พบผลลัพธ์ทั้งหมด 277 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1688/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงิน, อัตราดอกเบี้ยตามสัญญา, การยกเหตุขาดอายุความในชั้นฎีกา และขอบเขตการพิพากษาเกินคำขอ
ข้อที่ว่าตามสำเนาสัญญากู้ท้ายฟ้อง ไม่มีวันเดือนปีที่ทำสัญญาดังที่โจทก์บรรยายในฟ้อง จะรับฟังว่าโจทก์มีหลักฐานเป็นหนังสือไม่ได้นั้น จำเลยมิได้ให้การต่อสู้คดีไว้ และไม่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ทั้งไม่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีการับวินิจฉัยให้ไม่ได้
ตามสัญญากู้ไม่ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ เพียงแต่กำหนดไว้ว่าผู้กู้ยอมให้ดอกเบี้ยแก่ผู้ให้กู้ทุกเดือน โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ร้อยละ 15 ต่อปีศาลพิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีได้ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ
จำเลยฎีกาว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความแล้ว แต่ปรากฏว่าเมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าคดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ จำเลยก็มิได้อุทธรณ์โต้แย้งว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้ว ประเด็นข้อนี้จึงยุติไปแล้ว จำเลยจะหยิบยกขึ้นฎีกาอีกหาได้ไม่
ตามสัญญากู้ไม่ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ เพียงแต่กำหนดไว้ว่าผู้กู้ยอมให้ดอกเบี้ยแก่ผู้ให้กู้ทุกเดือน โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ร้อยละ 15 ต่อปีศาลพิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีได้ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ
จำเลยฎีกาว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความแล้ว แต่ปรากฏว่าเมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าคดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ จำเลยก็มิได้อุทธรณ์โต้แย้งว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้ว ประเด็นข้อนี้จึงยุติไปแล้ว จำเลยจะหยิบยกขึ้นฎีกาอีกหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1714/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานลักทรัพย์เกินคำขอในฟ้อง ศาลฎีกาแก้ไขโทษให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ฟ้องว่าวิ่งราวทรัพย์ ไม่ปรากฏเหตุฉกรรจ์ เป็นฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 วรรคแรก ได้ความว่าลักทรัพย์ลงโทษตาม มาตรา 335(7) ลักทรัพย์โดยมีอาวุธไม่ได้ ทั้ง มาตรา335(7)มีโทษหนักกว่า มาตรา 336 วรรคแรก ศาลลงโทษตาม มาตรา334
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์ต้องมีคำขอ ศาลไม่สามารถริบของกลางเกินคำขอได้
การริบทรัพย์เป็นโทษอย่างหนึ่ง การจะริบทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33 เป็นเรื่องอยู่ในดุลพินิจของศาล
เมื่อโจทก์มิได้มีคำขอให้ริบธนบัตรของกลาง ศาลริบธนบัตรนั้นไม่ได้ เพราะเป็นการพิพากษาเกินคำขอ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคแรก
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์และธนบัตรฉบับละ 10 บาท 2 ฉบับที่เป็นธนบัตรของเจ้าพนักงานตำรวจมอบให้ผู้มีชื่อไปซื้อจากจำเลย และขอให้คืนธนบัตรดังกล่าวแก่เจ้าพนักงานตำรวจ ในชั้นอุทธรณ์โจทก์ก็ยืนยันเช่นนั้น การที่โจทก์ฎีกาว่าธนบัตรของกลางเป็นทรัพย์ของจำเลยได้มาจากการกระทำผิดจึงนอกฟ้อง และโจทก์เพิ่มเติมคำขอให้ริบของกลางเข้ามาในชั้นฎีกาไม่ได้
เมื่อโจทก์มิได้มีคำขอให้ริบธนบัตรของกลาง ศาลริบธนบัตรนั้นไม่ได้ เพราะเป็นการพิพากษาเกินคำขอ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคแรก
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์และธนบัตรฉบับละ 10 บาท 2 ฉบับที่เป็นธนบัตรของเจ้าพนักงานตำรวจมอบให้ผู้มีชื่อไปซื้อจากจำเลย และขอให้คืนธนบัตรดังกล่าวแก่เจ้าพนักงานตำรวจ ในชั้นอุทธรณ์โจทก์ก็ยืนยันเช่นนั้น การที่โจทก์ฎีกาว่าธนบัตรของกลางเป็นทรัพย์ของจำเลยได้มาจากการกระทำผิดจึงนอกฟ้อง และโจทก์เพิ่มเติมคำขอให้ริบของกลางเข้ามาในชั้นฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์ต้องมีคำขอ การเปลี่ยนแปลงคำขอในชั้นฎีกาทำไม่ได้ ศาลต้องพิจารณาตามคำขอเดิม
การริบทรัพย์เป็นโทษอย่างหนึ่ง การจะริบทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 เป็นเรื่องอยู่ในดุลพินิจของศาล
เมื่อโจทก์มิได้มีคำขอให้ริบธนบัตรของกลาง ศาลริบธนบัตรนั้นไม่ได้ เพราะเป็นการพิพากษาเกินคำขอ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคแรก
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์และธนบัตรฉบับละ 10 บาท2 ฉบับที่เป็นธนบัตรของเจ้าพนักงานตำรวจมอบให้ผู้มีชื่อไปซื้อจากจำเลย และขอให้คืนธนบัตรดังกล่าวแก่เจ้าพนักงานตำรวจ ในชั้นอุทธรณ์โจทก์ก็ยืนยันเช่นนั้นการที่โจทก์ฎีกาว่าธนบัตรของกลางเป็นทรัพย์ของจำเลยได้มาจากการกระทำผิดจึงนอกฟ้อง และโจทก์เพิ่มเติมคำขอให้ริบของกลางเข้ามาในชั้นฎีกาไม่ได้
เมื่อโจทก์มิได้มีคำขอให้ริบธนบัตรของกลาง ศาลริบธนบัตรนั้นไม่ได้ เพราะเป็นการพิพากษาเกินคำขอ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคแรก
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์และธนบัตรฉบับละ 10 บาท2 ฉบับที่เป็นธนบัตรของเจ้าพนักงานตำรวจมอบให้ผู้มีชื่อไปซื้อจากจำเลย และขอให้คืนธนบัตรดังกล่าวแก่เจ้าพนักงานตำรวจ ในชั้นอุทธรณ์โจทก์ก็ยืนยันเช่นนั้นการที่โจทก์ฎีกาว่าธนบัตรของกลางเป็นทรัพย์ของจำเลยได้มาจากการกระทำผิดจึงนอกฟ้อง และโจทก์เพิ่มเติมคำขอให้ริบของกลางเข้ามาในชั้นฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 431/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตคำขอในคดีมรดก: โจทก์ต้องขอแบ่งมรดกในฐานะทายาทอย่างชัดเจน มิเช่นนั้นเป็นการเกินคำขอ
ตามคำฟ้องของโจทก์ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยส่งมอบทรัพย์สินทั้งหมดของ จ. ให้กับโจทก์ โดยอ้างว่าทรัพย์สินทั้งนั้นเป็นสินเดิมของ จ. ตกเป็นมรดก โจทก์เป็นผู้จัดการทรัพย์สินของ จ. ผู้สาบสูญตามคำสั่งศาล จะได้จัดแบ่งให้กับทายาทของ จ. ต่อไปแม้โจทก์จะอ้างว่าเป็นบุตรของ จ. ซึ่งมีฐานะเป็นทายาทของ จ. ด้วย และทรัพย์สินของ จ. ตกเป็นมรดกแต่โจทก์มิได้แสดงโดยแจ้งชัดในคำฟ้องว่า โจทก์ขอให้แบ่งมรดกให้โจทก์ในฐานะที่โจทก์เป็นทายาท และมิได้มีคำขอบังคับท้ายฟ้องเช่นนั้น ดังนั้น ศาลจะพิพากษาให้แบ่งทรัพย์สินของ จ. เป็นกรณีมรดกไม่ได้ เป็นการเกินคำขอ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142วรรคแรก และกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตาม (2) เพราะโจทก์มิได้ฟ้องเรียกทรัพย์มรดกเป็นของตนทั้งหมด ซึ่งศาลอาจพิพากษาให้โจทก์ได้รับแต่เพียงบางส่วนได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1360/2517ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2281/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาเกินคำขอและขาดหลักฐานการใช้อาวุธในคดีปล้นทรัพย์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ โดยมิได้บรรยายว่าจำเลยกับพวกได้กระทำโดยแสดงความทารุณจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ใช้ปืนยิงใช้วัตถุระเบิดหรือกระทำทรมาน ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่ ด้วยจึงเกินคำขอที่โจทก์กล่าวในฟ้อง ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 และที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2514) ข้อ 15 ด้วยนั้น ยังไม่ถูกต้อง เพราะคดีไม่ได้ความว่าจำเลยเป็นผู้มีหรือใช้อาวุธปืนในการกระทำผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1107/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการฎีกาประเด็นใหม่ที่ไม่เคยยกขึ้นในศาลชั้นต้น และการเปลี่ยนแปลงคำขอในคำแก้ฎีกา
จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มีสิทธิที่จะเช่านาพิพาทจนครบ6 ปี แต่จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้แต่ศาลชั้นต้นจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 แม้ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าไม่มีเหตุอันสมควรที่จะยกขึ้นวินิจฉัย ก็ไม่ยกขึ้นวินิจฉัยให้
โจทก์มิได้ฎีกาขอให้ศาลฎีกาพิพากษาให้โจทก์ได้รับค่าเสียหายเต็มตามฟ้อง แม้จะได้ขอเช่นนั้นมาในคำแก้ฎีกา ศาลฎีกาก็พิพากษาเพิ่มค่าเสียหายขึ้นไม่ได้
โจทก์มิได้ฎีกาขอให้ศาลฎีกาพิพากษาให้โจทก์ได้รับค่าเสียหายเต็มตามฟ้อง แม้จะได้ขอเช่นนั้นมาในคำแก้ฎีกา ศาลฎีกาก็พิพากษาเพิ่มค่าเสียหายขึ้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 937/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการพิพากษาลงโทษฐานพยายามกระทำความผิด แม้ไม่ได้มีคำขอโดยตรง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานข่มขืนกระทำชำเรา แต่การกระทำของจำเลยเป็นความผิดเพียงฐานพยายาม ศาลมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยฐานพยายามได้ ไม่เกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2847/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตที่ดินพิพาท: ศาลใช้แผนที่กลางเป็นหลัก หากพิพากษาไม่เกินเนื้อที่ในแผนที่ ไม่ถือว่าเกินคำขอ
โจทก์กล่าวในฟ้องว่าที่ดินของโจทก์เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่โดยระบุความกว้างยาว และอาณาเขตติดต่อมาในคำฟ้องด้วยชั้นพิจารณาคู่ความตกลงขอให้ศาลสั่งเจ้าหน้าที่ทำแผนที่กลางคู่ความทั้งสองฝ่ายตรวจดูแผนที่ดังกล่าวแล้วรับว่าถูกต้อง ดังนี้เมื่อมีการทำแผนที่กลางเนื้อที่มากขึ้นหรือน้อยลงจากคำฟ้องอย่างไรก็ต้องถือตามแผนที่กลาง และถ้าศาลพิพากษาให้ฝ่ายชนะคดีได้ที่ดินไม่เกินจำนวนตามแผนที่กลางระบุไว้ ย่อมถือไม่ได้ว่าเป็นการพิจารณาคดีเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2658/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอระบุพยานเพิ่มเติมหลังสืบพยานฝ่ายตรงข้าม และขอบเขตการพิพากษาเกินคำขอ
การขอระบุพยานเพิ่มเติมหลังจากที่คู่ความฝ่ายที่มีหน้าที่นำสืบก่อนสืบไปหมดแล้ว คู่ความฝ่ายนั้นต้องแสดงเหตุผลอันสมควรที่ตนไม่สามารถทราบได้ว่าต้องนำพยานหลักฐานบางอย่างมาสืบเพื่อ ประโยชน์ของตน หรือไม่ทราบว่าพยานหลักฐานบางอย่างได้มีอยู่หรือมีเหตุอันสมควรอื่นใด เมื่อคำร้องของจำเลยที่ 2ที่ขอระบุพยานเพิ่มเติมหลังจากสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นไปแล้วมิได้แสดงเหตุผลดังกล่าวเพียงแต่อ้างว่าพลั้งเผลอเท่านั้น ศาลสั่งไม่อนุญาตจึงเป็นการชอบแล้ว
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์สินเป็นของตนทั้งหมดจากจำเลย แต่พิจารณาได้ความว่าโจทก์ควรได้แต่ส่วนแบ่ง ศาลพิพากษาให้แบ่งทรัพย์พิพาทไม่เป็นการพิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์สินเป็นของตนทั้งหมดจากจำเลย แต่พิจารณาได้ความว่าโจทก์ควรได้แต่ส่วนแบ่ง ศาลพิพากษาให้แบ่งทรัพย์พิพาทไม่เป็นการพิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง