พบผลลัพธ์ทั้งหมด 246 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การย้ายภูมิลำเนาไม่สมบูรณ์ และการพิพากษาคดีล้มละลายตามภูมิลำเนาเดิม รวมถึงการพิจารณาหนี้สินล้นพ้นตัว
การแจ้งทะเบียนสำมะโนครัวย้ายที่อยู่ยังไม่เป็นการย้ายภูมิลำเนาจนกว่าจะได้ย้ายถิ่นที่อยู่เปลี่ยนภูมิลำเนาจริงก่อนครบ 1 ปี หลังจากย้ายภูมิลำเนา เจ้าหนี้ยังฟ้องคดีล้มละลายต่อศาลตามภูมิลำเนาเดิม ของลูกหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1475/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิขอทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์คดีล้มละลาย และอำนาจพิจารณาของศาลแต่ละชั้น
กรณีที่ผู้คัดค้านเป็นบุคคลภายนอกและเป็นเจ้าหนี้จำเลย เมื่อศาลแพ่งมีคำสั่งให้เพิกถอนการชำระหนี้ระหว่างลูกหนี้ (จำเลย) กับผู้คัดค้านและให้ผู้คัดค้านชำระเงินแก่กองทรัพย์สินของลูกหนี้จำเลยตามคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เมื่อผู้คัดค้านอุทธรณ์คำสั่ง ย่อมมีสิทธิขอทุเลาการบังคับได้
ในกรณีเช่นนี้พระราชบัญญัติล้มละลายมิได้บัญญัติเรื่องการทุเลาการบังคับไว้ จึงต้อนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 231 เรื่องการทุเลาการบังคับมาใช้บังคับซึ่งได้กำหนดวิธีการไว้เป็นพิเศษ ให้อยู่ในอำนาจของศาลเป็นขั้น ๆ ไป ถ้าเป็นการขอทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์ก็เป็นเรื่องอยู่ในอำนาจศาลอุทธรณ์ที่จะพิจาณาสั่ง ถ้าการขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกาก็อยู่ในอำนาจศาลฎีกา เมื่อผู้คัดค้านขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์สั่งในเรื่องการทุเลาการบังคับเป็นอย่างไรแล้ว ผู้คัดค้านไม่มีสิทธิฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์นั้น
ในกรณีเช่นนี้พระราชบัญญัติล้มละลายมิได้บัญญัติเรื่องการทุเลาการบังคับไว้ จึงต้อนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 231 เรื่องการทุเลาการบังคับมาใช้บังคับซึ่งได้กำหนดวิธีการไว้เป็นพิเศษ ให้อยู่ในอำนาจของศาลเป็นขั้น ๆ ไป ถ้าเป็นการขอทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์ก็เป็นเรื่องอยู่ในอำนาจศาลอุทธรณ์ที่จะพิจาณาสั่ง ถ้าการขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกาก็อยู่ในอำนาจศาลฎีกา เมื่อผู้คัดค้านขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์สั่งในเรื่องการทุเลาการบังคับเป็นอย่างไรแล้ว ผู้คัดค้านไม่มีสิทธิฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1475/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์และฎีกาในคดีล้มละลาย
กรณีที่ผู้คัดค้านเป็นบุคคลภายนอกและเป็นเจ้าหนี้จำเลยเมื่อศาลแพ่งมีคำสั่งให้เพิกถอนการชำระหนี้ระหว่างลูกหนี้ (จำเลย) กับผู้คัดค้าน และให้ผู้คัดค้านชำระเงินแก่กองทรัพย์สินของลูกหนี้จำเลยตามคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เมื่อผู้คัดค้านอุทธรณ์คำสั่งย่อมมีสิทธิขอทุเลาการบังคับได้
ในกรณีเช่นนี้พระราชบัญญัติล้มละลายมิได้บัญญัติเรื่องการทุเลาการบังคับไว้ จึงต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 231 เรื่องการทุเลาการบังคับมาใช้บังคับซึ่งได้กำหนดวิธีการไว้เป็นพิเศษให้อยู่ในอำนาจของศาลเป็นขั้น ๆ ไป ถ้าเป็นการขอทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์ก็เป็นเรื่องอยู่ในอำนาจศาลอุทธรณ์ที่จะพิจารณาสั่ง ถ้าการขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกาก็อยู่ในอำนาจศาลฎีกา เมื่อผู้คัดค้านขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์สั่งในเรื่องการทุเลาการบังคับเป็นอย่างไรแล้ว ผู้คัดค้านไม่ มีสิทธิฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์นั้น
ในกรณีเช่นนี้พระราชบัญญัติล้มละลายมิได้บัญญัติเรื่องการทุเลาการบังคับไว้ จึงต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 231 เรื่องการทุเลาการบังคับมาใช้บังคับซึ่งได้กำหนดวิธีการไว้เป็นพิเศษให้อยู่ในอำนาจของศาลเป็นขั้น ๆ ไป ถ้าเป็นการขอทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์ก็เป็นเรื่องอยู่ในอำนาจศาลอุทธรณ์ที่จะพิจารณาสั่ง ถ้าการขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกาก็อยู่ในอำนาจศาลฎีกา เมื่อผู้คัดค้านขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์สั่งในเรื่องการทุเลาการบังคับเป็นอย่างไรแล้ว ผู้คัดค้านไม่ มีสิทธิฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลแพ่งในคดีล้มละลาย: การคัดค้านคำสั่งอายัดเงินถูกต้องต้องทำต่อศาลเจ้าของสำนวน
กองบังคับคดีแพ่งส่งเงินที่โจทก์อายัดในคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยไปยังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายที่จำเลยถูกพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวตามคำสั่งศาลแพ่งดังนี้ โจทก์ชอบที่จะร้องคัดค้านต่อศาลแพ่งผู้ออกคำสั่งนั้น มิใช่ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลในคดีที่โจทก์ขอให้อายัดเงินนั้นไม่มีกฎหมายให้ศาลอื่นสั่งเพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ซึ่งปฏิบัติตามคำสั่งศาลแพ่งเจ้าของสำนวนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 494/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการพิจารณาคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: พิจารณาจากสำนวนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ หรือพิจารณาหลักฐานเพิ่มเติมก็ได้
การพิจารณาของศาลตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483มาตรา 107 อาจพิจารณาจากสำนวนการสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ หรือศาลอาจออกนั่งพิจารณาฟังพยานหลักฐานอีกก็ชอบที่จะทำได้(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 738-740/2507)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1538/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงให้ถอนฟ้องคดีล้มละลาย ไม่ถือเป็นฉ้อโกงหากไม่เกิดการได้มาซึ่งทรัพย์สิน
จำเลยได้หลอกลวงให้โจทก์หลงเชื่อและถอนฟ้องคดีล้มละลายคำฟ้องคดีล้มละลายไม่ใช่เอกสารสิทธิ จำเลยก็ไม่ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม โจทก์ถอนฟ้องไปจึงมิได้เป็นการถอนเอกสารสิทธิเพราะจำเลยหลอกลวงการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 466-467/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลคดีคัดค้านการยึดทรัพย์ในคดีล้มละลาย: พิจารณาตามอัตราทุนทรัพย์หรืออัตราทั่วไป
ผู้ร้องร้องคัดค้านการยึดทรัพย์ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โดยอ้างว่าทรัพย์ที่ถูกยึดเป็นของผู้ร้องไม่ใช่ของผู้ล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งไม่ให้ถอนการยึด ผู้ร้องจึงมายื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งเพิกถอนการยึดดังนี้ เป็นคดีที่จะต้องเสียค่าขึ้นศาลร้อยละสองครึ่งในจำนวนทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง ตามความในพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 179 วรรคสุดท้ายไม่ใช่ว่าต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียง 50 บาท ตามมาตรา 179(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 466-467/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลคดีคัดค้านการยึดทรัพย์ในคดีล้มละลาย: พิจารณาตามทุนทรัพย์หรืออัตราธรรมดา
ผู้ร้องร้องคัดค้านการยึดทรัพย์ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โดยอ้างว่าทรัพย์ที่ถูกยึดเป็นของผู้ร้องไม่ใช่ของผู้ล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งไม่ให้ถอนการยึด ผู้ร้องจึงมายื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งเพิกถอนการยึดดังนี้ เป็นคดีที่จะต้องเสียค่าขึ้นศาลร้อยละสองครึ่งในจำนวนทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง ตามความในพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 179 วรรคสุดท้ายไม่ใช่ว่าต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียง 50 บาท ตามมาตรา 179(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2045/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขาดนัดพิจารณาคดีล้มละลาย ศาลจำหน่ายคดี และไม่อุทธรณ์ได้ แม้เข้าใจผิดเวลานัด
กรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือแจ้งให้ผู้ร้องส่งมอบรถยนต์หรือชำระเงินต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาล แต่ผู้ร้องไม่มีศาลตามวันเวลาที่ศาลนัดไต่สวนนั้น พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153 ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม จึงต้องถือว่าผู้ร้องขาดนัดพิจารณาตามมาตรา 197 วรรคสอง
เมื่อผู้ร้องขาดนัดพิจารณาและเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้ศาลสั่งตามรูปคดี ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 นั้น แม้ผู้ร้องจะเข้าใจเวลานัดของศาลผิดไปโดยสุจริต ก็ไม่อาจดำเนินคดีต่อไปได้คงทำได้เพียงประการเดียว คือร้องเริ่มต้นคดีใหม่ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 119 (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 74/2512)
กรณีผู้ร้องขาดนัดพิจารณาซึ่งศาลสั่งจำหน่ายคดี กฎหมายห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งหรือมีคำขอให้พิจารณาคดีนั้นใหม่ ย่อมไม่มีความจำเป็นที่ศาลจะต้องไต่สวนคำร้องของผู้ร้องว่าจงใจขาดนัดหรือไม่
เมื่อผู้ร้องขาดนัดพิจารณาและเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้ศาลสั่งตามรูปคดี ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 นั้น แม้ผู้ร้องจะเข้าใจเวลานัดของศาลผิดไปโดยสุจริต ก็ไม่อาจดำเนินคดีต่อไปได้คงทำได้เพียงประการเดียว คือร้องเริ่มต้นคดีใหม่ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 119 (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 74/2512)
กรณีผู้ร้องขาดนัดพิจารณาซึ่งศาลสั่งจำหน่ายคดี กฎหมายห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งหรือมีคำขอให้พิจารณาคดีนั้นใหม่ ย่อมไม่มีความจำเป็นที่ศาลจะต้องไต่สวนคำร้องของผู้ร้องว่าจงใจขาดนัดหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2045/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขาดนัดพิจารณาคดีล้มละลาย ศาลจำหน่ายคดีตามกฎหมาย แม้เข้าใจผิดเรื่องเวลา
กรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือแจ้งให้ผู้ร้องส่งมอบรถยนต์หรือชำระเงินต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาล แต่ผู้ร้องไม่มีศาลตามวันเวลาที่ศาลนัดไต่สวนนั้น พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153 ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม จึงต้องถือว่าผู้ร้องขาดนัดพิจารณาตามมาตรา 197 วรรคสอง
เมื่อผู้ร้องขาดนัดพิจารณาและเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้ศาลสั่งตามรูปคดี ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 นั้น แม้ผู้ร้องจะเข้าใจเวลานัดของศาลผิดไปโดยสุจริต ก็ไม่อาจดำเนินคดีต่อไปได้คงทำได้เพียงประการเดียว คือร้องเริ่มต้นคดีใหม่ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 119 (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 74/2512)
กรณีผู้ร้องขาดนัดพิจารณาซึ่งศาลสั่งจำหน่ายคดี กฎหมายห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งหรือมีคำขอให้พิจารณาคดีนั้นใหม่ ย่อมไม่มีความจำเป็นที่ศาลจะต้องไต่สวนคำร้องของผู้ร้องว่าจงใจขาดนัดหรือไม่
เมื่อผู้ร้องขาดนัดพิจารณาและเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้ศาลสั่งตามรูปคดี ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 นั้น แม้ผู้ร้องจะเข้าใจเวลานัดของศาลผิดไปโดยสุจริต ก็ไม่อาจดำเนินคดีต่อไปได้คงทำได้เพียงประการเดียว คือร้องเริ่มต้นคดีใหม่ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 119 (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 74/2512)
กรณีผู้ร้องขาดนัดพิจารณาซึ่งศาลสั่งจำหน่ายคดี กฎหมายห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งหรือมีคำขอให้พิจารณาคดีนั้นใหม่ ย่อมไม่มีความจำเป็นที่ศาลจะต้องไต่สวนคำร้องของผู้ร้องว่าจงใจขาดนัดหรือไม่