำด้วยก็หาต้องรับผิดชอบแต่ประการใดไม่
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์มีสิทธิได้รับเงินค่าวันหยุดพักผ่อนประจำปีตามจำนวนวันและเป็นเงินตามบัญชีรายละเอียดท้ายฟ้อง จำเลยยื่นบัญชีแสดงรายการวันเริ่มเข้าทำงาน อัตราค่าจ้าง และรายได้อื่น ๆ ของโจทก์ซึ่งบางรายการก็ตรงกับบัญชีของโจทก์อันเป็นการรับรองว่าถูกต้องบางรายการก็ไม่ตรงหรือไม่มี เท่ากับปฏิเสธว่าไม่ถูกต้อง สำหรับรายการเงินค่าวันหยุดพักผ่อนประจำปี จำเลยมิได้ระบุไว้ในบัญชี คงกล่าวไว้ในคำร้องที่ส่งบัญชีต่อศาลอันถือเป็นคำให้การว่านอกเหนือจากนั้นถือว่าปฏิเสธความถูกต้องทั้งสิ้น เพราะยังคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยปฏิเสธจำนวนวันและเงินค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี โจทก์จึงไม่ต้องนำสืบในข้อนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2519/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำคดีแรงงาน: การเรียกร้องเงินบำเหน็จหลังศาลตัดสินค่าชดเชย ศาลฎีกาวินิจฉัยสิทธิเรียกร้องเงินบำเหน็จ และดอกเบี้ย
คดีก่อนโจทก์ฟ้องว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรมขอให้จำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงาน ส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยจ่ายค่าบำเหน็จ ดังนี้ โจทก์มิได้ฟ้องคดีนี้โดยอาศัยเหตุและมิได้มีคำขอบังคับจำเลยเป็นอย่างเดียวกับคดีก่อนทั้งโจทก์ฟ้องคดีก่อนก็เพียงขอให้จำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงาน โจทก์จึงไม่อาจมีคำขอให้จำเลยจ่ายเงินบำเหน็จด้วยได้ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ส่วนปัญหาที่ว่าโจทก์มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จและดอกเบี้ยจากจำเลยหรือไม่นั้น เมื่อศาลแรงงานกลางยังมิได้วินิจฉัยศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยไปโดยไม่ต้องย้อนสำนวน
ส่วนปัญหาที่ว่าโจทก์มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จและดอกเบี้ยจากจำเลยหรือไม่นั้น เมื่อศาลแรงงานกลางยังมิได้วินิจฉัยศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยไปโดยไม่ต้องย้อนสำนวน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2514/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสัญญาซื้อขาย: ศาลฎีกาวินิจฉัยได้แม้ไม่เคยวินิจฉัยในศาลล่าง ตราบเท่าที่ฟ้องยังไม่เกิน 10 ปี
กรณีจำเลยผิดสัญญาและโจทก์มีสิทธิเรียกค่าปรับได้ตามสัญญามีกำหนดอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164
จำเลยยกเรื่องอายุความขึ้นต่อสู้และศาลชั้นต้นได้กำหนดเป็นประเด็นไว้แล้ว แต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องเพราะเห็นว่าโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าปรับได้โดยที่มิได้วินิจฉัยไปถึงประเด็นเรื่องอายุความเลยดังนั้น แม้ในชั้นอุทธรณ์จำเลยมิได้ยกเรื่องอายุความขึ้นกล่าวในคำแก้อุทธรณ์ ศาลฎีกาก็วินิจฉัยถึงเรื่องอายุความได้และไม่จำต้องย้อนไปให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัย
จำเลยยกเรื่องอายุความขึ้นต่อสู้และศาลชั้นต้นได้กำหนดเป็นประเด็นไว้แล้ว แต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องเพราะเห็นว่าโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าปรับได้โดยที่มิได้วินิจฉัยไปถึงประเด็นเรื่องอายุความเลยดังนั้น แม้ในชั้นอุทธรณ์จำเลยมิได้ยกเรื่องอายุความขึ้นกล่าวในคำแก้อุทธรณ์ ศาลฎีกาก็วินิจฉัยถึงเรื่องอายุความได้และไม่จำต้องย้อนไปให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิธีชั่วคราวก่อนพิพากษา: ศาลฎีกาไม่ต้องพิจารณาหากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว
ในเรื่องวิธีการชั่วคราวก่อนศาลชั้นต้นพิพากษานั้น เมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว ก็หมดความจำเป็นที่ศาลฎีกาจะต้องพิจารณาเกี่ยวกับคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวของโจทก์ต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิธีชั่วคราวก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา: ศาลฎีกาไม่ต้องพิจารณาคำร้องคุ้มครองชั่วคราวเมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว
ในเรื่องวิธีการชั่วคราวก่อนศาลชั้นต้นพิพากษานั้น เมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว ก็หมดความจำเป็นที่ศาลฎีกาจะต้องพิจารณาเกี่ยวกับคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวของโจทก์ต่อไป