คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ขับรถ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 267 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1232/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประมาทขับรถบนถนนชำรุดทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต ความรับผิดชอบและเหตุบรรเทาโทษ
จำเลยขับรถยนต์ไปตามถนนหลวงที่เป็นหลุมเป็นบ่อด้วยความเร็วสูง เป็นเหตุให้รถเกิดการกระแทกโดยแรง ทำให้เสื้อเพลารถซึ่งแตกร้าวอยู่ก่อนแล้วขาด ล้อหลังข้างซ้ายของรถจึงหลุดกลิ้งออกไปชนกระแทก ส. โดยแรงถึงแก่ความตาย นับว่าผลที่เกิดขึ้นจากความประมาทของจำเลย และเหตุที่ทำให้ ส. ตาย เป็นเรื่องที่ถึงคราวจะเกิดขึ้นในเวลาและสถานที่ที่พอดีกัน สภาพความผิดในคดีนี้ไม่เป็นความผิดประมาทอย่างร้ายแรง ทั้งคดีมีเหตุบรรเทาโทษโดยจำเลยให้การรับสารภาพและได้ช่วยเหลือจัดการศพผู้ตายสมควรให้รอการลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2332/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถที่อุปกรณ์สำคัญชำรุด และความสัมพันธ์กับเหตุการณ์ชน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำโดยประมาท โดยได้ขับรถยนต์ประจำทางซึ่งห้ามล้อมือใช้การไม่ได้ เพราะไม่มีอุปกรณ์สำหรับดึงประการหนึ่ง และขณะที่จำเลยขับรถไปนั้นมีรถข้างหน้าหยุด แต่จำเลยไม่ดูแลระมัดระวังให้รอบคอบในขณะที่ขับรถและไม่หยุดรถของจำเลยอีกประการหนึ่ง เป็นเหตุให้ขับชนรถจักรยานยนต์ซึ่งผู้ตายขับขี่ข้างหน้าไปชนกระแทกกับท้ายรถยนต์ประจำทางซึ่งจอดอยู่ข้างหน้าโดยแรงถึงแก่ความตายดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่ารถคันนี้ห้ามล้อมือใช้การไม่ได้โดยคันดึงไม่มี ย่อมถือว่าโจทก์สืบได้ความสมข้ออ้างประการหนึ่งแล้ว และข้อบกพร่องนี้ย่อมมีความสัมพันธ์กับการที่รถซึ่งจำเลยขับนั้นพุ่งเข้าชนรถแท็กซี่ด้วย เพราะถ้าจำเลยมิได้ประมาทโดยการนำรถยนต์ซึ่งมีเครื่องอุปกรณ์อันสำคัญใช้การไม่ได้เช่นนี้มาขับแล้ว เหตุร้ายย่อมไม่เกิดขึ้น จำเลยจะอ้างเอาเรื่องเหยียบห้ามล้อเท้าไม่ติดมาเนื่องจากห้ามล้อแตกเป็นข้อแก้ตัวหาได้ไม่ และต้องมีความผิดฐานกระทำโดยประมาทตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2332/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทจากการขับรถโดยไม่มีอุปกรณ์ความปลอดภัยและไม่ได้ใช้ความระมัดระวัง ทำให้เกิดอุบัติเหตุถึงแก่ความตาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำโดยประมาท โดยได้ขับรถยนต์ประจำทางซึ่งห้ามล้อมือใช้การไม่ได้ เพราะไม่มีอุปกรณ์สำหรับดึงประการหนึ่ง และขณะที่จำเลยขับรถไปนั้นมีรถข้างหน้าหยุด แต่จำเลยไม่ดูแลระมัดระวังให้รอบคอบในขณะที่ขับรถและไม่หยุดรถของจำเลยอีกประการหนึ่ง เป็นเหตุให้ขับชนรถจักรยานยนต์ซึ่งผู้ตายขับขี่ข้างหน้าไปชนกระแทกกับท้ายรถยนต์ประจำทางซึ่งจอดอยู่ข้างหน้าโดยแรงถึงแก่ความตายดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่ารถคันนี้ห้ามล้อมือใช้การไม่ได้โดยคันดึงไม่มี ย่อมถือว่าโจทก์สืบได้ความสมข้ออ้างประการหนึ่งแล้ว และข้อบกพร่องนี้ย่อมมีความสัมพันธ์กับการที่รถซึ่งจำเลยขับนั้นพุ่งเข้าชนรถแท็กซี่ด้วย เพราะถ้าจำเลยมิได้ประมาทโดยการนำรถยนต์ซึ่งมีเครื่องอุปกรณ์อันสำคัญใช้การไม่ได้เช่นนี้มาขับแล้ว เหตุร้ายย่อมไม่เกิดขึ้น จำเลยจะอ้างเอาเรื่องเหยียบห้ามล้อเท้าไม่ติดมาเนื่องจากห้ามล้อแตกเป็นข้อแก้ตัวหาได้ไม่ และต้องมีความผิดฐานกระทำโดยประมาทตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทจากการขับรถโดยห้ามล้อชำรุด เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
จำเลยขับรถยนต์โดยห้ามล้อมือและเท้าชำรุดใช้การไม่ได้อยู่แล้วขณะขับมาตามถนนเกิดเหตุซึ่งเป็นถนนจราจรทางเดียว รถยนต์ข้างหน้ารถจำเลยชลอหยุดรถเพราะรถคันข้างหน้าอีกคันหนึ่งเลี้ยวเข้าซอยด้านซ้ายมือ จำเลยจึงไม่สามารถหยุดรถทันท่วงทีเพราะความชำรุดใช้การไม่ได้ของห้ามล้อรถ และต้องหลบเฉี่ยวชนด้านท้ายรถข้างหน้าไปชนรถสามล้อบรรทุกซึ่งผู้ตายกำลังจูงอยู่ทางด้านขวามือ เป็นเหตุให้รถสามล้อพลิกตะแคงและครูดทับผู้ตาย ซึ่งถ้าห้ามล้อรถใช้การได้จำเลยก็ควรหยุดรถได้ทันเช่นเดียวกับรถคันข้างหน้า เช่นนี้ ต้องถือว่าจำเลยขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทจากการขับรถโดยห้ามล้อชำรุด เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
จำเลยขับรถยนต์โดยห้ามล้อมือและเท้าชำรุดใช้การไม่ได้อยู่แล้วขณะขับมาตามถนนเกิดเหตุซึ่งเป็นถนนจราจรทางเดียว รถยนต์ข้างหน้ารถจำเลยชลอหยุดรถเพราะรถคันข้างหน้าอีกคันหนึ่งเลี้ยวเข้าซอยด้านซ้ายมือ จำเลยจึงไม่สามารถหยุดรถทันท่วงทีเพราะความชำรุดใช้การไม่ได้ของห้ามล้อรถ และต้องหลบเฉี่ยวชนด้านท้ายรถข้างหน้าไปชนรถสามล้อบรรทุกซึ่งผู้ตายกำลังจูงอยู่ทางด้านขวามือ เป็นเหตุให้รถสามล้อพลิกตะแคงและครูดทับผู้ตาย ซึ่งถ้าห้ามล้อรถใช้การได้จำเลยก็ควรหยุดรถได้ทันเช่นเดียวกับรถคันข้างหน้า เช่นนี้ ต้องถือว่าจำเลยขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 445/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในทางการที่จ้าง: นายจ้างต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างเมื่อมอบหมายให้ขับรถ แม้ไม่ได้สั่งให้ไปในขณะเกิดเหตุ
เมื่อได้ความจากพยานหลักฐานของโจทก์ประกอบกับคำให้การของจำเลยทั้งสองว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างและมีหน้าที่ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2. ได้ขับรถยนต์ด้วยความประมาทชนโจทก์เสียหายเช่นนี้. ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ทำละเมิดในทางการที่จ้าง. เมื่อจำเลยที่ 2 ต่อสู้ว่าจำเลยที่ 1ลอบเอารถไปใช้ด้วยกิจธุระส่วนตัวของจำเลยที่ 1. แต่จำเลยที่ 2 ไม่ได้นำสืบให้ฟังได้ดังข้อต่อสู้. จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถ ผู้ขับขี่มีหน้าที่ต้องระมัดระวังเมื่อเห็นยานพาหนะขับขี่ผิดปกติ
จำเลยขับรถประจำทางมาตามถนนได้เห็นรถยนต์บรรทุกคันหนึ่งกำลังแล่นสวนทางมาในระยะห่างไปไม่น้อยกว่า 50 เมตร ในลักษณะผิดธรรมดา โดยแล่นกินทางตรงข้ามเข้ามาด้วยความเร็วสูงและส่ายไปมา เช่นนี้จำเลยควรมีหน้าที่หยุดรถหรือชลอรถแอบเข้าข้างทาง แต่กลับคงขับรถต่อไป และเพิ่งจะห้ามล้อเมื่อใกล้กันในระยะเพียง 7-8 เมตร และหักรถไปทางขวาเป็นเหตุให้รถชนกับรถบรรทุกนั้นจนมีผู้ตายและบาดเจ็บถือว่าเป็นการกระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์และอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้เพียงพอไม่ จำเลยจึงมีความผิดฐานประมาททำให้คนตายและบาดเจ็บ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถ: ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังเมื่อเห็นรถคู่แข่งขับผิดปกติ แม้จะไม่ได้หยุดรถ
จำเลยขับรถประจำทางมาตามถนนได้เห็นรถยนต์บรรทุกคันหนึ่งกำลังแล่นสวนทางมาในระยะห่างไปไม่น้อยกว่า 50 เมตรในลักษณะผิดธรรมดา โดยแล่นกินทางตรงข้ามเข้ามาด้วยความเร็วสูงและส่ายไปมาเช่นนี้ จำเลยควรมีหน้าที่หยุดรถหรือชลอรถแอบเข้าข้างทางแต่กลับคงขับรถต่อไป และเพิ่งจะห้ามล้อเมื่อใกล้กันในระยะเพียง 7-8 เมตร และหักรถไปทางขวาเป็นเหตุให้รถชนกับรถบรรทุกนั้นจนมีผู้ตายและบาดเจ็บถือว่าเป็นการกระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์และอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้เพียงพอไม่ จำเลยจึงมีความผิดฐานประมาททำให้คนตายและบาดเจ็บ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถ: หน้าที่ของผู้ขับขี่เมื่อเผชิญกับรถที่ขับผิดปกติและระยะปลอดภัย
จำเลยขับรถประจำทางมาตามถนนได้เห็นรถยนต์บรรทุกคันหนึ่งกำลังแล่นสวนทางมาในระยะห่างไปไม่น้อยกว่า 50 เมตร. ในลักษณะผิดธรรมดา โดยแล่นกินทางตรงข้ามเข้ามาด้วยความเร็วสูงและส่ายไปมา. เช่นนี้ จำเลยควรมีหน้าที่หยุดรถหรือชลอรถแอบเข้าข้างทาง แต่กลับคงขับรถต่อไป. และเพิ่งจะห้ามล้อเมื่อใกล้กันในระยะเพียง 7-8 เมตร และหักรถไปทางขวา.เป็นเหตุให้รถชนกับรถบรรทุกนั้นจนมีผู้ตายและบาดเจ็บ.ถือว่าเป็นการกระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์.และอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้เพียงพอไม่. จำเลยจึงมีความผิดฐานประมาททำให้คนตายและบาดเจ็บ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยในการขับรถ การประมาท และความรับผิดทางอาญา
จำเลยขับรถยนต์โดยสารภายในอัตราความเร็วตามกฎหมาย. เมื่อแซงขึ้นหน้ารถคันอื่นพ้นไปแล้ว. ก็เป็นเวลาพอดีที่มีรถถอยหลังออกจากซอยทางขวามือมาขวางถนนในระยะกระชั้นชิดเพียง 5-6 เมตร. จำเลยจึงหักพวงมาลัยหลบเป็นเหตุให้รถด้านซ้ายตกขอบทาง และเมื่อจำเลยหักขวาจะเข้าทางจึงเกิดเสียหลักพลิกตะแคงเป็นเหตุให้ผู้โดยสารถึงตายและบาดเจ็บ.ดังนี้ เห็นได้ว่าเป็นเรื่องที่จำเลยไม่อาจหลีกเลี่ยงให้พ้นภยันตรายโดยวิธีอื่นใดได้ นอกจากที่ได้ปฏิบัติไปแล้วนี้. กรณีไม่พอฟังว่าจำเลยได้กระทำโดยประมาท.
of 27