คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ดำเนินคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 254 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผูกพันตามคำสั่งศาลและการรับโอนสิทธิในทรัพย์สินจากกองมรดก ผู้รับโอนต้องผูกพันตามผลของการดำเนินคดีที่ดำเนินการไปแล้ว
โจทก์ฟ้องเรียกเอาที่จากนางป้าหญ้าระหว่างคดีนางป้าหญ้าตายลงนายมะแข่งบุตรนางป้าหญ้าได้ยื่นคำร้องขอรับมรดกความนางป้าหญ้าเพื่อดำเนินคดีกับโจทก์ต่อไป.จำเลยก็ยื่นคำร้องต่อศาลขอรับมรดกคดีนางป้าหญ้าด้วยโดยอ้างเหตุว่าเพราะนางป้าหญ้าได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้จำเลยศาลสั่งให้จำเลยฟ้องนายมะแข่งเพื่อแสดงว่าจำเลยมีสิทธิในกองทรัพย์สินดีกว่านายมะแข่งแต่จำเลยไม่จัดการฟ้องนายมะแข่งในเวลาที่ศาลกำหนด.ศาลจึงสั่งให้นายมะแข่งรับมรดกความนางป้าหญ้า นายมะแข่งจึงดำเนินคดีกับโจทก์ต่อมาได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยนายมะแข่งยอมให้ที่พิพาทเป็นของโจทก์ๆ ตกลงชำระเงินให้นายมะแข่งจำนวนหนึ่งเช่นนี้ถือว่าถ้าแม้จำเลยจะมีสิทธิตามพินัยกรรมจริงจำเลยก็ต้องได้รับผลของการดำเนินคดีที่นายมะแข่งได้ทำไปเท่ากับจำเลยยอมให้นายมะแข่งดำเนินการแทนจำเลยจะอ้างว่าจำเลยได้จัดการให้อำเภอโอนที่พิพาทให้จำเลยโดยถูกต้องตามสิทธิในพินัยกรรมมายันโจทก์ไม่ได้เมื่อโจทก์ได้ชำระเงินให้นายมะแข่งครบก็ย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทและฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสั่งห้ามประกอบการค้าระหว่างการดำเนินคดีอาญา: ต้องมีมูลความผิดทางอาญาเสียก่อน
จำเลยประกอบการเลื่อยไม้อันเป็นการค้าประเภทต้องควบคุมตามประกาศใช้เทศบัญญัติ ฯโดยไม่ได้รับอนุญาตดังนี้ โจทก์จะฟ้องทางแพ่งขอให้ศาลสั่งห้ามโดยอาศัยอำนาจความในพ.ร.บ.สาธารณะสุข พ.ศ.2484 มาตรา 68 โดยไม่ปรากฎว่าจำเลยทำผิดรับโทษทางอาญาความมาตรานี้อย่างใดดังนี้เท่ากับขอให้สั่งห้ามไปก่อนโดยลำพัง (โดยไม่ปรากฎความผิด)เช่นนี้ เป็นคำขอที่ไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสั่งห้ามประกอบการค้าระหว่างการดำเนินคดีอาญา: ต้องมีมูลความผิดอาญาเสียก่อน จึงจะออกคำสั่งห้ามได้
จำเลยประกอบการเลื่อยไม้อันเป็นการค้าประเภทต้องควบคุมตามประกาศใช้เทศบัญญัติฯโดยไม่ได้รับอนุญาตดังนี้ โจทก์จะฟ้องทางแพ่งขอให้ศาลสั่งห้าม โดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติสาธารณะสุข พ.ศ.2484 มาตรา 68 โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยทำผิดรับโทษทางอาญาตามมาตรานี้อย่างใดดังนี้เท่ากับขอให้สั่งห้ามไปก่อนโดยลำพัง(โดยไม่ปรากฏความผิด) เช่นนี้เป็นคำขอที่ไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินคดีกับจำเลยที่อยู่ระหว่างการล้มละลายและการอุทธรณ์คำสั่งศาล
เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดในคดีล้มละลายแล้ว เจ้าหนี้ต้องไปขอรับชำระหนี้ทางเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะมาดำเนินคดีทางศาสนาหาได้ไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องไปแล้ว โจทก์จึงยื่นอุทธรณ์แต่เสียค่าธรรมเนียมไม่ครบถ้วนศาลมีคำสั่งให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมให้ครบ
โจทก์ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งโดยทำเป็นคำร้องยื่นไปยังศาลอุทธรณ์ตาม ม. 234 หาใช่ยื่นฟ้องอุทธรณ์คำสั่งไม่ เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตาม ม. 236 วรรคต้น โจทก์จะฎีกาหาได้ไม่
อ้างฎีกาที่ 1223/2498

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินคดีกับจำเลยที่ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด และกระบวนการอุทธรณ์คำสั่งศาล
เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดในคดีล้มละลายแล้วเจ้าหนี้ต้องไปขอรับชำระหนี้ทางเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะมาดำเนินคดีทางศาลหาได้ไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องไปแล้ว โจทก์จึงยื่นอุทธรณ์แต่เสียค่าธรรมเนียมไม่ครบถ้วน ศาลมีคำสั่งให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมให้ครบ โจทก์ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งโดยทำเป็นคำร้องยื่นไปยังศาลอุทธรณ์ตาม มาตรา 234 หาใช่ยื่นฟ้องอุทธรณ์คำสั่งไม่ เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ เช่นนี้คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตาม มาตรา 236 วรรคต้น โจทก์จะฎีกาหาได้ไม่
อ้างฎีกาที่ 1223/2498

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 116/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีใหม่เนื่องจากจำเลยวิกลจริตขณะดำเนินคดี
ในระยะเวลาที่โจทก์ยื่นฟ้องจำเลย ก็ดี ส่งหมายต่างๆให้จำเลยจนกระทั้งพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี ก็ดี เป็นไปในระหว่างจำเลยเป็นโรคเส้นประสาทอย่างแรงถึงขนาดที่เรียกว่าวิกลจริต หรือสติฟั่นเฟือนไม่ปรติ ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยมิได้จงใจหลีกเลี่ยงไปต่อสู้คดี ฉะนั้นเมื่อจำเลยร้องขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ ก็มีเหตุสมควรให้ดำเนินการพิจารณาใหม่ได้ ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 209,

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823-825/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของไวยาวัจจกร: การมอบอำนาจดำเนินคดีแทนวัด แม้หนังสือมอบอำนาจฉบับแรกไม่ชัดเจน
ไวยาวัจจกรเป็นโจทก์ ฟ้องคดีแทนวัด จำเลยคัดค้านว่าไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะมิได้รับมอบอำนาจโดยถูกต้อง เมื่อ ปรากฎว่า โจทก์มีเอกสารที่คณะสงฆ์วัดนั้นแต่งตั้งโจทก์เป็นไวยาวัจจกร และปรากำว่าเจ้าอาวาสวัดนั้นก็ได้ทำหนัง สือมอบอำนาจให้โจทก์ดำเนินคดีแทนวัดได้อีกฉะบับหนึ่ง แม้หนังสือฉะบับแรกจะมิได้ปรากฎชัดว่าให้โจทก์ดำเนิน คดีได้ก็ดี แต่หนังสือฉะบับหลังมอบอำนาจให้ดำเนินคดีได้ไว้ชัดเจน การที่โจทก์เพิ่งแสดงหนังสือมอบอำนาจฉะบับ หลังภายหลังนั้นไม่เป็นเหตุให้ศาลไม่รับฟัง เพราะตัวการย่อมรับรองการกระทำของตัวแทนได้ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 823 โจทก์จึงฟ้องความแทนวัดได้ โดยชอบ./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823-825/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของไวยาวัจจกร: การมอบอำนาจดำเนินคดีแทนวัด แม้การมอบอำนาจจะไม่ชัดเจนในตอนแรก แต่การมอบอำนาจภายหลังย่อมใช้ได้
ไวยาวัจจกรเป็นโจทก์ ฟ้องคดีแทนวัด จำเลยคัดค้านว่าไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะมิได้รับมอบอำนาจโดยถูกต้อง เมื่อปรากฏว่าโจทก์มีเอกสารที่คณะสงฆ์วัดนั้นแต่งตั้งโจทก์เป็นไวยาวัจจกร และปรากฏว่าเจ้าอาวาสวัดนั้นก็ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์ดำเนินคดีแทนวัดได้อีกฉบับหนึ่งแม้หนังสือฉบับแรกจะมิได้ปรากฏชัดว่าให้โจทก์ดำเนินคดีได้ก็ดี แต่หนังสือฉบับหลังมอบอำนาจให้ดำเนินคดีได้ไว้ชัดเจน การที่โจทก์เพิ่งแสดงหนังสือมอบอำนาจฉบับหลังภายหลังนั้นไม่เป็นเหตุให้ศาลไม่รับฟัง เพราะตัวการย่อมรับรองการกระทำของตัวแทนได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 823 โจทก์จึงฟ้องความแทนวัดได้ โดยชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 402/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นโทษหมิ่นประมาทในลักษณะอาญา: การคุ้มครองคู่ความในการดำเนินคดี
ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 285 นั้น เป็นบทยกเว้นโทษให้แก่คู่ความ เพื่อเปิดโอกาศให้คู่ความได้ดำเนินคดีได้เต็มที่ และเป็นข้อยกเว้นโทษของมาตรา 116 ด้วย ถ้าการหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานตามมาตรา 116 นั้น มีมูลฐานมาจากความผิดตามมาตรา 282.
จำเลยแก้อุทธรณ์ที่อัยการโจทก์อุทธรณ์ แม้ถ้อยคำที่จำเลยใช้ในคำแก้อุทธรณ์นั้น จะไม่สมควรหลายแห่ง แต่เมื่อยังเป็นเรื่องที่ได้รับยกเว้นตามมาตรา 285 แล้ว จำเลยก็ยังไม่ผิด./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 402/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นโทษหมิ่นประมาทในระหว่างการดำเนินคดี: มาตรา 285 และ 116
กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 285 นั้น เป็นบทยกเว้นโทษให้แก่คู่ความ เพื่อเปิดโอกาสให้คู่ความได้ดำเนินคดีได้เต็มที่และเป็นข้อยกเว้นโทษของมาตรา 116 ด้วยถ้าการหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานตามมาตรา 116 นั้นมีมูลฐานมาจากความผิดตามมาตรา 282
จำเลยแก้อุทธรณ์ที่อัยการโจทก์อุทธรณ์แม้ถ้อยคำที่จำเลยใช้ในคำแก้อุทธรณ์นั้น จะไม่สมควรหลายแห่งแต่เมื่อยังเป็นเรื่องที่ได้รับยกเว้นตามมาตรา 285 แล้วจำเลยก็ยังไม่ผิด
of 26