คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
จำหน่าย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 632 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2541 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องคดีจำหน่ายยาเสพติด: การระบุปริมาณสารบริสุทธิ์ไม่จำเป็นต้องระบุในคำฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีเฮโรอีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำนวน 3 หลอด น้ำหนัก 2.98 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและได้จำหน่ายเฮโรอีนดังกล่าวให้แก่ผู้มีชื่อเป็นเงิน 1,800 บาท อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำเลยให้การรับสารภาพ แม้โจทก์มิได้ระบุน้ำหนักเฮโรอีนของกลางว่ามีสารบริสุทธิ์หนักเท่าไร แต่ตามคำฟ้องโจทก์ได้บรรยายข้อเท็จจริงและรายละเอียดต่าง ๆ ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 158 (5) แห่ง ป.วิ.อ. ซึ่งทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว สำหรับน้ำหนักเฮโรอีนของกลางที่เป็นสารบริสุทธิ์จะมีน้ำหนักเท่าใดนั้นเป็นเรื่องที่จะนำสืบในชั้นพิจารณาได้ จำเลยเองก็ฎีกายอมรับว่าเป็นเรื่องประกอบดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลเท่านั้น คำฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6951/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย: พยานหลักฐานสนับสนุนการกระทำผิดร่วมกัน
พยานโจทก์ที่รู้เห็นและเป็นพยานในคดีเป็นเจ้าพนักงานตำรวจผู้มีหน้าที่จับกุมและปราบปรามการกระทำความผิดตามอำนาจหน้าที่ของตน หากเบิกความบิดเบือนจากข้อเท็จจริงอาจมีความผิดและได้รับโทษ จึงมีเหตุผลน่าเชื่อว่าเบิกความไปตามสัตย์จริงส่วนการมีสายลับมาช่วยในการล่อซื้อด้วยเป็นแต่เพียงการกระทำเท่าที่จำเป็นและสมควรในการสืบหาพยานหลักฐาน ตามอำนาจในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2(10) ชอบที่เจ้าพนักงานตำรวจจะกระทำได้เพื่อให้ได้โอกาสจับกุมพร้อมด้วยพยานหลักฐาน แม้จะไม่นำตัวสายลับมาสืบเนื่องจากเพื่อประโยชน์แก่ราชการในภายหน้าหรือเพื่อความปลอดภัยของสายลับ ก็รับฟังพยานบุคคลและของกลางที่เกี่ยวข้องกับสายลับนั้นได้ว่ามีสายลับช่วยในการล่อซื้อจริงพยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมาจึงมีน้ำหนักมั่นคงฟังได้โดยปราศจากสงสัยว่าจำเลยที่ 1 ได้กระทำผิดจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6951/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย: พยานหลักฐานแน่นชัด ศาลยืนตามคำพิพากษาศาลล่าง
พยานโจทก์ที่รู้เห็นและเป็นพยานในคดีเป็นเจ้าพนักงานตำรวจผู้มีหน้าที่จับกุมและปราบปรามการกระทำความผิดตามอำนาจหน้าที่ของตน หากเบิกความบิดเบือนจากข้อเท็จจริงอาจมีความผิดและได้รับโทษ จึงมีเหตุผลน่าเชื่อว่าเบิกความไปตามสัตย์จริงส่วนการมีสายลับมาช่วยในการล่อซื้อด้วยเป็นแต่เพียงการกระทำเท่าที่จำเป็นและสมควรในการสืบหาพยานหลักฐาน ตามอำนาจในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2(10) ชอบที่เจ้าพนักงานตำรวจจะกระทำได้เพื่อให้ได้โอกาสจับกุมพร้อมด้วยพยานหลักฐาน แม้จะไม่นำตัวสายลับมาสืบเนื่องจากเพื่อประโยชน์แก่ราชการในภายหน้าหรือเพื่อความปลอดภัยของสายลับ ก็รับฟังพยานบุคคลและของกลางที่เกี่ยวข้องกับสายลับนั้นได้ว่ามีสายลับช่วยในการล่อซื้อจริงพยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมาจึงมีน้ำหนักมั่นคงฟังได้โดยปราศจากสงสัยว่าจำเลยที่ 1 ได้กระทำผิดจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 64/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด (เมทแอมเฟตามีน) เกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด โทษจำคุกตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์
พยานโจทก์ทั้งสามไม่เคยมีสาเหตุกับจำเลยที่2มาก่อนเบิกความถึงพฤติการณ์ที่จำเลยทั้งสองร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อขายอย่างสอดคล้องเชื่อมโยงกันกอปรด้วยเหตุผลและจำเลยที่2ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและสอบสวนโดยสมัครใจคำรับสารภาพดังกล่าวย่อมใช้ยันจำเลยที่2ในชั้นพิจารณาได้และโจทก์ยังมีคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่1ที่ให้การว่าจำเลยที่2มีส่วนร่วมในการกระทำผิดซึ่งแม้จะเป็นคำซัดทอดของผู้กระทำผิดด้วยกันแต่ก็ไม่มีกฎหมายห้ามมิให้รับฟังศาลมีอำนาจรับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นของโจทก์ได้พยานหลักฐานของโจทก์จึงมีน้ำหนักเชื่อได้โดยปราศจากสงสัยว่าจำเลยที่2ได้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่1จริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 63/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด: พยานหลักฐานแน่นหนา ศาลยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
พยานโจทก์ทั้งสามผู้ร่วมจับกุมจำเลยทั้งสองเบิกความสอดคล้องต้องตรงกันยืนยันว่าได้แอบซุ่มดูขณะที่สายลับล่อซื้อเฮโรอีนจากจำเลยที่1โดยสายลับเข้าไปพูดกับจำเลยที่1แล้วจำเลยที่1หันไปพูดกับจำเลยที่2จากนั้นจำเลยที่2เดินเข้าไปในถนนซอยสักครู่ก็กลับออกมาส่งถุงพลาสติกให้จำเลยที่1จำเลยที่1หยิบกล่องกระดาษจากถุงออกส่งให้สายลับสายลับส่งธนบัตรให้จำเลยที่2เมื่อสายลับให้สัญญาณและนำเฮโรอีนที่ล่อซื้อได้มามอบให้จึงเข้าตรวจค้นและจับจำเลยทั้งสองซึ่งเหตุที่จับจำเลยทั้งสองก็เพราะได้มีการสืบทราบและวางแผนจับกุมมาก่อนและที่เกิดเหตุมีแสงไฟฟ้าส่องสว่างชั้นจับกุมจำเลยทั้งสองก็ให้การรับสารภาพพยานโจทก์จึงมีน้ำหนักควรแก่การรับฟัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5925/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองยาเสพติดเพื่อเสพ vs. จำหน่าย และเหตุจำเป็นในการพกพาอาวุธ
ข้อเท็จจริงได้ความจากคำพยานโจทก์แต่เพียงว่า เฮโรอีนของกลางเป็นของจำเลยเท่านั้น แต่โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานที่รู้เห็นเหตุการณ์หรือพยานแวดล้อมมานำสืบพิสูจน์ให้เห็นว่า จำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้เพื่อจำหน่ายให้แก่ใคร ที่ไหน และอย่างไร หลังจากถูกจับแล้วจำเลยก็ให้การรับสารภาพมาแต่แรกว่า จำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้เพื่อเสพ ตลอดจนเฮโรอีนของกลางก็มีน้ำหนักเพียง 9.90 กรัม จึงไม่ต้องด้วยข้อสันนิษฐานของกฎหมายตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสอง ดังนั้น พยานหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะฟังว่าจำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
ขณะถูกจับกุมจำเลยกำลังรอรับเงินตามเช็คจากธนาคารจำนวน 700,000 บาท ซึ่งเป็นการเบิกเงินสดจำนวนมาก ดังนั้น การที่จำเลยนำอาวุธปืนของกลางติดตัวไป ย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำที่มีเหตุอันสมควรเพราะเป็นการกระทำเพื่อป้องกันทรัพย์สินอันมีค่าของตน อีกทั้งอาวุธปืนของกลางเป็นอาวุธปืนของจำเลยซึ่งได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนให้มีไว้ในครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย และการพาอาวุธปืนของกลางติดตัวไปของจำเลย ก็เป็นการใส่ไว้ในกระเป๋าถืออย่างมิดชิดอีกด้วย จึงถือได้ว่าเป็นการพาไปโดยมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ การที่จำเลยพาอาวุธปืนของกลางติดตัวไปดังกล่าวจึงไม่มีความผิดต่อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 548/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายยาเสพติดต่างกรรมต่างวาระ โจทก์ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ากัญชาที่จำหน่ายคือส่วนหนึ่งของกัญชาที่ครอบครอง
โจทก์บรรยายฟ้องข้อ ก. ว่า จำเลยมีกัญชา 3 ถุงไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และบรรยายฟ้องข้อ ข. ว่า จำเลยจำหน่ายกัญชาจำนวนและน้ำหนักไม่ปรากฏชัดอันเป็นส่วนหนึ่งของกัญชาที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายดังกล่าวในฟ้องข้อ ก.ให้แก่ผู้มีชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อตามฟ้องดังกล่าวโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานจำหน่ายกัญชาอันเป็นส่วนหนึ่งของกัญชา 3 ถุง ตามฟ้องข้อ ก. ซึ่งยึดได้ที่บ้านจำเลยเท่านั้นแต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณากลับได้ความว่ากัญชาที่ จำเลยจำหน่ายไปตามฟ้องข้อ ข. เป็นกัญชาคนละจำนวนกับกัญชา 3 ถุง ที่ยึดได้ที่บ้านจำเลย ดังนี้เมื่อข้อเท็จจริงในทางพิจารณาแตกต่างจากที่กล่าวในฟ้องจึงลงโทษจำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4836/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตพินัยกรรม: ทรัพย์สินที่มีอยู่และที่จะได้มาในอนาคต ยังคงเป็นวัตถุแห่งพินัยกรรม แม้จำหน่ายทรัพย์สินเดิมไปแล้ว
ข้อกำหนดตามพินัยกรรมฉบับพิพาทระบุถึงทรัพย์สินที่มีอยู่ในขณะทำพินัยกรรมหรือที่จะมีต่อไปภายหน้าอันเป็นการทั่วไป มิได้จำกัดเฉพาะที่ดินหรือทรัพย์สินสิ่งใดไว้โดยเฉพาะเจาะจง ดังนั้น แม้ผู้ทำพินัยกรรมจะจำหน่ายที่ดินหรือทรัพย์สินส่วนของตนไปหมดแล้ว แต่หากได้ทรัพย์สินอื่นมาภายหลัง ทรัพย์สินดังกล่าวย่อมเป็นวัตถุแห่งข้อกำหนดในพินัยกรรม กรณีถือไม่ได้ว่าผู้ทำพินัยกรรมได้โอนไปโดยสมบูรณ์ซึ่งทรัพย์สินอันเป็นวัตถุแห่งข้อกำหนดพินัยกรรมตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1696และต้องถือว่าข้อกำหนดตามพินัยกรรมยังมีผลบังคับได้โดยชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4183/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งบรรจุเฮโรอีนเป็นส่วนย่อยเพื่อสะดวกในการจำหน่าย ถือเป็นการ 'ผลิต' ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
เจ้าพนักงานตำรวจค้นพบเฮโรอีนบรรจุในหลอดกาแฟจำนวน28หลอดอยู่ในกล่องพลาสติกที่จำเลยถืออยู่และยังมีหลอดกาแฟเปล่าขนาดเดียวกันที่ตัดไว้โดยเปิดด้านหนึ่งอยู่อีกถึง33หลอดประกอบกับในชั้นจับกุมจำเลยรับสารภาพว่าซื้อเฮโรอีนมาแบ่งบรรจุในหลอดกาแฟและแสดงท่าบรรจุเฮโรอีนในหลอดกาแฟเปล่าให้เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับดูด้วยทั้งในชั้นสอบสวนจำเลยก็รับว่าหลอดกาแฟเปล่าเตรียมไว้เพื่อบรรจุเฮโรอีนพฤติการณ์ของจำเลยที่แบ่งเฮโรอีนออกเป็นส่วนย่อยและบรรจุลงในหลอดกาแฟดังกล่าวและยังมีหลอดกาแฟเปล่าขนาดเดียวกันจำนวนมากแม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นขั้นตอนที่จำเลยทำการแบ่งบรรจุใส่ในหลอดกาแฟแต่ก็เป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยกระทำเพื่อความสะดวกในการจัดจำหน่ายนั่นเองจึงฟังได้โดยปราศจากสงสัยว่าจำเลยกระทำความผิดฐานผลิตเฮโรอีน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายและครอบครองเฮโรอีนเพื่อจำหน่าย: การพิจารณาความผิดฐานครอบครองเมื่อมีการจำหน่ายบางส่วน
นอกจากจำเลยจำหน่ายเฮโรอีน1หลอดให้แก่สายลับแล้วจำเลยยังมีเฮโรอีนอีก1หลอดที่ขว้างทิ้งเป็นของกลางเฮโรอีนทั้งสองหลอดจึงเป็นเฮโรอีนที่จำเลยเจตนามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายไม่อาจแยกว่าเฮโรอีน1หลอดจำเลยเจตนามีไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายให้แก่สายลับไปแล้วส่วนเฮโรอีนอีก1หลอดที่เหลือจำเลยเพียงมีเจตนามีไว้ในครอบครองเพราะเฮโรอีนทั้งสองหลอดถือว่าเป็นเฮโรอีนจำนวนเดียวกันจำเลยจึงมีความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนกรรมหนึ่งและฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอีกกรรมหนึ่ง
of 64