พบผลลัพธ์ทั้งหมด 497 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4388/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการคัดค้านการขายทอดตลาด: การไม่ปฏิบัติตามคำคัดค้านของจำเลยและการไม่ยื่นคำร้องต่อศาลภายในกำหนด
จำเลยที่ 2 ที่ 3 ฎีกาว่า เจ้าพนักงานบังคับคดี ไม่ควรขายที่ดินที่ถูกยึดแปลงที่ 8 และแปลงที่ 9 กับแปลงที่ 10และแปลงที่ 11 รวมกัน เพราะถ้าแยกขายแปลงที่ 8 และแปลงที่ 9 จะทำให้รายได้ในการขายเพิ่มขึ้นกว่าการขายรวมกัน และการขายแปลงที่ 10 กับแปลงที่ 11 รวมกันทำให้ ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ที่ขายเป็นเงินของจำเลยที่ 2 และที่ 3 คนละเท่าไร เพราะที่ดินแปลงที่ 10 มีชื่อจำเลยที่ 2 ที่ 3เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน แต่แปลงที่ 11 จำเลยที่ 3มีกรรมสิทธิ์เพียงคนเดียว เมื่อปรากฏว่า ในวันขายทอดตลาดนั้นจำเลยที่ 2 ที่ 3 มาดูแลการขายด้วย และยังได้คัดค้านการรวมขายที่ดินแปลง ที่ 8 และแปลงที่ 9 กับแปลงที่ 10และแปลงที่ 11 แล้ว แต่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่บันทึกไว้และบอกให้ไปร้องต่อศาลเอง กรณีเท่ากับว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ยอมปฏิบัติตามคำคัดค้านของจำเลยที่ 2ที่ 3 จำเลยที่ 2 ที่ 3 ก็ชอบที่จะต้องไปยื่นคำร้องขอต่อศาลขอให้มีคำสั่งชี้ขาดเสียภายในสองวัน นับแต่วันที่ เจ้าพนักงานบังคับคดีปฏิเสธคำคัดค้านของจำเลยที่ 2 ที่ 3ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 วรรคท้ายเมื่อจำเลยที่ 2 และที่ 3 มิได้ยื่นคำร้องต่อศาล เสีย ภายในกำหนดเวลาดังกล่าว จำเลยที่ 2 ที่ 3 จะยกเป็นเหตุคัดค้านภายหลังไม่ได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ โจทก์เป็นธนาคารพาณิชย์ ย่อมมีสิทธิซื้อที่ดินที่จำนองเป็นประกันไว้แก่โจทก์จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลเพื่อชำระหนี้โจทก์ได้ตามพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. 2505มาตรา 12(4)(ข)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3880/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเฉลี่ยทรัพย์จากการบังคับคดีและการพิจารณาเรื่องกำหนดเวลาการยื่นคำร้อง
หลังจากผู้ร้องยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2532 ขอให้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยเงินที่ขายหรือจำหน่ายที่ดินของจำเลยแล้ว ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องอื่นรวมทั้งคำแถลงต่อศาลอีกหลายครั้ง และตามรายงานการเดินหมายของเจ้าหน้าที่ศาลลงวันที่28 มิถุนายน 2532 ก็ระบุว่าเจ้าหน้าที่ศาลได้นำหมายนัดไปส่งแก่จำเลยด้วย แต่ส่งไม่ได้ การที่ผู้ร้องยื่นคำแถลงเมื่อวันที่3 กรกฎาคม 2532 ว่า ยังส่งสำเนาคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ให้จำเลยไม่ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ศาลส่งหมายนัดให้จำเลยอีกครั้งแสดงว่าผู้ร้องทราบดีว่าศาลกำหนดวันนัดพิจารณาคำร้องและผู้ร้องทราบวันนัดนั้นแล้วดังนั้น การที่ฝ่ายผู้ร้องไม่ไปศาลในวันนัดจึงเป็นการทราบคำสั่งแล้วเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนด ซึ่งเป็นการทิ้งคำร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) กรณีที่ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีอื่นร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของจำเลยในคดีที่โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้จำนองยึดไว้เพื่อขายทอดตลาดนั้น มิใช่เป็นกรณีเฉลี่ยทรัพย์โดยตรงกับโจทก์เพราะโจทก์เป็นเจ้าหนี้จำนองแต่เป็นกรณีที่ผู้ร้องมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากเงินที่เหลือภายหลังที่ได้ชำระให้แก่โจทก์แล้ว ต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 มาบังคับใช้โดยอนุโลมเมื่อการขายทอดตลาดครั้งหลังที่โจทก์เป็นผู้ประมูลได้ ยังไม่มีการยกเลิกโดยคำสั่งใดต้องถือว่ามีการขายทอดตลาดแล้ว ผู้ร้องต้องยื่นคำร้องก่อนสิ้นระยะเวลา 14 วัน นับแต่วันที่ขายทอดตลาด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3581/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ต้องยื่นคำร้องภายใน 1 เดือน นับแต่วันลงมติ หากพ้นกำหนดสิทธิขาด
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่โดยอ้างว่าผู้คัดค้านนัดเรียกประชุมไม่ถูกต้องเป็นผลให้การประชุมใหญ่และการลงมติในที่ประชุมไม่ถูกต้อง ต้องด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1195 ผู้ร้องต้องร้องขอให้เพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ภายใน 1 เดือน นับแต่วันลงมติเมื่อได้ความจากคำร้องของผู้ร้องว่าผู้ร้องยื่นคำร้องเมื่อพ้นกำหนดคดีจึงพอวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องทำการไต่สวน ที่ศาลชั้นต้นงดทำการไต่สวนจึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3431/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลในการไต่สวนคำร้องขอเป็นผู้จัดการทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้ ศาลมีสิทธิยกคำร้องได้หากข้อกล่าวอ้างไม่น่าเชื่อถือ
คำร้องขอให้ตั้งผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์หรือการประกอบกิจการตามความใน ป.วิ.พ.มาตรา 307 ไม่มีกฎหมายบังคับว่าศาลจะต้องทำการไต่สวนคำร้องเสียก่อนแล้วจึงจะมีคำสั่งได้ การที่จะต้องไต่สวนตามคำร้องเสียก่อนแล้วจึงจะมีคำสั่งหรือไม่ ย่อมอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะพิจารณาเห็นสมควรเป็นเรื่อง ๆ ไป
ตามคำร้องของจำเลยอ้างว่า ทรัพย์สินของจำเลยที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้นั้น จำเลยได้ใช้ประกอบกิจการหารายได้มีรายได้ประจำปีเพียงพอที่จะนำมาชำระหนี้ตามคำพิพากษารวมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมในการฟ้องร้องและการบังคับคดีได้ แต่ตามพฤติการณ์ในสำนวนปรากฏว่าจำเลยได้ผิดนัดชำระหนี้นับถึงวันที่จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลคิดเป็นเวลาได้ไม่ต่ำกว่า 5 ปี โดยในระหว่างนั้นไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ชำระหนี้หรือผ่อนชำระหนี้ให้แก่โจทก์แต่อย่างใด ทั้ง ๆ ที่ตามคำพิพากษาของศาลก็เปิดโอกาสให้จำเลยผ่อนชำระหนี้ได้ จึงเป็นที่เห็นได้ว่าข้อกล่าวอ้างของจำเลยตามคำร้องเป็นเพียงการกล่าวอ้างลอย ๆ ศาลชอบที่จะสั่งยกคำร้องเสียได้โดยไม่จำต้องทำการไต่สวนตามคำร้องเสียก่อน
ตามคำร้องของจำเลยอ้างว่า ทรัพย์สินของจำเลยที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้นั้น จำเลยได้ใช้ประกอบกิจการหารายได้มีรายได้ประจำปีเพียงพอที่จะนำมาชำระหนี้ตามคำพิพากษารวมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมในการฟ้องร้องและการบังคับคดีได้ แต่ตามพฤติการณ์ในสำนวนปรากฏว่าจำเลยได้ผิดนัดชำระหนี้นับถึงวันที่จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลคิดเป็นเวลาได้ไม่ต่ำกว่า 5 ปี โดยในระหว่างนั้นไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ชำระหนี้หรือผ่อนชำระหนี้ให้แก่โจทก์แต่อย่างใด ทั้ง ๆ ที่ตามคำพิพากษาของศาลก็เปิดโอกาสให้จำเลยผ่อนชำระหนี้ได้ จึงเป็นที่เห็นได้ว่าข้อกล่าวอ้างของจำเลยตามคำร้องเป็นเพียงการกล่าวอ้างลอย ๆ ศาลชอบที่จะสั่งยกคำร้องเสียได้โดยไม่จำต้องทำการไต่สวนตามคำร้องเสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3249/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการวินิจฉัยคำร้องละเมิดอำนาจศาล และสิทธิในการอุทธรณ์ฎีกา
ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลเป็นความผิดต่อศาล และการลงโทษย่อมเป็นอำนาจของศาลโดยเฉพาะ การที่จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองได้กระทำความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนข้อเท็จจริงนั้น ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยว่าสมควรจะทำการไต่สวนหรือไม่เมื่อเห็นว่าไม่สมควรที่จะทำการไต่สวนก็ชอบที่จะยกคำร้องได้ ดังนั้น คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ไต่สวนดังกล่าว จึงเป็นอำนาจของศาลโดยเฉพาะจำเลยย่อมมิใช่ผู้เสียหายอันจะมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งของศาลนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1425/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้แย้งคำสั่งศาลชี้สองสถาน: คำร้องแก้ไขประเด็นข้อพิพาทไม่ใช่คำร้องตามมาตรา 27(2)
ศาลชั้นต้นชี้สองสถานกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อนโดยไม่ชอบวันนัดสืบพยานโจทก์โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นกำหนดหน้าที่นำสืบใหม่โดยให้จำเลยเป็นฝ่ายนำสืบก่อน ดังนี้ ถือได้ว่าคำร้องของ โจทก์ดังกล่าวเป็นคำโต้แย้งคัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นที่กำหนดประเด็นข้อพิพาทโดยไม่ชอบตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 226(2) เพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์ มิใช่คำร้องที่จะต้องยื่นต่อศาลภายใน 8 วันตามมาตรา 27 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1373/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องเพิกถอนการเลือกตั้งต้องระบุรายละเอียดการกระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งที่ชัดเจน
การร้องขอต่อศาลเพื่อให้มีคำสั่งเพิกถอนการเลือกตั้ง และให้มีการเลือกตั้งใหม่จะต้องปรากฏว่าเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง กรรมการตรวจคะแนนหรือเจ้าหน้าที่คะแนนคนใดคนหนึ่งหรือทั้งหมดกระทำการอันฝ่าฝืน พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 มาตรา 51,52 เมื่อคำร้องกล่าวอ้างเหตุคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแต่เพียงว่า มีการรายงานผลล่าช้า น่าเชื่อว่ามีการถ่วงเวลาและมีการทุจริตในการเลือกตั้งเท่านั้น มิได้บรรยายถึงรายละเอียดว่า ได้มีการกระทำการฝ่าฝืนข้อห้ามของกฎหมายดังกล่าวในหน่วยเลือกตั้งใด เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง กรรมการตรวจคะแนน เจ้าหน้าที่คะแนนหรือเจ้าหน้าที่อื่น ๆ คนใดกระทำการดังกล่าวนี้ และมิได้มีข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริตหรือกระทำมิชอบด้วยกฎหมายประการใด จึงเป็นคำร้องที่ไม่ได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหานั้น จึงเป็นคำร้องที่เคลือบคลุมไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 172 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1137/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นต้องยื่นคำร้องภายใน 1 เดือน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1195
ผู้ร้องอ้างในคำร้องว่า การดำเนินการทำหนังสือขอให้เปิดประชุมใหญ่วิสามัญไม่ได้ส่งไปยังผู้ถือหุ้นทุกคน ตัวแทนหรือผู้รับมอบฉันทะจากผู้ถือหุ้นไม่มีสิทธิเสนอวาระและแสดงความคิดเห็นผู้ถือหุ้นและตัวแทนผู้รับมอบฉันทะจากผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสียไม่มีสิทธิลงมติ จำนวนหุ้นของผู้ถือหุ้นที่ลงมติน้อยกว่า 1 ใน 3 ของหุ้นบริษัท การลงมติให้เลิกและขายกิจการบริษัทต้องกระทำโดยมติที่ประชุมใหญ่ การลงมติขัดต่อข้อบังคับและกฎหมายขอให้เพิกถอนมติเป็นเรื่องที่อ้างว่าการเรียกประชุมหรือการประชุมและการลงมติของที่ประชุมได้กระทำไปโดยมิชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1195 ซึ่งจะต้องยื่นคำร้องขอต่อศาลภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันลงมตินั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านการบังคับคดี: ต้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นก่อนอุทธรณ์
หากจำเลยเห็นว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีโดยไม่ชอบและฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการบังคับคดีจำเลยชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นที่บังคับคดีนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง เมื่อศาลไต่สวนและมีคำสั่งแล้ว จำเลยจึงจะมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาต่อไป การที่จำเลยอ้างว่าได้คัดค้านการขายทอดตลาดด้วยวาจา แล้วอุทธรณ์คำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีหรือศาลที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดไปทีเดียว ย่อมเป็นการไม่ชอบและไม่อาจทำได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีหลังศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว ศาลไม่มีอำนาจสั่งเลื่อน
ในวันนัดพิจารณาคดีล้มละลาย จำเลยมาศาลและยื่นคำร้อง ขอเลื่อนการพิจารณา หลังจากศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัด พิจารณาและสืบพยานโจทก์เสร็จจนมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ จำเลยเด็ดขาดแล้ว ถือว่าจำเลยขอเลื่อนคดีเมื่อการพิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว ศาลย่อมไม่มีอำนาจที่จะสั่งให้เลื่อนการพิจารณาได้