พบผลลัพธ์ทั้งหมด 186 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2474
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้องหลังพยานเบิกความแล้ว และผลกระทบต่อสิทธิจำเลยในการต่อสู้คดี
โจทก์ขอแก้ฟ้องเมื่อเสร็จการพิจารณาสำนวนฝ่ายโจทก์แล้วก็ได้ (เทียบฎีกาที่ 686/71) อย่างไรเรียกว่าฟ้องผิดวันทำให้จำเลยหลงต่อสู้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2474
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ต่อสู้คดีอย่างถูกต้องทำให้สิทธิเรียกร้องเงินที่ผ่อนชำระขาดอายุความ
อย่างไรเรียกว่าคดีตัดสินเด็ดขาดแล้ว ลูกหนี้ผ่อนใช้เงินแล้ว 1000 บาท ครั้นถูกฟ้องลูกหนี้ไม่มาต่อสู้คดี ต้องใช้เงินเต็ม จะมาฟ้องเรียกเงินที่ผ่อนไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 331/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิในเรือนจากการซื้อขายสุจริต แม้มีคดีถึงที่สุดแล้ว ไม่ปิดสิทธิจำเลยต่อสู้คดี
วิธีพิจารณาแพ่งคำพิพากษาในคดีเรื่องก่อนที่เด็ดขาดแล้ว ซึ่งจำเลยในคดีนี้มิได้เปนคู่ความด้วย ไม่ปิดปากและไม่ตัดสิทธิจำเลยในคดีนี้ที่จะต่อสู้คดีต่อไป หน้าที่นำสืบ โจทก์อ้างว่าจำเลยซื้อเรือนเปนการสมยอม เปนหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบ ประมวลแพ่ง ฯ ม.456 ซื้อขายเรือนราคา 1000 บาท โดยทำกรมธรรม์สัญญาต่ออำเภอ ผู้ซื้อได้กรรมสิทธิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาผิดวันและผลต่อการต่อสู้คดีของจำเลย
อย่างไรเรียกว่าฟ้องผิดวัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 107/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิในแมว: การต่อสู้คดีอาญาและเจตนาทุจริต
ฟ้องหาว่าจำเลยทำผิดทางอาญา จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 686/2471
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้อันฟ้องและการต่อสู้คดี: ศาลอนุญาตแก้อันฟ้องได้หากจำเลยไม่หลงต่อสู้คดี
ขอแก้วันกระทำผิดในฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2471
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพลาดของพยานต่อสู้คดีไม่มีผลต่อการตัดสิน
พยานหลงข้อต่อสู้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13293/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการอนุญาตถอนฟ้อง, ดุลพินิจศาล, ฟ้องไม่สมบูรณ์, การต่อสู้คดี
โจทก์ขอถอนฟ้องคดีภายหลังจำเลยที่ 1 และที่ 5 ยื่นคำให้การแล้วซึ่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 175 วรรคสอง บัญญัติว่า "...ศาลจะอนุญาตภายในเงื่อนไขตามที่เห็นสมควรก็ได้ แต่ (1) ห้ามไม่ให้ศาลอนุญาต โดยมิได้ฟังจำเลยหรือผู้ร้องสอด ถ้าหากมี ก่อน..." ซึ่งเป็นดุลพินิจของศาลที่จะพิจารณาสั่งได้ ดังนั้น แม้โจทก์ขอถอนฟ้องอ้างว่าฟ้องไม่สมบูรณ์ และจำเลยที่ 1 และที่ 5 จะคัดค้านการถอนฟ้องเหตุตามคำร้องโจทก์ดังกล่าว ก็อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะสั่งอนุญาตได้ และศาลไม่อาจนำข้อที่โจทก์อ้างตามคำร้องขอถอนฟ้องว่าฟ้องโจทก์ไม่สมบูรณ์มาเป็นเงื่อนไขในการสั่งคำร้องขอถอนฟ้องด้วย เพราะตาม ป.วิ.พ. มาตรา 176 ก็ไม่ได้ห้ามโจทก์ที่ถอนฟ้องยื่นฟ้องคดีใหม่ภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยอายุความ ดังนี้ การถอนฟ้องของโจทก์เพื่อดำเนินคดีแก่จำเลยทั้งห้าและทายาทหรือผู้จัดการมรดกของ พ. เป็นคดีใหม่ จำเลยทั้งห้าก็ยังมีสิทธิต่อสู้คดีได้เต็มที่เช่นเดิม จึงฟังไม่ได้ว่าการถอนฟ้องคดีของโจทก์ไม่สุจริต ทำให้จำเลยที่ 1 และที่ 5 เสียเปรียบในการต่อสู้คดีตามจำเลยที่ 1 และที่ 5 คัดค้าน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1586/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิอุทธรณ์เพื่อต่อสู้คดี ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
การใช้สิทธิอุทธรณ์เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย เนื้อหาในฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 โดยจำเลยที่ 1 ทนายความผู้เรียงอุทธรณ์ เป็นการดำเนินการเพื่อต่อสู้คดีของจำเลยที่ 2 เพื่อให้พ้นความผิดตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น การยื่นอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการที่คู่ความหรือทนายความของคู่ความแสดงความคิดเห็นหรือข้อความในกระบวนพิจารณาคดีในศาลเพื่อประโยชน์แก่คดีของตน จึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทตาม ป.อ. มาตรา 331
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10108/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องคดีรับของโจร: เพียงพอต่อการเข้าใจข้อหาและต่อสู้คดีหรือไม่
ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) การบรรยายฟ้องให้บรรยายถึงสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี เพื่อจำเลยจะต่อสู้คดีได้ถูกต้องเท่านั้น โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยรับของโจรโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2 เครื่อง และซิมการ์ด 2 แผ่น รวมราคา 15,500 บาท ของผู้เสียหายที่ถูก ศ. ลักไป แม้โจทก์ไม่ระบุหมายเลขของทรัพย์ดังกล่าว แต่เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธ โจทก์มีหน้าที่นำสืบว่าทรัพย์นั้นมีหมายเลขอะไรเพื่อแสดงว่าทรัพย์นั้นเป็นของผู้เสียหายและได้สูญหายไปอยู่ที่จำเลยโดยจำเลยรับซื้อไว้ ซึ่งจำเลยก็สามารถซักค้านและนำสืบหักล้างได้อย่างเต็มที่ ไม่ถือว่าทำให้จำเลยต้องเสียเปรียบในการต่อสู้คดี ส่วนที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า หลังจากจำเลยรับของโจรทรัพย์ดังกล่าวแล้ว จำเลยนำไปจำหน่ายให้แก่ผู้มีชื่อ ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจยึดทรัพย์จากผู้มีชื่อเป็นของกลาง ก็เป็นการบรรยายถึงการกระทำที่อ้างว่าจำเลยรับของโจรเพื่อค้ากำไร ซึ่งทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว โดยไม่จำต้องระบุชื่อผู้รับของกลางไว้จากจำเลยอีก ดังนี้ ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม